วันนี้วันดีปีใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใสพาใจสุขสันต์ ยิ้มให้กันในวันปีใหม่~ ก่อนอื่นเราต้องขอสวัสดีปีใหม่เพื่อน ๆ ล่วงหน้านะคะ 🙇♀️🥳 ใกล้จะผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปีแล้ว หวังว่าในปีที่ผ่านมาบทความของเราจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อยน๊าาาาา และก่อนจะจบกันไปในปีนี้ เราก็อยากจะมอบความสุขส่งท้ายปีเก่าด้วยบทความ “เมนูปาร์ตี้ปีใหม่” ซึ่งบทวามนี้ก็จะรวมทั้งของกินเล่นและกินจริงที่เหมาะกับการสังสรรค์ช่วงเทศกาลค่ะ ใครกำลังคิดหนัก ไม่รู้จะจัดปาร์ตี้แบบไหน หรือยังไม่รู้ว่าจะทำเมนูไหนดีนี่ต้องอ่านบทความนี้ให้จบเลยนะคะ รับรองว่าจะได้ไอเดียดี ๆ และเมนูอร่อย ๆ ไปทานส่งท้ายปีแน่นอนจ้าา ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างงงง~ 🥓🌭🍲
สูตรเมนูปาร์ตี้ปีใหม่
1. พุดดิ้งนมสด
ขอเริ่มต้นด้วยของหวานอย่างพุดดิ้งนมสดก่อนเลยค่ะ เพราะเมนูนี้ต้องใช้เวลาในการแช่พุดดิ้งให้เซตตัว แนะนำให้ทำไว้ก่อนแล้วค่อยมูฟไปทำเมนูอื่นต่อแล้วกับมาทานเป็นของหวานล้างปากปิดท้ายมื้ออาหารค่ะ ในส่วนของวิธีการทำก็ไม่ยากเลยค่ะ แถมยังมีรสชาติหวานหอม ได้ความมันนัวของนม ตัดกับรสเปรี้ยวอมหวานของผลไม้สดชื่นมากค่ะ
วัตถุดิบพุดดิ้งนมสด
- ผลไม้สด
- นมสด
- น้ำตาล
- ผงพุดดิ้งหรือผงเต้าฮวย
วิธีทำพุดดิ้งนมสด
- ขั้นตอนที่ 1 : มาเตรียมผลไม้กันก่อนค่ะ สำหรับผลไม้จะใช้แบบไหนก็ได้นะคะ แต่แนะนำเป็นเบอร์รี่หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอมหวานจะเข้ากันได้ดีกว่าค่ะ ทำความสะอาดแล้วซับให้แห้ง จากนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำเลยค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : ต้มนมด้วยไฟกลางค่อนอ่อนจนเริ่มร้อน จากนั้นใส่น้ำตาลแล้วคนให้ละลายเข้ากันเลยค่ะ ตอนนี้อย่าเพิ่งใส่น้ำตาลเยอะนะคะชิมแค่พอมีรสหวานก่อนค่ะ จากนั้นเทผงพุดดิ้งลงผสมให้เข้ากัน
- ขั้นตอนที่ 3 : ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดีแล้วลองชิมอีกครั้งหนึ่งค่ะ ถ้ายังหวานไม่พอสามารถเติมน้ำตาลเพิ่มได้ตามชอบ คนให้ละลายเข้ากันแล้วตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ได้เลยค่ะ วางทิ้งไว้ให้หายร้อน
- ขั้นตอนที่ 4 : พุดดิ้งหายร้อนแล้วแนะนำให้คลุมด้วยฟิล์มถนอมอาหาร จากนั้นแช่เย็นทิ้งไว้หนึ่งคืน ครบเวลาแล้วแกะฟิล์มออกแล้วนำผลไม้ที่เตรียมไว้มาตกแต่ง พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
2. ลูกชิ้นปิ้งน้ำจิ้มมะขาม
