เมนูจากเครื่องใน อร่อย ทำเองได้ไม่ยาก ไร้กลิ่นคาว

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามาเอาใจสาวกคุณพ่อบ้านแม่บ้านกันอีกแล้วนะคะ ใครที่ชอบเข้าครัวจับตะหลิวทำอาหาร บอกเลยว่าวันนี้เรามีเมนูเด็ด ๆ ที่อยากจะมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำตามกันดูค่ะ นั่นก็คือ “เมนูจากเครื่องใน” นั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องในไก่, เครื่องในหมู หรือเครื่องในสัตว์ต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป

อย่างเครื่องในไก่เนี่ยคนก็มักจะนิยมกินส่วนกระเพาะ, ตับ และหัวใจ ส่วนเครื่องในหมูเนี่ยก็สามารถกินได้หลายส่วนเลยค่ะตั้งแต่ไส้อ่อน, หัวใจ, กระเพาะ, ตับ หรือว่าเลือดหมู ซึ่งบอกเลยว่าแต่ละส่วนนั้นอร่อยและมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน

แต่อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของการทำเมนูจากเครื่องในคือต้องล้างเครื่องในให้สะอาด มิเช่นนั้นอาจจะทำให้กับข้าวของเรามีกลิ่นเหม็นคาวได้ค่ะ

ในครั้งที่แล้วเราได้แนะนำเมนูจากตับและเมนูจากไส้หมูกันไปแล้วก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ไอเดียจากเราไปไม่น้อย สำหรับวันนี้เราจะมาเอาใจสายรักเครื่องในโดยเฉพาะที่เรียกว่าเหมารวมมาทุกรูปแบบกันอย่างจุใจเลยค่ะ บอกเลยว่าแต่ละเมนูรสชาติอร่อยมาก ๆ อย่ารอช้าเรารีบไปดูเมนูจากเครื่องในอร่อย ๆ กันดีกว่าค่ะ

วิธีล้างเครื่องในแต่ละส่วนให้สะอาด ไร้กลิ่นคาว

ล้างตับ ไม่ให้มีกลิ่นคาว

หลายคนที่เคยซื้อตับมาประกอบอาหาร ต้องเคยเจอกับปัญหาตับมีกลิ่นคาว รสขม ทานยาก นั่นก็เพราะในตับ โดยเฉพาะตับหมูจะมีเลือดที่ค้างอยู่เป็นจำนวนมาก หากใครที่อยากให้ตับไร้กลิ่นคาว วิธีง่าย ๆ เพียงแค่ตอนล้างให้บีบเลือดออกจากตับให้ได้มากที่สุด จนตับสีซีดลงก็จะช่วยลดความคาวได้

อีกวิธีหนึ่งที่ทำง่ายและสะดวกก็คือนำมาคลุกกับแป้งมันแล้วทิ้งไว้สัก 10 นาที เลือดหมูก็จะซึมออกจากตัวตับออกมาเป็นจำนวนมาก จากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจนเกลี้ยง หรือใครที่อยากให้ตับมีเนื้อที่นุ่มและหอมด้วย ก็สามารถเปลี่ยนจากแป้งมันมาเป็นนมสดก็ได้เช่นกันค่ะ

ล้าง ไส้อ่อน หรือ ไส้ตัน ไม่ให้มีกลิ่นคาว

ไส้ดูเหมือนจะเป็นปัญหาสำหรับเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านหลาย ๆ คน เนื่องจากทำทีไรก็จะติดรสขมบ้างล่ะ หรือไม่ก็มีกลิ่นเหม็นคาวบ้างล่ะ บอกเลยว่าจุดสำคัญอยู่ที่การล้างนี่แหละค่ะ ซึ่งตัวไส้เนี่ยจะมีปัญหากลิ่นคาวมากกว่าส่วนอื่น ๆ ดังนั้นจึงต้องทำการล้างให้หลาย ๆ น้ำ

โดยขั้นตอนแรกก็จะเริ่มจากการนำน้ำใส่เข้าไปในไส้หมูจากนั้นปล่อยให้น้ำชำระล้างเอาสิ่งสกปรกที่อยู่ในไส้ออกมาจนหมด รวมไปถึงให้ตัดพังผืดรอบ ๆไส้ออกไปให้หมดด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ได้

