แจกสูตร ขนมหวานคีโต ไม่ใส่แป้ง ไร้น้ำตาล โลว์คาร์บ อร่อยฟินสุดพลัง!

หากคุณชอบทานของหวานแต่ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยการรับประทานคีโต (Ketogenic Diet) อยู่ เราคิดว่า “ขนมหวานคีโต” ในวันนี้อาจเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพในการตอบสนองความอยากของคุณโดยที่ไม่หลุดช่วงคีโตนะคะ 😛

โดยเมนูของหวานคีโตในบทความที่เราจะแนะนำวันนี้จะช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติของขนมหวานอย่างแท้จริงโดยที่ปราศจากน้ำตาลอย่างแน่นอนค่ะ

ว่าแล้วก็อย่ารอช้า เรามาดูเมนูของหวานคีโตกันเลยดีกว่าค่ะ 3 2 1 เริ่ม !!!!

คุกกี้ช็อกโกแลตชิปคีโต

มาเริ่มกันที่เมนูง่าย ๆ รสชาติอร่อยถูกปาก ทั้งยังทานได้ทุกเพศทุกวัย อย่างคุกกี้กันบ้างค่ะ สำหรับเมนูนี้เราจะใช้ แป้งอัลมอนด์, เนย, น้ำตาลอิริทริทอล และแน่นอนว่าพระเอกของงานต้องมี “ช็อกโกแลตชิปปราศจากน้ำตาล” เป็นส่วนผสมหลัก สูตรนี้ใครทานรับรองว่าอร่อยจนอยากทานเพิ่มแน่นอน!!! นอกจากนี้เพื่อน ๆ สามารถใส่ถั่วซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตต่ำที่ชื่นชอบชนิดอื่น ๆ ได้ด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น พีแคน, อัลมอนด์ หรือแมคคาเดเมียก็ได้ค่ะ

วัตถุดิบ คุกกี้ช็อกโกแลตชิปคีโต

  • แป้งอัลมอนด์ 1 ถ้วย
  • เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ ¼ ช้อนชา (ไม่จำเป็น)
  • เกลือ ¼ ช้อนชา
  • น้ำตาลอิริทริทอล 1⁄3 ถ้วย
  • เนยจืด 5 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่เบอร์ใหญ่ 1 ฟอง
  • สารสกัดวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ช็อกโกแลตชิปสำหรับใช้อบแบบไม่มีน้ำตาล 3-4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ คุกกี้ช็อกโกแลตชิปคีโต

  1. ผสมแป้งอัลมอนด์, เบกกิ้งโซดา, ครีมออฟทาร์ทาร์ และเกลือเข้าด้วยกัน จากนั้นก็พักทิ้งไว้
  2. นำชามผสมอาหารอีกใบที่ใหญ่กว่าออกมา จากนั้นใส่น้ำตาลอิริทริทอลและเนย ใช้ตะกร้อมือหรือเครื่องผสมอาหารไฟฟ้า ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ใส่ไข่และกลิ่นวานิลลา ผสมจนเข้ากันดี นำใส่ส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้เทลงไป และผสมให้เข้ากันด้วยความเร็วระดับปานกลาง
  4. เมื่อแป้งคุกกี้ของเราได้ที่แล้ว ให้ใส่ช็อกโกแลตชิปลงไป โดยในขั้นตอนนี้เราจะใช้ไม้พายกวนก็พอค่ะ
  5. จากนั้นให้นำแป้งที่ได้มาห่อด้วยแรปใสและแช่เย็นเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
  6. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 180°C สำหรับถาดที่ใช้อบอย่าลืมวางกระดาษรองสำหรับอบไว้ก่อนนะคะหรืออาจจะทาเนยบนถาดอบก็ได้ค่ะ จากนั้นก็วางแป้งคุกกี้ลงไป โดยปั้นเป็นก้อนให้ขนาดเท่า ๆ กัน กดแต่ละชิ้นให้แบนเล็กน้อย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละชิ้นห่างกันอย่างน้อย 1 เซนติเมตร
  7. ใช้เวลาอบประมาณ 8-10 นาที สังเกตว่าคุกกี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองและขนาดคุกกี้เริ่มกระจายตัวออกเล็กน้อย นั่นหมายความว่าคุกกี้ของคุณสุกแล้วค่ะ
  8. พักไว้ให้เย็นบนถาดอบเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที หรือจนกว่าจะเย็นสนิทคุกกี้ก็จะแข็งตัวและพร้อมรับประทานทันทีเลยค่ะ