ประเดิมเมนูแรกด้วยลูกชิ้นปิ้งค่ะ เมนูนี้จะทำทานเทศกาลไหนก็อร่อยและทำง่ายมาก ๆ แค่มีลูกชิ้นและเตาปิ้งเท่านั้น แต่วันนี้เรามาพร้อมสูตรนี้จิ้มมะขามสูตรเด็ด ตัวน้ำจิ้มจะมีรสเปรี้ยว, เผ็ด, หวาน และเค็มกลมกล่อมกำลังดี นอกจากลูกชิ้นปิ้งแล้วทานกับลูกชิ้นทอดก็อร่อยค่ะ
วัตถุดิบน้ำจิ้มมะขาม
- ผักชี
- มะเขือเทศ
- พริกแห้ง
- กระเทียมดอง
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- น้ำมะขามเปียก
วิธีทำลูกชิ้นปิ้งน้ำจิ้มมะขาม
- ขั้นตอนที่ 1 : เราจะแบ่งพริกแห้งเป็น 2 ส่วนค่ะ ส่วนหนึ่งเอาไปคั่วกับเกลือแล้วตำหยาบ อีกส่วนจะนำไปทอดจนสุกหอม เสร็จแล้วซอยผักชีเตรียมไว้ก่อน
- ขั้นตอนที่ 2 : เทน้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทราย, น้ำมะขามเปียก, น้ำและเนื้อกระเทียมดองใส่หม้อ คนให้เข้ากันก่อนแล้วนำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนอ่อน เคี่ยวจนส่วนผสมเดือดแล้วใส่มะเขือเทศลงไป
- ขั้นตอนที่ 3 : เคี่ยวส่วนผสมในหม้อไปเรื่อย ๆ จนเริ่มเหนียวข้นขึ้น จากนั้นเติมพริกทอดและพริกคั่วที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา คนระบายความร้อนเล็กน้อยแล้วปิดท้ายด้วยผักชีซอย
- ขั้นตอนที่ 4 : นำไม้เสียบลูกชิ้นไปแช่น้ำทิ้งไว้ก่อนค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้ไม้ไม่ไหม้ระหว่างย่าง จากนั้นนำมาเสียบลูกชิ้นแล้วปิ้งด้วยไฟอ่อน ๆ คอยพลิกไปพลิกมา ระวังไม่ให้ไหม้เกรียม ถ้าเป็นไส้กรอกแนะนำให้บั้งเล็กน้อยจะสุกเร็วแล้วทั่วถึงกัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มมะขามได้เลยจ้า
3. มันฝรั่งทอดกรอบ
มันฝรั่งทอดกรอบเป็นของกินเล่นอีกหนึ่งชนิดที่ฮิตในโซเชียลมาก ๆ เลยค่ะ แต่เมนูนี้ไม่ใช่มันฝรั่งแผ่นบางกรอบนะคะ เพราะมันคือมันฝรั่งชุบแป้งทอด กัดเข้าไปจะเจอกับแป้งกรอบ ๆ หอมพริกไทยอ่อน ๆ ส่วนมันฝรั่งด้านในจะมีเนื้อเนียนนุ่มทานเพลินมาก ๆ ค่ะ เมนูนี้จะโรยเกลือนิด ๆ หรือคลุกผงปรุงรสเขย่าก็อร่อยเพลินนะคะ เลือกทานได้ตามชอบเลยจ้า
วัตถุดิบมันฝรั่งทอดกรอบ
- มันฝรั่ง
- เกลือ
- พริกไทยป่น
- แป้งทอดกรอบ
- น้ำเย็น
- น้ำมันพืช
วิธีทำมันฝรั่งทอดกรอบ
- ขั้นตอนที่ 1 : ล้างมันฝรั่งให้สะอาดก่อนค่ะ จากนั้นปอกเปลือกออกให้หมดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ ทำต่อจนหมดเลยค่ะ เสร็จแล้วหยิบมาหั่นเป็นแผ่นหนาประมาณ 0.5 – 1 ซม. แล้วแช่น้ำเย็นทิ้งไว้ก่อนค่ะ ทำต่อจนครบแล้วแล้วล้างเอาแป้งออก 1 – 2 ครั้ง แช่น้ำเย็นจัดทิ้งไว้ก่อนค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นจัดแล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยเล็กน้อยค่ะ จากนั้นผสมแป้งให้เข้ากัน แป้งจะต้องไม่เหลวเกินไปนะคะ ลองยกขึ้นแป้งควรจะไหลเป็นริ้วคล้ายริบบิ้นค่ะ ถ้าเหลวเกินไปจะเกาะมันฝรั่งได้ไม่ดี แต่ถ้าแป้งหนาเกินไปมันฝรั่งด้านในจะไม่สุก