ล้างไปจนกว่าน้ำจะใสหรือใครที่สามารถกลับไส้จากข้างในออกมาข้างนอกได้ก็จะยิ่งดีเลยค่ะ จากนั้นให้นำมาคลุกกับเกลือจนกว่าจะหมดเมือก แล้วล้างน้ำเปล่าซ้ำ ๆ จนกว่าน้ำจะเป็นสีใส ไม่ขุ่น ก็เป็นอันว่าใช้ได้ค่ะ หรือใครที่อยากจะให้ชัวร์ก็สามารถล้างด้วยน้ำส้มสายชูหรือแป้งมันก็ได้นะคะ ซึ่งก็จะทำให้ตัวไส้เนี่ยสะอาดเนี้ยบ ไร้กลิ่นคาว ไร้ความขม ไม่ว่าจะนำไปทำเมนูไหนก็อร่อยแน่นอนค่ะ

กระเพาะ และส่วนอื่น ๆ ไม่ให้มีกลิ่นคาว

การล้างกระเพาะให้ไร้กลิ่นคาว ก็จะคล้ายกับการล้างไส้เลยค่ะ นั่นก็คือขั้นแรกให้กลับด้านกระเพาะเอาด้านในออก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ รอบ จากนั้นใส่แป้งมันลงไป แล้วใช้ใบตองขยำกระเพาะกับแป้งให้เข้ากันประมาณ 10 นาที จุดเด่นของใบตองคือจะช่วยล้างกลิ่นคาว และเพิ่มกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากใบตองนั่นเองค่ะ เมื่อครบเวลาแล้วให้ล้างแป้งมันออกให้สะอาด ทำซ้ำ 1 – 2 ครั้งจนกระเพาะใสสะอาด จากนั้นนำมาขยำกับเกลือต่อประมาณ 10 นาที จนไม่เมือก ไร้กลิ่น ไร้สิ่งสกปรก เพียงเท่านี้ก็สามารถนำไปประกอบอาหารได้แล้วค่ะ

1. ผัดกะเพราเครื่องในไก่

ผัดกระเพราเครื่องในไก่ เมนูง่าย ๆ อีกหนึ่งเมนูที่ทำง่าย แต่รสชาติอร่อยเหาะ หลายคนอาจจะคุ้นชินกับเมนูผัดกระเพราหมูสับหรือไก่สับแบบธรรมดาทั่วไป แต่ในวันนี้เราจะมาแนะนำเมนูผัดกระเพราที่ทำมาจากเครื่องในไก่ บอกเลยค่ะว่ารสชาติอร่อยไม่แพ้กับเนื้อสัตว์แบบทั่วไปเลย ซึ่งเมนูนี้ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำเครื่องในไก่ที่เราต้องการไม่ว่าจะเป็นหัวใจ, กระเพาะ หรือตับ มาล้างทำความสะอาดให้สะอาดหมดจด จากนั้นก็นำไปผัดเหมือนกับเมนูกระเพราทั่วไปเลยค่ะ ยิ่งได้ทานคู่กับไข่ดาวและข้าวสวยร้อน ๆบอกเลยว่าต้องรีบเข้าครัวไปทำตามแล้วค่ะ

วัตถุดิบ

  • เครื่องในไก่ (หั่นชิ้น)
  • พริกแดงสับ
  • กระเทียมสับ
  • ใบกะเพรา
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ซอสหอยนางรม
  • ผงปรุงรส
  • น้ำมันพืช
  • น้ำเปล่า

วิธีทำ

  1. เตรียมเครื่องในที่ต้องการ (ตับ, กระเพาะ หรือหัวใจไก่) นำไปล้างจนสะอาด หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำแล้วพักไว้
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันรอจนร้อน จากนั้นนำพริกและกระเทียมที่สับไว้ลงไปผัดจนหอม ตามด้วยใส่เครื่องในลงไปผัดให้พอสุก
  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลทราย, ซอสหอยนางรม และผงปรุงรส ชิมรสตามชอบ หากชอบแบบน้ำขลุกขลิก สามารถเติมน้ำเปล่าเพิ่มได้
  4. เร่งไฟ ใส่ใบกะเพราลงไป ผัดให้พอใบกะเพราสลด ก็ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟได้ค่ะ