ไอศกรีมมะพร้าวคีโต

ไอศกรีมเป็นของหวานที่ช่วยดับกระหายทั้งยังช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าเมื่อคุณเข้าสู่วงการอาหารคีโต เมนูนี้ก็ดูเหมือนจะต้องถูกตัดออกจากตารางอาหารประจำวันไปโดยปริยาย เนื่องจากวัตถุดิบหลักของไอศกรีมก็คือน้ำตาลและนม !!! ซึ่งเป็นศัตรูหัวใจของชาวคีโตเลยค่ะ แต่วันนี้เราจะมาสอนคุณทำไอศกรีมมะพร้าวสูตรคีโตกัน บอกได้คำเดียวเลยว่า อร่อย !!!

วัตถุดิบ ไอศกรีมมะพร้าวคีโต

  • Heavy Cream หรือ หัวกะทิ 3 ​​ถ้วย
  • สารให้ความหวาน (อัลลูโลส / ไซลิทอล) 85 กรัม
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ไข่เบอร์ใหญ่ 6 ฟอง
  • เนยมะพร้าว 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • ผงเจลาติน 2 ช้อนชา
  • สารสกัดวานิลลา 1½ ช้อนโต๊ะ
  • เกล็ดมะพร้าว (ไม่หวาน)  ½ ถ้วย

วิธีทำ ไอศกรีมมะพร้าวคีโต

  1. ใส่ Heavy Cream, สารให้ความหวาน และเกลือลงในกระทะขนาดเล็ก โดยเราจะใช้ไฟอ่อนปานกลาง ค่อย ๆ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนสารให้ความหวานละลาย เสร็จแล้วให้พักตั้งไว้ก่อนค่ะ
  2. ต่อมาให้ตอกไข่ใส่ในชามผสม และตีไข่ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ค่อยๆ เทส่วนผสมครีมอุ่น ๆ (ที่เราทำไว้ในตอนแรก) ลงในชาม โดยอย่าลืมว่าคุณจะต้องคนส่วนผสมอยู่ตลอดเวลาด้วยนะคะ
  3. เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้ว ใส่กลับลงในกระทะใบเดิมค่ะ จากนั้นเปิดเตาแก๊สด้วยไฟร้อนปานกลาง ใส่เนยมะพร้าว เจลาติน และวานิลลาลงไป ค่อย ๆ ตีเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งได้เนื้อครีมข้น ๆ
  4. นำครีมที่ได้ใส่ในถาด จากนั้นนำไปแช่แข็งเป็นเวลา 8 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
  5. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 °C นำเกล็ดมะพร้าวไปอบเป็นเวลา 2-3 นาที เมื่ออบเสร็จแล้วจนส่งกลิ่นหอม ให้คุณน้ำเกล็ดมะพร้าวใส่ในเครื่องปั่น จากนั้นก็ปั่นจนได้ผงมะพร้าวที่เนียนละเอียดเลยค่ะ เพียงเท่านั้นเราก็จะได้ท็อปปิ้งเป็นผงมะพร้าวหอม ๆ โรยไอศกรีมแล้วค่ะ