- ขั้นตอนที่ 3 : ตั้งน้ำมันด้วยไฟกลางให้ร้อน จากนั้นหยิบมันฝรั่งขึ้นมาซับน้ำให้แห้งแล้วนำลงชุบแป้งจนทั่ว นำลงทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนสุกเหลือง ตักขึ้นพักใว้ก่อนค่ะ จากนั้นเร่งไฟกลางค่อนแรงแล้วนำลงทอดอีกครั้งจนกลายเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันแล้วจัดเสิร์ฟได้เลย
4. เฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง
บ้านไหนมีเด็กเราขอแนะนำไส้กรอกแดงทอดเลยค่ะ แต่วันนี้เราจะทำสูตรเฟรนช์ฟรายส์ คือนำไส้กรอกมาหั่นเป็นเส้น ๆ แล้วทอดจนฟูกรอบ ตัวไส้กรอกก็จะกรอบกรุ๊บกรั๊บทานสนุกมากเลยค่ะ ยิ่งจิ้มซอสมะเขือเทศหรือน้ำจิ้มมะขามก็ยิ่งอร่อย แถมยังใช้วัตถุดิบแค่ 2 อย่างเท่านั้นเองค่ะ
วัตถุดิบเฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง
- ไส้กรอกแดง
- น้ำมันพืช
วิธีทำเฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง
- ขั้นตอนที่ 1 : เราจะหยิบไส้กรอกมาปลอกเปลือกพลาสติกออกก่อนค่ะ จากนั้นหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ไม่เกิน 0.5 ซม. พยายามหั่นให้ชิ้นมีขนาดเท่า ๆ กันจะได้สุกพร้อมกันค่ะ ยิ่งบางก็จะยิ่งสุกและกรอบเร็วนะคะ
- ขั้นตอนที่ 2 : เทน้ำมันใส่กระทะแล้วหยิบไส้กรอกลงกระทะได้เลยค่ะ จากนั้นค่อยเปิดเตาไฟกลาง ตรงนี้ทิ้งไว้เฉย ๆ ก่อนนะคะ ถ้าไปคนตอนนี้ไส้กรอกจะเละค่ะ รอจนน้ำมันร้อนและไส้กรอกเริ่มพองตัว ตรงนี้คอยคนเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ คนให้ถึงก้นกระทะเลยนะคะ ใช้เวลาประมาณ 7 – 10 นาทีค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3 : คนไปจนถึงจุดหนึ่งเราจะเห็นว่าไส้กรอกฟูสวยแล้ว ให้ลองตักขึ้นมาค้างไว้สักแปปนึงค่ะ ถ้าไส้กรอกยุบตัวลงแปลว่ายังใช้ไม่ได้ ทอดต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าผิวด้านนอกจะกรอบและรู้สึกเบาขึ้น ให้ลองยกขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าไม่ยุบตัวหรือยุบช้าลงถือว่าใช้ได้ค่ะ เร่งไฟกลางค่อนแรงแล้วทอดต่ออีก 1 – 3 นาทีเพื่อไล่น้ำมันออก จากนั้นตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันก่อนจัดเสิร์ฟค่ะ
5. เกี๊ยวห่อไส้กรอก
ถ้าไส้กรอกยังเหลือเรามาทำเกี๊ยวห่อไส้กรอกกันต่อเลยค่ะ เมนูนี้มีวัตถุดิบเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งอย่าง อาจจะใช้เวลาในการเตรียมเยอะหน่อย แต่รับรองว่าทำเสร็จแล้วทานเพลินแน่นอนค่ะ นอกจากจะห่อไส้กรอกแล้วยังสามารถห่อไข่นกกระทะหรือปูอัดด้วยก็ได้นะคะจะได้มีความหลากหลายมากขึ้น