 


2. ตับหมูผัดพริกหยวก

ใครที่ชอบทานเมนูจากตับหมูวันนี้เรามีเมนูจากตับหมูอร่อย ๆ มาแนะนำค่ะ นั่นก็คือตับหมูผัดพริกหยวก เมนูนี้บอกเลยว่าเด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี เพราะรสชาติไม่เผ็ดมากแถมยังอร่อย หวาน กลมกล่อม บอกเลยว่าถูกใจหลายคนแน่นอนค่ะ ซึ่งตับหมูผัดพริกหยวกเนี่ยก็จะนำเอาตับหมูมาล้างทำความสะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ แล้วนำไปผัดกับพริกหยวกแล้วปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล น้ำปลา หรือซอสปรุงรส ตบท้ายด้วยการโรยต้นหอม เพียงเท่านี้เราก็จะได้เมนูตับหมูผัดพริกหยวกอร่อย ๆ ไว้ทานคู่กับข้าวสวยแล้วล่ะค่ะ

วัตถุดิบ

  • ตับหมู
  • พริกหยวก
  • ต้นหอม
  • กระเทียม
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ซอสหอยนางรม
  • ผงปรุงรส
  • น้ำมันพืช
  • น้ำเปล่า

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อน นำกระเทียมสับลงไปเจียวจนเหลือง หอม
  2. นำตับที่ล้างทำความสะอาด และหั่นชิ้นแล้วใส่ลงไป ผัดจนเข้ากันดีกับกระเทียม
  3. เมื่อตับเริ่มสุก ใส่พริกหยวกหั่นเส้นลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลทราย, ซอสหอยนางรม และผงปรุงรส ชิมรสตามชอบ แล้วเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ตับแห้งเกินไป
  4. เมื่อผัดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ใส่ต้นหอมหั่นท่อนลงไป ผัดด้วยความเร็วอีกครั้ง แล้วตักใส่จาน แนะนำว่าอย่าผัดนานจนตับสุกจนเกินไป เพราะจะทำให้ตับแข็ง ไม่อร่อยได้ค่ะ

 


3. ไส้อั่วตับ

ใครที่ชอบทานไส้อั่วจากเมืองเหนือกันบ้างคะ แต่หลาย ๆ คนอาจจะเบื่อเนื่องจากเป็นไส้อั่วธรรมดาอย่างไส้อั่วหมูหรือไส้อั่วไก่ที่หลาย ๆ คนคุ้นชิน แต่ในวันนี้เราลองแหวกแนวกันดูค่ะ สำหรับไส้อั่วตับบอกเลยว่ารสชาติอร่อย หอม แถมยังได้เสริมธาตุเหล็กด้วยนะคะ ซึ่งไส้อั่วตับตัวนี้เราก็จะใช้เป็นเนื้อหมูเหมือนเดิมเลยเพียงแต่เพิ่มตับหมูลงไป แล้วนำไปกรอกลงในไส้ที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปย่างจนสุก บอกเลยว่ารสชาติอร่อยไม่แพ้กับไส้อั่วแบบปกติเลยค่ะ ใครที่กำลังมองหาเมนูใหม่ ๆ ทานแก้เบื่อนะคะ บอกเลยว่าไส้อั่วตับเนี่ยเป็นกับแกล้มชั้นดีเลยค่ะทุกคน

วัตถุดิบ

  • หมูบดติดมัน
  • ตับหมู
  • ไส้อ่อน
  • รากผักชี
  • หอมแดง
  • กระเทียม
  • พริกแกงเผ็ด
  • ข่า
  • ตะไคร้
  • ใบมะกรูด
  • ขมิ้น
  • น้ำตาลทราย
  • เกลือ
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำปลา

วิธีทำ

  1. เตรียมหมูบดและตับนำมาสับหยาบ ๆ พักไว้
  2. โขลกส่วนผสมทั้งหมดจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย, เกลือ, ซีอิ๊วขาว และน้ำปลา
  3. นำส่วนผสมในข้อ 1 และ 2 มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  4. จัดการเตรียมไส้อ่อน โดยนำมาล้างให้สะอาด จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมากรอกลงไปในไส้ โดยผูกปลายไส้หมูอีกด้านไว้เพื่อไม่ให้รั่ว ใส่ลงไปจนเต็ม ก็มัดปิดอีกด้านให้เรียบร้อย แนะนำว่าไม่ต้องยัดให้แน่นเกินไป เพราะจะทำให้ไส้แตกได้เวลานำมาย่าง หรือหากใครมีเครื่องบดเนื้อแบบมีที่ยัดใส่ในตัวก็สามารถใช้ได้เช่นกันค่ะ
  5. นำไส้อั่วลงไปย่างด้วยไฟอ่อน ๆ จนสุกทั่วกัน ใครที่กลัวไส้แตก สามารถนำไม้จิ้มฟันมาจิ้มตัวไส้ให้เป็นรู ๆ ก่อนนำไปย่างได้ค่ะ
  6. เมื่อย่างสุกดีแล้ว นำมาหั้นเป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมเสิร์ฟ ทานคู่กับข้าวเหนียว พริกสด กะหล่ำปลี อร่อยมาก ๆ

 


4. ต้มตือฮวนเกี่ยมฉ่าย

ต้มตือฮวนเกี่ยมฉ่าย หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักแกงชนิดนี้ ซึ่งต้มตือฮวนเกี่ยมฉ่ายเป็นอาหารของประเทศจีนโดยจะนำเอาไส้หมูมาต้มกับผักกาดดอง บอกเลยว่าเมนูนี้อร่อยและไม่มีกลิ่นเหม็นของเครื่องในเลยค่ะ เมนูนี้อาจจะซื้อยากในปัจจุบัน ดังนั้นสามารถทำกินเองได้ง่าย ๆ โดยการนำไส้อ่อนและกระเพาะหมูมาต้มกับผักกาดดอง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ และเครื่องเทศต่าง ๆ เพียงเท่านี้บอกเลยว่าคุณจะได้เมนูต้มตือฮวนเกี่ยมฉ่ายร้อน ๆ เอาไว้ซดน้ำซุปคล่องคอแล้วค่ะ

วัตถุดิบ

  • ไส้อ่อนหมู
  • กระเพาะหมู
  • ผักกาดดอง
  • กระดูกหมู
  • กระเทียม
  • พริกไทยดำ
  • รากผักชี
  • ซีอิ๊วขาว
  • เกลือ
  • น้ำเปล่า

วิธีทำ

  1. เตรียมล้างเครื่องในให้สะอาด นำไปต้มก่อน 1 ครั้ง จากนั้นตักขึ้น แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  2. ตั้งหม้อน้ำ นำกระเทียม พริกไทย และรากผักชีมาห่อด้วยผ้าขาวบาง รัดปมให้แน่น ใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยเกลือเล็กน้อย
  3. เมื่อน้ำเดือด ใส่กระดูกหมูลงไป ตุ๋นจนได้น้ำซุปกระดูกที่หอมหวาน
  4. เมื่อกระดูกหมูเปื่อยได้ที่ ใส่เครื่องในลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว จากนั้นตุ๋นจนเครื่อยในเปื่อยนุ่ม ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง หรือเพื่อน ๆ จะใช้เป็นหม้อตุ๋นไฟฟ้า, หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าเพื่อทำให้เนื้อเปื่อยเร็วขึ้นก็ไม่ว่ากันค่ะ
  5. เมื่อครบเวลา เอาห่อผ้าขาวบางออก จากนั้นนำผักกาดดองมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ลงไปในหม้อ ใครที่ไม่ชอบให้เปรี้ยวมาก สามารถนำผักกาดดองไปต้มก่อนเพื่อให้ความเปรี้ยวลดลงได้ค่ะ
  6. ตุ๋นต่อประมาณครึ่งชั่วโมง หรือจนกว่าผักกาดดองจะเปื่อยดี ชิมรสอีกครั้งให้ออกรสชาติเปรี้ยวเค็ม เผ็ดเล็กน้อย ถือว่าเป็นอันใช้ได้ค่ะ