เคล็ดลับ การทำไอศกรีมคีโต

สารให้ความหวานไซลิทอลหรืออัลลูโลส จะช่วยให้ไอศกรีมเซ็ตตัวได้มากกว่าปกติ โดยเฉพาะกับสารอิริทริทอลนั้นทำให้ไอศกรีมแข็งมาก อย่างไรก็ตาม…หากคุณใช้อิริทริทอล เราแนะนำให้รอประมาณ 5-7 นาทีหลังจากนำออกจากช่องแช่แข็งแล้ว เพื่อที่เวลาทานเนื้อไอศกรีมจะได้มีความอ่อนนุ่มลงและทานได้ง่ายขึ้น

หมายเหตุ : โปรดจำไว้ว่าไซลิทอลเป็นพิษต่อสุนัข อย่าปล่อยให้น้อง ๆ เลียหรือลิ้มรสส่วนผสมไอศกรีมเชียวนะคะ


แซนด์วิชไอศกรีมคีโต

อยากจะบอกว่านี่เป็นของว่างที่อร่อยและมีความพิเศษในตัวมากค่ะ สามารถทำเป็นของฝากหรือของขวัญให้ผู้คนรอบข้างได้เลย และจากที่เราได้สอนทำ “คุกกี้ช็อกโกแลตชิปคีโต” และ “ไอศกรีมแบบโฮมเมด” ไปแล้วในหัวข้อก่อน ดังนั้น “แซนด์วิชไอศกรีมคีโต” จึงมีขั้นตอนการทำที่ง่ายมากค่ะ

วิธีทำ แซนด์วิชไอศกรีมคีโต

คว่ำคุกกี้หนึ่งชิ้นลง จากนั้นตักไอศกรีมมาวางบนคุกกี้เกลี่ยให้เนื้อไอศกรีมกระจายทั่วชิ้นคุกกี้อย่างสม่ำเสมอ ปิดท้ายหน้าไอศกรีมด้วยคุกกี้อีกชิ้น แล้วกดเบา ๆ ให้คุกกี้และไอศกรีมเกาะติดกัน นำใส่ไว้ในภาชนะสุญญากาศ และแช่แข็งเป็นเวลา 2 ชั่วโมง


ชีสเค้กคีโต (ไม่ต้องอบ)

ชีสเค้กคีโตเนื้อครีมเนียน ๆ ตัดความเลียนด้วยรสมะนาวอ่อน ๆ นับว่าเป็นของหวานไร้น้ำตาลที่สมบูรณ์แบบสำหรับชาวคีโตจริง ๆ ค่ะ แน่นอนว่าหลายคนเห็นเมนูนี้แล้วต้องส่ายหน้าถอดใจกันไปก่อน 🙁 แต่จริง ๆ แล้วนี่ถือว่าเป็นเมนูที่ทำง่ายมาก คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนทำเบเกอรี่ที่มีประสบการณ์ก็สามารถทำชีสเค้กคีโตที่แสนอร่อยนี้ได้ค่ะ อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องมีเตาอบด้วยซ้ำ ! ใช่ค่ะมันทำง่ายมาก คุณสามารถเสิร์ฟพร้อมกับท็อปปิ้งจำพวกคาร์โบไฮเดรตต่ำที่คุณชื่นชอบ เช่น ซอสเชอร์รี่ไร้น้ำตาลทรายก็ยังได้ มาดูสูตรกันดีกว่าค่ะ

วัตถุดิบ ส่วนฐาน

  • แป้งอัลมอนด์ 2 ถ้วย
  • เนยละลาย 115 กรัม
  • อิริทริทอล ¼ ถ้วย
  • เกลือ ¼ ช้อนชา

วัตถุดิบ ครีมชีส

  • ครีมชีส 4 ถ้วย
  • Heavy Cream 1 ถ้วย
  • อิริทริทอล ½ ถ้วย
  • สารสกัดวานิลลา 2 ช้อนชา
  • เลมอน 1 ลูก