วัตถุดิบเกี๊ยวห่อไส้กรอก
- ไส้กรอก
- แผ่นเกี๊ยว
- น้ำมันพืช
วิธีทำเกี๊ยวห่อไส้กรอก
- ขั้นตอนที่ 1 : หั่นลูกชิ้นให้มีขนาดพอดีคำก่อนค่ะ แต่ถ้าใครจะใช้เป็นไข่นกกระทาก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้เลยนะคะ ทำจนครบแล้วเราจะหยิบแผ่นเกี๊ยวมาเคาะแป้งออก แนะนำให้เลือกใช้แผ่นเกี๊ยวสำหรับทอดนะคะจะมีความกรอบฟูและไม่เฝื่อนลิ้น สังเกตได้จากแผ่นสีของแผ่นเกี๊ยวที่มีสีเหลืองเข้มค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : วางแผ่นเกี๊ยวลงบนฝ่ามือ วางไส้กรอกหรือไข่นกกระทาลงไปตรงกลาง จากนั้นพับมุมแผ่นเกี๊ยวเข้ามาห่อไส้ ทบกันให้ครบทั้ง 4 มุม ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นเสียบเข้าไปตรงกลางให้ทะลุแผ่นเกี๊ยวทั้ง 4 ด้านเลยค่ะ ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนหมด พยายามเหลือระยะห่างระหว่างชิ้นเยอะหน่อยนะคะจะได้กรอบจนทั่ว
- ขั้นตอนที่ 3 : ตั้งกระทะไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อนได้ที่แล้วนำเกี๊ยวเสียบไม้ลงทอดเลยค่ะ แนะนำให้ใช้หม้อแล้วใส่น้ำมันเยอะ ๆ นะคะจะประหยัดเวลาและทำให้แผ่นเกี๊ยวสุกเท่ากันค่ะ ทอดไปเรื่อย ๆ จนแผ่นเกี๊ยวกลายเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันก่อนเสิร์ฟได้เลยค่ะ
6. ลูกชิ้นชุบแป้งทอด
มาย้อนวัยกันหน่อยค่ะ ลูกชิ้นชุบแป้งทอดสีส้ม ๆ เหลือง ๆ นี่เป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ แถมยังเป็นเมนูในความทรงจำของใครหลาย ๆ คนอีกด้วยค่ะ ใครสนใจสามารถกดเข้าไปดูวัตถุดิบและวิธีทำได้ที่บทความ เมนูของทอดหน้าโรงเรียน ได้เลยน๊าา นอกจากลูกชิ้นทอดแล้วยังมีของอร่อยอีกเพียบ! จะทานพร้อมน้ำจิ้มไก่หรือลองทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เข้ากันค่ะ
7. กุ้งกระเบื้อง
กุ้งกระเบื้องเป็นของกินเล่นจากเวียดนามที่ถูกใจหลาย ๆ คนค่ะ เมนูนี้จะเป็นเนื้อกุ้งสับปรุงรส ประกบด้วยแผ่นแป้งปอเปี๊ยะทั้ง 2 ด้านแล้วทอดกรอบ บอกเลยเมนูนี้ทำง่ายมาก ๆ แต่อาจจะต้องมีวัตถุดิบเยอะหน่อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ค่ะ จะทานเล่น ๆ, ทานกับน้ำจิ้มอาจาดหรือน้ำจิ้มบ๊วยก็อร่อย เพราะตัวกุ้งกระเบื้องจะมีรสชาติเค็มหวานกลมกล่อมอยู่แล้ว
วัตถุดิบกุ้งกระเบื้อง
- เนื้อกุ้ง
- แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ
- แครอท
- ต้นหอม
- แป้งมัน
- ไข่ขาว
- สามเกลอ
- ซีอิ๊วขาว
- ซอสหอยนางรม
- น้ำมันพืช
วิธีทำกุ้งกระเบื้อง