 


5. ต้มแซ่บเครื่องในหมู

มาถึงเมนูซดน้ำซุปร้อน ๆ กันบ้างค่ะ สำหรับเมนูต้มแซ่บ เชื่อว่าเป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คนด้วยรสชาติน้ำซุปที่ เปรี้ยวเค็มเผ็ด ครบรสมาก ๆ แต่ว่าวันนี้เราไม่ได้มานำเสนอต้มแซ่บซี่โครงกระดูกหมูหรือต้มแซ่บไก่แต่อย่างใดนะคะ แต่ว่าเป็นต้มแซ่บเครื่องในหมูที่บอกเลยว่าใครได้ทานแล้วจะต้องติดใจแน่นอน รสชาตินุ่ม ๆ ของเครื่องในผสมผสานกับรสชาติเข้มข้นจัดจ้านของตัวน้ำซุปบอกเลยว่าทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ฟินมาก ๆ นอกจากจะทานคู่กับข้าวสวยแล้วบอกเลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูกับแกล้มได้อร่อยทีเดียวเลยค่ะ

วัตถุดิบ

  • เครื่องในหมู
  • หอมแดง
  • ข่า
  • ตะไคร้
  • ใบมะกรูด
  • มะเขือเทศ
  • พริกขี้หนูสด
  • พริกป่น
  • ข้าวคั่ว
  • ผักชีฝรั่ง
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
  • เกลือ
  • น้ำเปล่า

วิธีทำ

  1. ตั้งน้ำใส่หม้อ กะให้พอท่วมเครื่องใน แล้วล้างทำความสะอาดเครื่องใน ต้มให้สุก แล้วเทน้ำทิ้ง พักไว้
  2. ใส่เกลือลงในหม้อเล็กน้อย ตามด้วยใบมะกรูด, หอมแดง, ข่า และตะไคร้บุบให้พอแตก
  3. ค่อย ๆ ใส่เครื่องในที่ต้มสุกแล้วลงในหม้อ รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง ตามด้วยมะเขือเทศ, พริกขี้หนูสด, พริกป่น, ข้าวคั่ว, ผักชีฝรั่งซอย แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา
  4. รอจนมะเขือเทศสุกดี จากนั้นก็ทำการปิดแก้ส แล้วปรุงรสด้วยน้ำมะนาว (ปิดแก้สก่อนบีบมะนาว เพื่อไม่ให้มีรสขม) จากนั้นชิมรสตามชอบได้เลยค่ะ

 


6. เครื่องในหมู/เลือดหมูผัดพริกไทยดำ

ใครที่ชอบทานเครื่องในและเลือดหมูกันบ้างคะ บอกเลยว่าเมนูวันนี้ต้องถูกใจทุก ๆ คนแน่นอนสำหรับเมนูเครื่องในหมู/เลือดหมูผัดพริกไทยดำ ซึ่งรสชาติเนี่ยอร่อยไม่แพ้กับหมูสามชั้นผัดพริกไทยดำหรือไก่ผัดพริกไทยดำแน่นอนค่ะ โดยตัวเครื่องในหมูผัดพริกไทยดำนะคะ เราจะใช้เครื่องในมาล้างให้สะอาดจากนั้นนำไปผัดกับกระเทียมและพริกไทยจนหอม จุดเด่นของเมนูนี้คือการใส่พริกไทยดำเยอะ ๆ บอกเลยว่ายิ่งใส่เยอะยิ่งหอมอร่อย รสชาติก็จะออกเค็ม ๆ เผ็ดๆ และหอมกลิ่นเครื่องเทศต่าง ๆ ใครที่ชื่นชอบเครื่องใน, เลือดหมู และพริกไทยดำต้องรีบจัดแล้วล่ะค่ะ