วิธีทำ ชีสเค้กคีโต

  1. เพิ่มส่วนผสมทั้งหมดสำหรับการทำแป้งฐานเค้กลงในชามผสมอาหาร จากนั้นผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  2. นำแป้งที่ได้ใส่ลงไปในแม่พิมพ์ และใช้ก้นถ้วยขนาดเล็กค่อย ๆ กดแป้งลงไปจนแน่น
  3. เมื่อได้ส่วนฐานแล้วให้เราค่อย ๆ เกลี่ยแป้งขึ้นมาที่ขอบของภาชนะแม่พิมพ์ด้วยนะคะ จากนั้นนำแม่พิมพ์ที่มีแป้งอยู่ภายในไปแช่ในตู้เย็นให้แป้งแข็งตัวค่ะ
  4. ในส่วนของครีมชีสนั้น เราจะนำส่วนผสมทั้งหมดมาใส่ในชามผสมอาหารขนาดใหญ่ จากนั้นก็ใช้เครื่องตีแบบมือหรือจะใช้ตะกร้อมือตีก็ได้ค่ะ ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. นำครีมชีสที่ได้เทลงไปในถ้วยที่เราเตรียมฐานแป้งเอาไว้ จากนั้นก็ใช้ไม้พายค่อย ๆ เกลี่ยหน้าให้เรียบเนียน อย่าลืมเคาะแม่พิมพ์เพื่ออัดครีมชีสให้แน่นด้วยนะคะ
  6. ปิดด้วยแร็ปพลาสติก แล้วไปแช่ในตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมงหรือข้ามคืนค่ะ เวลาจะทานก็โรยหน้าชีสเค้กด้วยท็อปปิ้งที่คุณชอบได้เลยค่ะ

ชีสเค้กหน้าไหม้คีโต

ชีสเค้กหน้าไหม้ได้กลายเป็นหนึ่งในของหวานที่นิยมไปแล้วทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเรียบง่ายและความนุ่มนวลของเนื้อชีสเค้กทำให้หลาย ๆ คนหลงใหลในรสชาติและเทกเจอร์เหล่านั้น ดังนั้นเพื่อให้เพื่อน ๆ ชาวคีโตสามารถทานชีสเค้กหน้าไหม้ได้อย่างสบายใจ เราจึงเอาสูตรชีสเค้กหน้าไหม้สูตรคาร์โบไฮเดรตต่ำมาฝากกันค่ะ ว่าแล้วก็มาดูกันสักหน่อยว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ?

วัตถุดิบ ชีสเค้กหน้าไหม้คีโต

  • Heavy Cream 1¼ ถ้วย
  • ครีมชีส 2½ ถ้วย
  • ไข่ 4 ฟอง
  • อิริทริทอล ¼ ถ้วย
  • แป้งอัลมอนด์ 2½ ช้อนชา

วิธีทำ ชีสเค้กหน้าไหม้คีโต

  1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 200°C
  2. ใส่เพิ่มส่วนผสมทั้งหมดลงในชามขนาดใหญ่แล้วผสมกับเครื่องผสมอาหารไฟฟ้าให้เนื้อเนียนละเอียด
  3. เทส่วนผสมลงไปในถาดสำหรับอบเค้ก แต่อย่าลืมวางกระดาษไขสำหรับอบที่ชุบน้ำหมาด ๆ ก่อนด้วยนะคะ
  4. อบเป็นเวลา 30-35 นาที หรือจนผิวเค้กเป็นสีน้ำตาลสวยงาม
  5. นำเค้กออกจากเตาอบและปล่อยให้เย็นเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟจ้า

เคล็ดลับ ชีสเค้กหน้าไหม้คีโต

เมื่อคุณนำออกจากเตาอบแต่ดูเหมือนยังสุกนั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะมันจะแข็งตัวเมื่อเย็นตัวลง นอกจากนี้ยังอาจจับตัวได้เล็กน้อยด้วย ดังนั้นเราขอแนะนำว่าอย่าเปิดเตาอบขณะอบเด็ดขาดค่ะ