- ขั้นตอนที่ 1 : ซอยต้นหอมและแครอทเตรียมไว้ก่อนค่ะ จากนั้นบดเนื้อกุ้งให้ละเอียดด เสร็จแล้วนำมาผสมกับต้นหอม, แครอท, แป้งมัน, ไข่ขาว, สามเกลอ, ซีอิ๊วขาว และซอสหอยนางรม ผสมให้ทุกอย่างเข้ากันและเนื้อมีความเหนียวแน่นมากขึ้นค่ะ พักไว้ก่อน
- ขั้นตอนที่ 2 : นำแป้งปอเปี๊ยะมาตัดให้เป็นแผ่นกลมขนาดเท่า ๆ กันค่ะ หรือใครจะไม่ตัดก็ได้นะคะ เราแนะนำให้คลุมผ้าเปียกหมาดเอาไว้ก่อนแล้วทยอยหยิบออกมาเท่าที่จะใช้ค่ะ เราจะตักกุ้งที่ผสมไว้ลงไปตรงกลางแล้วเกลี่ยออกไปรอบ ๆ เว้นพื้นที่ตรงขอบไว้นิดนึงนะคะ จากนั้นนำอีกแผ่นมาประกบแล้วกดให้มีความบางเท่า ๆ กันค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3 : ตั้งน้ำมันไฟกลางจนร้อนได้ที่ จากนั้นนำแผ่นปอเปี๊ยะลงทอด เราจะทอดให้ด้านหนึ่งเริ่มสุกกรอบก่อนนะคะแล้วค่อยพลิกกลับด้าน จากนั้นก็พลิกอีกครั้งแล้วทอดต่อจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดตามชอบได้เลยค่ะ พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า
8. ขนมปังหน้าหมู
ทำขนมทานเล่นเวียดนามไปแล้ว มาทำขนมทานเล่นแบบไทย ๆ อย่าขนมปังหน้าหมูกันบ้างค่ะ เมนูนี้นี่อร่อยทานเพลิน ขนมปังกรอบ ๆ เนื้อหมูรสชาติกลมกล่อม ทานพร้อมอาจาดคือเข้ากันมาก แถมสูตรนี้ยังเหมาะกับคนรักสุขภาพเพราะแทบจะไม่ต้องใช้น้ำมันสักหยด! ใครสนใจกดเข้าไปดูวิธีทำได้ที่บทความ ขนมปังหน้าหมู หม้อทอดไร้น้ำมัน ได้เลยจ้าา
9. ปีกไก่ทอดน้ำปลา
ปีกไก่ทอดน้ำปลาเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ แต่สูตรนี้เราไม่ต้องเสียเวลาหมักนานแต่รสชาติเข้าเนื้ออร่อยสุด ๆ เลยค่ะ ตัวหนังไก่จะมีความกรอบ ๆ แห้ง ๆ หน่อยค่ะ กัดเข้าไปจะเจอกับเนื้อไก่ที่มีความนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติเค็มหวานอ่อน ๆ กำลังดีเลยค่ะ
วัตถุดิบปีกไก่ทอดน้ำปลา
- ปีกไก่
- แป้งทอดกรอบ
- น้ำตาล
- พริกไทยป่น
- น้ำปลา
- น้ำเปล่า
- น้ำมันพืช
วิธีทำปีกไก่ทอดน้ำปลา
- ขั้นตอนที่ 1 : ทำความสะอาดปีกไก่แล้วซับน้ำหมาด ๆ จากนั้นใช้ส้อมจิ้มปีกไก่จนทั่วเพื่อให้เครื่องปรุงรสเข้าเนื้อไก่ได้ง่ายขึ้นค่ะ เสร็จแล้วเราจะปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาล และพริกไทยป่น ขยำให้เข้าเนื้อก่อนแล้วตามด้วยแป้งทอดกรอบค่ะ เติมน้ำเล็กน้อยแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันเลยค่ะ หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- ขั้นตอนที่ 2 : ตั้งกระทะไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อนได้ที่แล้วนำปีกไก่ลงทอดได้เลยค่ะ ช่วงแรกเราจะปล่อยทิ้งไว้ให้ปีกไก่เริ่มสุกแล้วเซตตัวก่อนค่ะ รอจนน้ำมันเริ่มสงบและไก่สุกเหลืองแล้วค่อย ๆ ขยับและพลิกกลับด้าน ทอดต่อแล้วพลิกกลับไปกลับมาเรื่อย ๆ จนสุกกรอบทั่วทั้งชิ้นเลยค่ะ ได้ที่แล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันก่อนจัดเสิร์ฟค่ะ