วัตถุดิบ

  • เครื่องในหมู
  • เลือดหมูก้อน
  • พริกไทยดำ
  • กระเทียม
  • หอมใหญ่
  • ต้นหอม
  • ซอสหอยนางรม
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผงปรุงรส

วิธีทำ

  1. เตรียมเครื่องในกับเลือดหมูให้พร้อม ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
  2. โขลกกระเทียมและพริกไทยดำให้ค่อนข้างละเอียด จากนั้นเทลงในชามเครื่องในที่เตรียมไว้ หมักให้พอเข้าเนื้อสักครู่
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน นำเครื่องในที่เราหมักไว้ลงไปผัดจนหอม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม, น้ำปลา, น้ำตาลทราย และผงปรุงรส ชิมรสตามชอบ
  4. ใส่หอมใหญ่ลงไป ผัดจนกว่าหอมใหญ่จะสุก เป็นสีใส
  5. ปิดท้ายด้วยการโรยต้นหอมหั่นท่อนลงไป ผัดต่ออีกนิด ก็ตักขึ้นพร้อมเสิร์ฟได้แล้วค่ะ

 


7. ไส้อ่อนทอดกระเทียม

มาถึงเมนูของทอดกันบ้างค่ะ เชื่อว่าใครที่ชอบทานเครื่องในโดยเฉพาะไส้อ่อนเนี่ยต้องชอบเมนูไส้อ่อนทอดกระเทียมกันแน่ ๆ เพราะว่าเมนูนี้ทานง่าย กรอบอร่อย ไม่มีกลิ่นเหม็นของไส้อ่อนเลย เพราะว่าจะหมักตัวไส้ด้วยเครื่องเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม และรากผักชี ทำให้กลิ่นหอมของเครื่องเทศเหล่านี้กลบกลิ่นคาวของตัวไส้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูกับแกล้มอย่างดีสำหรับคอเหล้าเบียร์เลยก็ว่าได้ จะทานเล่นเปล่า ๆ ก็อร่อยหรือจะทานคู่กับซอสพริกก็เข้ากันสุด ๆ ตัวไส้กรุบกรุบกรอบผสมผสานกับความหอมของกระเทียม บอกเลยว่าเมนูนี้ห้ามพลาดเลยค่ะ

วัตถุดิบ

  • ไส้อ่อนหมู
  • กระเทียม
  • เกลือป่น
  • ซอสปรุงรส
  • น้ำตาลทราย
  • พริกไทยป่น
  • น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ

  • ล้างไส้อ่อนให้สะอาด จากนั้นนำไปต้มด้วยไฟอ่อนจนกว่าตัวไส้จะเปื่อยนุ่ม ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง เมื่อครบเวลานำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
  • ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ท่วม รอให้เดือด จากนั้นหรี่ไฟกลาง นำไส้อ่อนที่เตรียมไว้ลงไปทอดจนสุก เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้
  • นำกระเทียมโขลกหยาบผสมกับเกลือเล็กน้อย ลงไปทอดในน้ำมันเมื่อครู่จนกรอบ เหลืองหอม จากนั้นตักขึ้น พักไว้
  • เทน้ำมันออกจากกระทะ จากนั้นเทไส้อ่อนที่ทอดไว้ลงไป ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น แล้วตามด้วยกระเทียมที่เจียวไว้ ผัดให้เข้ากันอีกรอบ
  • ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม หรือซอสพริก ก็เป็นอันเสร็จค่ะ

 


8. ตับหวาน

ตับหวานถือเป็นเมนูกับแกล้มอีกเมนูหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงมาก ๆ ทั่วประเทศไทยเลยค่ะโดยตับหวานเนี่ยเป็นเมนูลาบที่ถือเป็นจานหลักของร้านอาหารอีสานเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยรสชาติที่จัดจ้านเข้มข้น หอมมะนาวและข้าวคั่ว ถึงพริกถึงเครื่องเทศ แถมยังมีความหวานของตับนุ่ม ๆ ที่ผสมผสานกับความเผ็ดเปรี้ยวเค็มครบรสของตัวเครื่องปรุง บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ทุก ๆ คนไม่ควรพลาด

