อาหารเช้าเป็นเมนูที่สำคัญที่สุดในแต่ละวัน เนื่องจากขณะนอนหลับร่างกายของเรายังทำงานต่ออีกหลายชั่วโมงโดยที่ไม่มีน้ำหรืออาหารใด ๆ เข้าไปเพิ่มพลังงานให้แก่เซลส์ต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนั้นร่างกายของเราจคดึงเอาพลังงานจากมื้อเย็นและพลังงานที่สะสมไว้ในร่างกายออกมาใช้งานในระหว่างนี้
นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่ควรงดอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้า โดยเฉพาะตอนเช้าเราควรจะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบหมู่มากที่สุดเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและร่างกายจะตื่นตัว ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นและพร้อมสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ค่ะ แต่เนื่องจากการใช้ชีวิตในสมัยนี้ที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาและทุกอย่างเต็มไปด้วยความเร่งรีบ การตื่นมาปรุงอาหารแต่เช้าอาจเป็นเรื่องยากและเป็นกิจกรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยสำหรับบางคน ดังนั้นพวกเขาเหล่านั้นจึงหันไปพึ่งเมนูที่ทานง่ายและสะดวกอย่างแซนด์วิชหรือซีเรียลเป็นมื้อแรกของวัน
สำหรับซีเรียลจะเป็นเมนูอาหารเช้าสายสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มเด็กไปจนถึงวัยรุ่นและวัยทำงานเนื่องจากเมนูนี้ทำง่ายและมีตัวเลือกที่หลากหลาย วัตุถุดิบหลักที่จะต้องมีก็คือซีเรียลและนม บางคนอาจจะเพิ่มท็อปปิ้งอย่างเมล็ดถั่ว, โยเกิร์ตอบกรอบ, ผลไม้สด หรือผลไม้แห้ง เพื่อความสดชื่นและคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะคอร์นเฟลกจะเป็นอาหารเช้าที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากอาหารชนิดนี้มีความกรุบกรอบ มีสีเหลืองทอง และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เมื่อนำมาผสมกับนมจืด กรีกโยเกิร์ตหรือของเหลวต่าง ๆ ก็จะนิ่มช้ากว่าซีเรียลประเภทอื่นค่ะ
คอร์นเฟลก / ซีเรียล / กราโนลา แตกต่างกันอย่างไร (1-4)
เชื่อหลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าคอร์นเฟลก, ซีเรียล และกราโนล่าเป็นอาหารชนิดเดียวกันหรือเปล่า? เนื่องจากอาหารชนิดนี้มักจะรับประทานเป็นอาหารเช้าเหมือน ๆ กัน ถึงจะมีหน้าตาไม่ต่างกันมากนัก แต่เราขอบอกเลยว่าทั้ง 3 อย่างแทบจะไม่ใช่อาหารชนิดเดียวกันซะทีเดียวค่ะ

- คอร์นเฟลก : สำหรับคอร์นเฟลกจะผลิตมาจากเมล็ดข้าวโพดเป็นหลักหรือจะใช้เมล็ดข้าวโพดล้วน นำมาผ่านกระบวนการอบแห้ง, รีดเป็นแผ่นบาง แล้วนำมาอบให้สุกอีกครั้ง ส่วนใหญ่แล้วคอร์นเฟลกมักจะเป็นแผ่นสีเหลืองเล็ก ๆ ซึ่งเป็นสีธรรมชาติของข้าวโพด
- ซีเรียล : ส่วนซีเรียลจะนำส่วนผสมหลายชนิดมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี, ข้าวบาร์เลย์ หรือมอลต์ อาจจะมีการตกแต่งรสชาติเพิ่มเติมและมีรูปร่างหลากหลาย แต่สำหรับชาวต่างชาติจะจัดว่า ‘คอร์นเฟลก’ เป็นหนึ่งซีเรียลที่ทำจากข้าวโพดค่ะ
- กราโนลา : ขณะที่กราโนลาจะมีส่วนผสมหลักคือข้าวโอ๊ต, ถั่วอบแห้ง และธัญพืชต่าง ๆ นำมาอบและปรุงรสด้วยน้ำผึ้ง, ช็อกโกแลต หรือผงชาเขียว บางครั้งอาจมีการผสมผลไม้อบแห้งลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติและสารอาหาร
ถ้าพูดถึงสารอาหารของอาหารเหล่านี้ขอบอกว่าไม่ต่างกันมากค่ะ เมื่อนำอาหารทั้ง 3 ประเภทมาคำนวณแคลอรี่และสารอาหารจะพบว่า
- คอร์นเฟลก : ในคอร์นเฟลก 100 กรัมจะให้พลังงานอยู่ที่ 357 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยไขมัน 0.4 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 84 กรัม และโปรตีน 7.5 กรัมโดยประมาณ