10. เบคอนห่อแหนมทอด
เมนูนี้เราอยากแนะนำสุด ๆ เลยค่ะ เบคอนห่อแหนมทอดนี่จะเรียกว่าเป็นเมนูฟิวส์ชั่นก็ว่าได้ แต่ใด ๆ คือต้องขอบอกเลยว่ารสชาติเข้ากันสุด ๆ เบคอนจะมีความกรอบ ๆ และหอม ส่วนแหนมด้านในมีรสชาติเปรี้ยวเค็มกำลังดี ยิ่งทานพร้อมกับเครื่องเคียงอย่างพริกและขิงดองก็ยิ่งเข้ากันค่ะ
วัตถุดิบเบคอนห่อแหนมทอด
- แหนมแท่ง
- เบคอน
- น้ำมันพืช
วิธีทำเบคอนห่อแหนมทอด
- ขั้นตอนที่ 1 : เราจะหั่นแหนมให้มีความยาวเท่ากับความกว้างของเบคอนค่ะ จากนั้นนำเบคอนมาพันรอบแหนมให้มีความหนาสัก 2 – 3 ชั้น จากนั้นยึดด้วยไม้เสียบลูกชิ้นให้แน่นติดกัน ถ้าแหนมมีชิ้นใหญ่เกินไปสามารถหั่นครึ่งได้อีกครั้งค่ะ กะให้มีขนาดพอดีคำ
- ขั้นตอนที่ 2 : ตั้งกระทะไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อนได้ที่แล้วนำเบคอนห่อแหนมลงทอดเลยค่ะ ช่วงแรกอย่าเพิ่งคนนะคะ รอให้เริ่มสุกกรอบก่อนแล้วค่อยพลิกกลับด้าน ทอดต่อจนสุกกรอบดีแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงได้เลยค่ะ
11. บาร์บีคิว
จัดปาร์ตี้แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี เราขอแนะนำบาร์บีคิวเลยค่ะ ถึงเมนูนี้จะมีวัตถุดิบเยอะและใช้เวลาเตรียมค่อนข้างนาน แต่ช่วยกันทำคนละไม้คนละมือแป๊ปเดียวก็เสร็จแถมยังมีกิจกรรมให้ทำร่วมกันอีกด้วยค่ะ จริง ๆ แล้วบาร์บีคิวจะใช้เนื้อสัตว์แบบไหนก็ได้นะคะ แต่สูตรนี้เราจะเลือกเป็นสันในไก่เพราะสุกง่ายและเนื้อไม่เหนียว รวมถึงใช้ซอสบาร์บีคิวสำเร็จรูปเพื่อความสะดวกค่ะ
วัตถุดิบบาร์บีคิว
- สันในไก่
- มะเขือเทศ
- สับปะรด
- พริกหยวก
- หอมใหญ่
- เกลือ
- พริกไทย
- ซอสบาร์บีคิว
- เนยจืด
- นมจืด
วิธีทำบาร์บีคิว
- ขั้นตอนที่ 1 : เราจะหั่นสันในไก่เป็นชิ้นเต๋าขนาดพอดีคำก่อนค่ะ หั่นชิ้นใหญ่กว่าปกตินิดนึงนะคะเพราะตอนสุกเนื้อไก่จะหดตัวลงอีกค่ะ จากนั้นหมักด้วยเกลือ, พริกไทย และนมจืดเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อมีความนุ่มมากขึ้น หมักทิ้งไว้ 15 – 20 นาที
- ขั้นตอนที่ 2 : ระหว่างหมักไก่เราจะหยิบสับปะรดออกมาหั่นให้เป็นชิ้นเต๋า แนะนำให้เลือกสับปะรดที่มีรสเปรี้ยวอมหวานหน่อยนะคะ เสร็จแล้วหั่นพริกหยวกและหอมใหญ่ให้มีขนาดเท่า ๆ กันเลยค่ะ ส่วนมะเขือเทศแนะนำเป็นมะเขือเทศเชอร์รี่ค่ะ ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยเลย
- ขั้นตอนที่ 3 : หมักไก่ครบเวลาแล้วก็ถึงเวลาเสียบไม้ค่ะ อย่าลืมเอาไม้ไปแช่น้ำก่อนนะคะตอนย่างจะได้ไม่ไหม้ หยิบเครื่องที่เตรียมไว้ก่อนหน้ามาเสียบไม้สลับกัน ปิดท้ายด้วยสับปะรดหรือมะเขือเทศค่ะ ทำต่อจนครบทุกชิ้น