ส่วนตัวเราชอบทานโดยไม่ใส่ท็อปปิ้งใด ๆ แต่คุณสามารถเสิร์ฟพร้อมราสเบอรี่คูลิสโฮมเมด (ไร้น้ำตาลทราย) หรือกับซอสช็อคโกแลตคาร์โบไฮเดรตต่ำก็ได้ค่ะ อร่อยไปอีกแบบ หากต้องการรสชาติที่พิเศษมากยิ่งขึ้น คุณสามารถใส่ผลไม้อย่าง ส้ม เลมอน หรือผิวเลมอนได้นะคะ


ทาร์ตคัสตาร์ไข่คีโต (ไม่ใส่นมวัว)

วัตถุดิบ แป้งทาร์ต

  • แป้งอัลมอนด์ 2ถ้วย
  • อิริทริทอล 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ¼ ช้อนชา
  • น้ำมันมะพร้าว 85 มิลลิลิตร
  • ไข่ 1 ฟอง

วัตถุดิบ คัสตาร์

  • หัวกะทิ 13 ถ้วยตวง
  • เกลือ ¼ ช้อนชา
  • อิริทริทอล 3 ช้อนโต๊ะ
  • สารสกัดวานิลลา 2 ช้อนชา
  • ผงเจลาติน ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่แดง 6 ฟอง

วิธีทำ ทาร์ตไข่คีโต

แป้งทาร์ต

  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175°C
  2. นำส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้สำหรับทำแป้งทาร์ตมาผสมให้เข้ากัน
  3. แบ่งส่วนผสมแป้งทาร์ตให้เท่า ๆ กัน (ในกรณีที่ทำเป็นชิ้นเล็ก) หรือเทลงมนถาดพายขนาด 9 นิ้ว เทเดียวก็ได้ค่ะ
  4. กดส่วนผสมของแป้งลงในถาดและด้านข้างของถาดด้วยนะคะ โดยใช้ด้านหลังของช้อนเป็นตัวกด สร้างลายที่สวยงามที่ด้านล่างของฐานทาร์ต ด้วยการใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วฐานเลยค่ะ
  5. นำเข้าอบประมาณ 10-12 นาที หรือจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง จากนั้นนำออกจากเตาอบ และพักให้เย็นสนิท

คัสตาร์ไข่

  1. ใส่หัวกะทิ, เกลือ, อิริทริทอล และวานิลลาลงในกระทะ ปล่อยให้เดือดประมาณ 10 นาที นำออกจากเตาแก๊ส
  2. หันมาโรยผงเจลาตินลงบนน้ำ แล้วพักไว้ 3 นาที
  3. หาชามอีกใบ มาตีไข่แดงจนเป็นครีม ใช้เครื่องผสมอาหารเปิดระดับความเร็วที่ช้ามากจากนั้นค่อย ๆ เทหัวกะทิอุ่น ๆ ลงในไข่ ตีอย่างต่อเนื่องจนเข้ากันดีและเนียน
  4. เททุกอย่างกลับลงในกระทะแล้วนำกลับไปตั้งเตาแก๊สโดยใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำเจลาตินที่ละลายดีแล้วลงไป แล้วคนประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าจะละลายและส่วนผสมข้นขึ้นเล็กน้อย
  5. หากคุณสังเกตเห็นก้อนเนื้อในคัสตาร์ด ให้กรองผ่านตะแกรงก่อนนะคะ จากนั้นตักคัสตาร์ดลงเทลงในฐานทาร์ต
  6. แช่เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหรือจนกว่าเนื้อคัสตาร์จะเซ็ตตัว