วัตถุดิบ

  • ตับหมูหั่นชิ้น
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
  • น้ำตาลทราย
  • พริกป่น
  • ข้าวคั่ว
  • ผักชีฝรั่ง
  • ใบสะระแหน่
  • ต้นหอม

วิธีทำ

  1. ลวกตับในน้ำเดือดให้พอสุก จากนั้นตักขึ้นใส่จาน พักไว้ (อย่าลวกให้สุกมากนะคะ ไม่งั้นตับจะแข็ง ไม่อร่อย)
  2. ใส่น้ำปลา, น้ำมะนาว, น้ำตาลทราย และพริกป่นลงไปในชามผสม แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตามด้วยข้าวคั่ว, ต้นหอมซอย, ใบสาระแหน่ และผักชีฝรั่งซอย
  3. นำตับที่ลวกไว้มาคลุกเคล้าให้เข้ากันกันน้ำยำที่เตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จค่ะ

 


9. ลาบเครื่องในไก่

ลาบเป็นอาหารอีสานที่ขึ้นชื่อมาก ๆ ในประเทศไทย เชื่อว่าไม่ว่าจะภาคไหนก็ต้องชื่นชอบเมนูลาบด้วยกันทั้งนั้นค่ะ เพราะเป็นอาหารที่ครบรส ครบเครื่อง จัดจ้านทั้งเปรี้ยวเค็มเผ็ด หอมเครื่องเทศเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่แล้วทุกคนจะเคยชินกับลาบหมูหรือลาบไก่กันใช่ไหมคะ แต่ในวันนี้ลองอีกหนึ่งเมนูค่ะสำหรับลาบเครื่องในไก่ตัวนี้บอกเลยว่าคุณจะได้เปิดประสบการณ์ความอร่อยและไม่มีกลิ่นเหม็นของเครื่องในเลยค่ะ แถมยังหอมใบสะระแหน่และใบผักชีฝรั่งมาก ๆ ลองทำตามกันดูค่ะ รับรองว่าอร่อย ไม่ผิดหวังแน่นอน

วัตถุดิบ

  • ตับไก่
  • กึ๋นไก่
  • ไก่สับ
  • หอมแดง
  • สาระแหน่
  • ผักชีฝรั่ง
  • ต้นหอม
  • ผักชี
  • พริกป่น
  • ข้าวคั่ว
  • น้ำมะนาว
  • น้ำปลา
  • ผงปรุงรส

วิธีทำ

  1. นำตับไก่, กึ๋นไก่ และไก่สับลงไปรวนในน้ำเดือดจนสุก
  2. นำส่วนผสมทั้งหมด ได้แก่ หอมแดงซอย, สาระแหน่, ผักชีฝรั่งซอย, ต้นหอมซอย, ผักชี, พริกป่น, ข้าวคั่ว, น้ำมะนาว, น้ำปลา และผงปรุงรส ใส่ลงในชามผสม ชิมรสชาติตามชอบ
  3. นำเครื่องในไก่ที่ลวกไว้ลงมาคลุกเค้ากับส่วนผสมที่เตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูลาบเครื่องในไก่อร่อย ๆ ไว้ทานแล้วค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน หวังว่าเมนูเครื่องในที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะถูกอกถูกใจกันนะคะ บอกเลยว่าพวกเครื่องในต่าง ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กับเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ทั่วไปเลย แต่อย่าลืมว่าขั้นตอนสำคัญคือต้องล้างให้สะอาด ล้างหลาย ๆ น้ำ เพื่อไม่ให้มีกลิ่นคาว หรือกลิ่นเหม็น ส่วนใครที่อยากดูเมนูอื่น ๆ เพิ่มเติม ทางเว็บไซต์ของเราก็มี เมนูจากเป็ด, เมนูจากเบคอน, เมนูจากชีส, เมนูจากปูอัด, เมนูจากหมูยอ, เมนูจากไก่ และ เมนูจากปูม้า มาฝากกันด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนสนุกกับการเข้าครัว ทำเมนูที่ชอบกันนะคะ สวัสดีค่า