- ขั้นตอนที่ 4 : เตรียมเตาย่างไฟกลางค่อนอ่อนไว้เลยค่ะ เตาร้อนได้ที่แล้วนำบาร์บีคิวลงย่าง ทาเนยจืดบาง ๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ย่างต่อจนเริ่มหอมแล้วใช้แปรงจุ่มซอสบาร์บีคิวแล้วนำมาทาบนบาร์บีคิวจนทั่ว ย่างต่อแล้วทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนสุกหอมและติดไหม้เล็กน้อยค่ะ ย่างไปทานไปได้เลยจ้า
12. คอหมูย่าง
คอหมูย่างเป็นอีกหนึ่งเมนูปาร์ตี้แบบไทยที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ใครเลยค่ะ สูตรนี้จะเป็นแบบทำง่าย ไม่ซับซ้อน ใครสนใจกดเข้าไปดูวัตถุดิบและวิธีการทำได้ที่บทความ คอหมูย่าง ด้วยเตาอบไอน้ำ จะเปลี่ยนมาใช้เตาอบธรรมดาหรือเตาถ่านก็อร่อยเหมือนกันค่ะ คอหมูย่างสุกดีแล้วอย่าลืมเข้าไปดูสูตรน้ำจิ้มแจ่วในบทความ สารพัดสูตรน้ำจิ้ม ด้วยน๊าาา บอกเลยว่าเข้ากันมั๊ก ๆ
13. ตำเส้นเล็กหมูยอ
มีคอหมูย่างแล้วส้มตำก็ต้องมาค่ะ แต่สูตรนี้ขอเป็นเมนูฮิตในโซเชียลอย่างตำเส้นเล็กหมูยอ สูตรนี้เราลองทานแล้วอร่อยนัวกำลังดีเลยค่ะ เส้นเล็กมีความเหนียวนุ่มกำลังดี น้ำส้มตำจะเคลือบเส้นนะคะ ไม่ได้ดูดน้ำเข้าไปจนพองอืด ทานคู่กับหมูยอเด้งสู้ฟันและเครื่องส้มตำคือเริ่ด!
วัตถุดิบตำเส้นเล็กหมูยอ
- กระเทียม
- ถั่วฝักยาว
- พริกจินดาสด
- พริกจินดาแห้ง
- มะเขือเทศ
- มะนาว
- หมูยอ
- เส้นเล็ก
- น้ำตาลมะพร้าว
- ผงชูรส
- น้ำปลา
- น้ำปลาร้า
วิธีทำตำเส้นเล็กหมูยอ
- ขั้นตอนที่ 1 : หั่นหมูยอเป็นชิ้นขนาดตามต้องการแล้วลวกจนสุก ตักขึ้นพักไว้ จากนั้นลวกเส้นเล็กต่อค่ะ กะให้สุกกำลังดีนะคะ ตักขึ้นแล้วล้างน้ำเปล่าเพื่อลดอุณหภูมิของเส้นและช่วยให้เส้นไม่อืดค่ะ พักไว้ก่อน
- ขั้นตอนที่ 2 : โขลกกระเทียม, พริกสด และพริกแห้งให้พอแหลกก่อนค่ะ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว, ผงชูรส, น้ำปลา และน้ำปลาร้า คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วตามด้วยถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ และมะนาว ใช้สากบี้ให้พอแตกแล้วตามด้วยหมูยอและเส้นเล็ก จากนั้นคลุกให้เข้ากันแล้วตักใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ
14. หมูกระทะ
หมูกระทะเป็นเมนูที่ขาดไม่ได้อยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าจะให้บอกวิธีทำหมูกระทะแบบละเอียดก็คงจะเยอะไปหน่อย เพราะมันมีรายละเอียดยิบย่อยเต็มหมด แต่ถ้าเพื่อนกำลังมองหาสูตรหมักหมูกระทะ ก็สามารถจิ้มลิ้งก์เข้าไปเลือกสูตรที่ต้องการได้เลยค่ะ นอกจากนี้อย่าลืม น้ำจิ้มสุกี้ เพื่อเพิ่มความอร่อย ส่วนใครอยากฟิน อยากได้บรรยากาศสุด ๆ ก็จัด เตาถ่านย่างหมูกระทะ ไปเลยค่ะ