บราวนี่คีโต

ตอนนี้ร่างกายของคุณกำลังเรียกร้องขนมหวานที่ทำจากช็อกโกแลตอยู่ใช่ไหมคะ ? แน่นอนว่าปัจจุบันนี้เราหาซื้อช็อกโกแลตสำหรับคีโตได้ง่ายมาก แต่การเปลี่ยนช็อกโกแลตให้เป็นของหวานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ แต่แต่แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป เพราะว่าวันนี้เราจะมาแนะนำสูตรบราวนี่คีโตกันจ้า บอกเลยว่าเป็นบราวนี่ที่ไม่ขมและไม่หวานเกินไป อร่อยมาก ๆ

วัตถุดิบ บราวนี่คีโต

  • เนย 170 กรัม
  • เนยอัลมอนด์ 85 กรัม
  • ไข่ขนาดใหญ่ 3 ฟอง
  • อิริทริทอล 155 กรัม
  • ผงโกโก้ 28 กรัม
  • แป้งอัลมอนด์ 113 กรัม
  • ผงฟู ½ ช้อนชา
  • เกลือ ¼ ช้อนชา
  • น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
  • สารสกัดวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงกาแฟสำเร็จรูป ½ ช้อนชา (ไม่จำเป็น)
  • ดาร์กช็อกโกแลตบด (มีโกโก้มากกว่า 80%) 28 กรัม

วิธีทำ บราวนี่คีโต

  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175°C
  2. นำถาดอบมารองด้วยกระดาษไขสำหรับอบ (ป้องกันเนื้อบราวนี่ติดถาด)
  3. ใช้เครื่องผสมอาหารผสมเนย, เนยอัลมอนด์, ไข่ และสารให้ความหวาน ผสมจนเนื้อเนียนเข้ากันดี
  4. ใส่ผงโกโก้, แป้งอัลมอนด์, ผงฟู, เกลือ, น้ำ, สารสกัดวานิลลา และผงกาแฟสำเร็จรูป
  5. จากนั้นคนให้เข้ากัน ใส่ดาร์กช็อกโกแลตแท่งที่ทำเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงไป
  6. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในถาดอบที่เตรียมไว้ แล้วใช้ไม้พายเกลี่ยหน้าให้เรียบ
  7. นำเข้าอบประมาณ 25-28 นาที หรือจนกว่าแป้งจะอยู่ตัว แต่อย่าอบมากเกินไป ไม่อย่างนั้นบราวนี่จะแข็งและแห้งได้ ปล่อยให้เย็นประมาณ 20 ถึง 30 นาทีก่อนตัดเป็นชิ้น

เคล็ดลับ บราวนี่คีโต

สำหรับบราวนี่ที่มีรสหวานน้อย คุณสามารถลดหรือไม่ใส่สารให้ความหวานอิริทริทอลได้นะคะ หรือหากต้องการของหวานที่อร่อยยิ่งขึ้น เราแนะนำให้เสิร์ฟพร้อมวิปปิ้งครีมชนิดไม่หวานที่ตีจนตั้งยอดอ่อน รับรองว่าอร่อยมากกกกก


แมคคาเดเมียเคลือบช็อกโกแลต

สำหรับเมนูนี้บอกได้เลยว่าทำง่ายมากค่ะ อุปกรณ์วัตถุดิบก็ไม่เยอะ ขอเพียงแค่มี แมคคาเดเมียและช็อกโกแลตที่มีความเข้มข้นของโกโก้มากกว่า 80% ก็พอค่ะ หลายคนอาจไม่ทราบว่าถั่วแมคคาเดเมียถือเป็นถั่วชนิดหนึ่งที่ ทำให้เกิดคีโตเจนิกมากที่สุด และสิ่งเดียวที่จะทำให้การทานแมคคาเดเมียอร่อยยิ่งขึ้นได้ก็คือการทานคู่ดาร์กช็อกโกแลตเท่านั้นจ้า !!