15. แจ่วฮ้อน
ปิดท้ายด้วยแจ่วฮ้อนหอม ๆ ส่งท้ายปี แต่สูตรนี้จะมาให้เฉพาะน้ำซุปและน้ำจิ้มนะคะ ส่วนเนื้อสัตว์เราว่าง่ายเพราะไม่ต้องปรุงอะไรมาก แถมแต่ละคนยังเลือกใช้ประเภทของเนื้อสัตว์ไม่เหมือนกันอีกด้วยค่ะ ซึ่งน้ำซุปและน้ำจิ้มแจ่วฮ้อนสูตรนี้จะเหมาะกับคนชอบทานสมุนไพรเป็นพิเศษค่ะเพราะค่อนข้างจะหอมข่า, ตะไคร้ และใบโหระพาโดดเด่นเลย
วัตถุดิบน้ำซุปแจ่วฮ้อน
- กระดูกหมู
- ใบโหระพา
- ผักชีฝรั่ง
- ข่า
- ตะไคร้
- ใบมะกรูด
- น้ำมะขามเปียก
- พริกแห้ง
- ข้าวคั่ว
- เกลือ
- น้ำปลา
วิธีทำน้ำซุปแจ่วฮ้อน
- ขั้นตอนที่ 1 : เริ่มจากทำความสะอาดกระดูกหมูเครื่องสมุนไพรทั้งหมดก่อนเลยค่ะ จากนั้นต้มน้ำให้เดือด นำกระดูกหมูลงต้มเพื่อทำน้ำซุป ใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาวค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : กระดูกหมูเปื่อยได้ที่และได้น้ำซุปมาแล้วเราจะนำพริกแห้ง 1 – 2 เม็ด, ข่า และตะไคร้ไปบดหยาบ จากนั้นนำมาผัดรวมกับใบมะกรูดจนส่งกลิ่นหอม นำลงต้มในน้ำซุปที่ทำไว้ก่อนหน้า อย่าลืมแบ่งสมุนไพรผัดส่วนหนึ่งไว้ทำน้ำจิ้มด้วยนะคะ
- ขั้นตอนที่ 3 : น้ำซุปเดือดแล้วปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำปลาเล็กน้อย เอาแค่พอได้กลิ่นและรสชาติจาง ๆ ก็พอค่ะ รอจนเดือดอีกครั้งแล้วกรองเอากากสมุนไพรออก วิธีนี้จะทำให้น้ำซุปมีกลิ่นหอมและมีความใส ทานง่าย
- ขั้นตอนที่ 4 : ก่อนใช้งานเราจะใส่ใบโหระพา, พริกแก้ง และข้าวคั่วลงไปค่ะ แค่นี้น้ำซุปแจ่วฮ้อนก็พร้อมทานแล้ว
วัตถุดิบน้ำจิ้มแจ่วฮ้อน
- ข่า
- ตะไคร้
- ใบมะกรูด
- พริกป่น
- ข้าวคั่ว
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำปลา
วิธีทำน้ำจิ้มแจ่วฮ้อน
- ขั้นตอนที่ 1 : นำเครื่องผัดที่แบ่งไว้มาผสมกับพริกป่น, ข้าวคั่ว, น้ำมะขามเปียก, น้ำตาลมะพร้าว และน้ำปลา คนให้ละลายเข้ากันดี ลองชิมรสชาติให้มีความเผ็ด, เปรี้ยว, เค็ม และหวานนิด ๆ ปิดท้าย พร้อมทานกับน้ำซุปแล้วค่ะ
และทั้งหมดนี้ก็คือสูตรเมนูปาร์ตี้ปีใหม่ที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ มีเมนูไหนถูกใจเพื่อน ๆ บ้างเอ่ย? เพื่อน ๆ อาจจะเห็นว่าเมนูที่เราแนะนำจะเป็นของทานเล่นซะเป็นส่วนใหญ่ นั่นก็เพราะเรารู้สึกว่าเมนูเหล่านี้สามารถทำได้หลากหลาย และเหมาะกับการกินไปคุยไปเพลิน ๆ ค่ะ แถมหลาย ๆ เมนูยังสามารถทานเป็นกับแกล้มได้อีกด้วยค่ะ แต่ถ้าเมนูเหล่านี้ยังไม่ถูกใจเพื่อน ๆ ก็สามารถกดเข้ามาดู สูตรอาหาร บนเว็บไซต์ของเราได้เลยนะคะ มีให้เลือกมากกว่าร้อยเมนูเลยค่ะ