วัตถุดิบ แมคคาเดเมียเคลือบช็อกโกแลต

  • ดาร์กช็อกโกแลตไม่มีน้ำตาล
  • น้ำมัน MCT หรือน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือหยาบหรือเกลือทะเล
  • ถั่วแมคคาเดเมียอบ

วิธีทำ แมคคาเดเมียเคลือบช็อกโกแลต

นำช็อกโกแลตไปละลายด้วยไมโครเวฟประมาณ 50 วินาที จากนั้นให้โรยเกลือ ใส่น้ำมัน MCT หรือน้ำมันมะพร้าวลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี นำแมคคาเดเมียอบมาจุ่มลงไปให้ช็อกโกแลตเคลือบอย่างทั่วถึง นำไปแช่ในช่องแช่แข็งเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที จนช็อกโกแลตแข็งตัว

หมายเหตุ : หากต้องการให้ช็อกโกแลตเคลือบถั่วอย่างหนา แนะนำให้ใช้แม่พิมพ์จะง่ายกว่าค่ะ


พานาคอตต้าคีโต

พานาคอตต้าสูตรคาร์โบไฮเดรตต่ำเป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ทั้งยังมีรสชาติเข้มข้นและมีความเป็นเนื้อครีมมากอีกด้วยนะคะ ยิ่งราดด้วยซอสสตรอเบอร์รี่สดที่ทำเอง ยิ่งอร่อยและเข้ากันสุด ๆ !

วัตถุดิบ พานาคอตต้าคีโต

  • Heavy Cream 1 ½ ถ้วยตวง
  • นมอัลมอนด์หรือกะทิ ½ ถ้วย
  • ผงเจลาติน 2 ช้อนชา
  • อิริทริทอลแบบผง 1⁄3 ถ้วย
  • สารสกัดวานิลลา ¾ ช้อนชา

ซอสพานาคอตต้าคีโต

  • สตรอเบอร์รี่สดชิ้นเล็ก
  • อิริทริทอลชนิดผง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ พานาคอตต้าคีโต

  1. ทาน้ำมันบนถ้วยขนาดเล็กเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เนื้อพานาคอตต้าติดภาชนะ
  2. ใส่ครีมและนมอัลมอนด์ลงไปบนกระทะ จากนั้นโรยผงเจลาตินแล้วพักสักไว้ครู่เพื่อให้เจลาตินละลาย (ยังไม่ตั้งไฟ)
  3. เมื่อผงเจลาตินละลายแล้วให้ตั้งไฟปานกลางแล้วค่อย ๆ คนบ่อย ๆ จนส่วนผสมเดือดปุด ๆ จึงนำออกจากเตาแล้ว
  4. ใส่สารให้ความหวานและสารสกัดวานิลลาในขณะที่ส่วนผสมยังร้อน ๆ
  5. เทส่วนผสมที่ได้ใส่ในถ้วยและแช่เย็นจนอยู่ตัวอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
  6. ในส่วนของซอสนั้น หากระทะขนาดเล็กตั้งไฟร้อนปานกลาง ใส่ส่วนผสมสำหรับทำซอสลงไปและคนทุกอย่างเข้ากัน เคี่ยวจนสตรอเบอร์รี่นิ่มพอประมาณ หรือคุณจะบดด้วยส้อมก็ได้ค่ะ และปล่อยให้เย็น 20 นาที ก่อนราดลงบนพานาคอตต้า เป็นอันเสร็จเรียบร้อยจ้า

เป็นอย่างไรบ้างคะ ? ชอบสูตรเมนูของหวานคีโตที่เราแนะนำกันไหมคะ ? หากชอบไว้บทความหน้าเราจะกลับมาพร้อมกับสูตรอาหารใหม่ ๆ สำหรับใครที่อยากอ่านบทความที่เกี่ยวกับคีโต เว็บไซต์เรามีบทความให้ความรู้และเคล็ดลับในการเลือกสินค้ามากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น นมคีโต, น้ำสลัดคีโต, ข้าวบุกคีโต หรือจะเป็นเมนูคีโตก็มีนะคะ