- ซีเรียล : ส่วนซีเรียลในปริมาณเท่ากันจะให้พลังงาน 352 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยไขมัน 2.9 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 81 กรัม และโปรตีน 9.7 กรัม
- กราโนลา : ขณะที่กราโนลาจะให้พลังงาน 422 กรัม ประกอบด้วยไขมัน 11 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 74 กรัม และโปรตีน 10 กรัมโดยประมาณค่ะ
ดังนั้นการเลือกทานอาหารแต่ละประเภทจึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ทานว่าต้องการควบคุมสารอาหารใดเป็นพิเศษ
เมนูจากคอร์นเฟลก
นอกจากนำมาทานกับนมแล้วคอร์นเฟลกยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้อีกหลายอย่างเลยค่ะ จะมีอะไรบ้างรีบเลื่อนไปดูกันเลยดีกว่า
1. คอร์นเฟลกคาราเมล
เริ่มต้นด้วยเมนูยอดฮิตอย่างคอร์นเฟลกคาราเมล หลายคนอาจจะเคยเห็นและทานเมนูนี้กันบ่อยครั้ง แต่ใครจะรู้ว่าเราเองก็สามารถทำคอร์นเฟลกคาราเมลได้ด้วยตัวเองแถมยังลงทุนน้อยกว่า นอกจากจะมีราคาถูกลงและทานได้แบบไม่อั้นแล้วเรายังปรับเปลี่ยนส่วนผสมได้ตามชอบอีก สำหรับสูตรนี้เราจะเลือกใช้น้ำผึ้งและเนยทำให้คอร์นเลฟทั้งกรอบและหอมเนยสุด ๆ พร้อมทั้งมีถั่วกรอบ ๆ และผลไม้ห้งรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ ตัดกับความหวานได้อย่างลงตัว
วัตถุดิบคอร์นเฟลกคาราเมล
- คอร์นเฟลก
- ถั่วอบแห้ง
- ผลไม้อบแห้ง
- แป้งสาลีเอนกประสงค์
- เนยจืด
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- น้ำผึ้ง
- นมข้นจืด
- กลิ่นวานิลลา
วิธีทำคอร์นเฟลกคาราเมล
เราจะเริ่มจากการเตรียมคอร์นเฟลก, ผลไม้ และถั่วอบแห้งใส่ภาชนะแยกไว้ก่อน สำหรับผลไม้และถั่วอบแห้งจะใช้ชนิดไหนก็ได้นะคะเลือกได้ตามชอบเลย ส่วนปริมาณก็กะให้น้อยกว่าคอร์นเฟลกประมาณครึ่งหนึ่งค่ะ ถ้าใส่เยอะเกินไปจะไปกลบคอร์นเฟลกจนหมดทำให้ทานยาก จากนั้นวอร์มเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส
ระหว่างนั้นหันมาหยิบเนยใส่กระทะหรือหม้อแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ เนยเริ่มละลายแล้วเราจะใส่น้ำตาลทราย, นมจ้นจืด, กลิ่นวานิลลา, น้ำผึ้ง และเกลืออีกเล็กน้อยตามลงไป คนให้เข้ากันแล้วตุ๋นไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายดีและเริ่มเดือดเป็นฟองหยาบ ขั้นตอนนี้เราจะใส่แป้งสาลีอีกเล็กน้อยแล้วรีบคนให้เข้ากัน ตุ๋นต่อจนส่วนผสมเดือดและกลายเป็นฟองละเอียดค่ะ
ได้ฟองละเอียดแล้วปิดเตา นำคาราเมลที่ทำไว้แบ่งใส่ลงในภาชนะที่ใส่คอร์นเฟลกและของอบแห้งอย่างละเท่า ๆ กันแล้วคลุกเคล้าจนคาราเมลเคลือบจนทั่วทุกชิ้น สำหรับคอร์นเฟลกเราจะต้องเบามือหน่อยนะคะเพราะถ้าคนแรงเกินไปคอร์นเฟลกจะแตกเป็นผงได้ค่ะ ส่วนถั่วและผลไม้สามารถคนได้ตามปกติ หลังจากเริ่มเหนียวแล้วนำส่วนผสมทั้ง 2 อย่างมารวมกัน คลุกเบา ๆ ให้พอเข้ากันแล้วเทลงบนถาดอบที่รองแผ่นรองอบหรือกระดาษสำหรับอบขนมไว้เรียบร้อยแล้ว เกลี่ยให้กระจายตัวออกจากกัน ไม่จับเป็นก้อน
นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสเป็นเวลาประมาณ 10 นาทีหรือจนกว่าส่วนผสมจะดูแห้งขึ้น ครบเวลาแล้วนำออกมาคลุกให้เข้ากันอีกครั้งแล้วนำกลับไปอบต่ออีก 10 นาที ครบเวลาแล้วนำออกมาเกลี่ยให้กระจายตัวแล้วพักทิ้งให้เย็นสนิท หลังจากหายร้อนดีแล้วคอร์นเฟลกและถั่วจะกลับมากรอบอีกครั้ง เก็บใส่ภาชนะเก็บอาหารแห้งหรือกล่องเก็บสุญญากาศได้เลยค่ะ
2. บราวนี่คอร์นเฟลกคาราเมล
ตามมาติด ๆ ด้วยบราวนี่คอร์นเฟลกคาราเมล สาวกบราวนี่ต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอนเพราะบราวนี่เนื้อฉ่ำ ๆ ชิววี่เบา ๆ จะถูกปิดทับด้วยชั้นคอร์นเฟลกคาราเมลหนา ๆ กรุบกรอบกำลังดีและมีรสชาติหอมหวานตัดกับความเข้มข้นของบราวนี่ เมนูนี้บอกเลยว่าทำไม่ยากและใช้เวลาไม่นาน ใครจะใช้คอร์นเฟลกคาราเมลจากเมนูด้านบนหรือจะทำใหม่ก็ได้ไม่ว่ากัน ยิ่งได้ทานคู่กับนมหรือกาแฟร้อน ๆ สักแก้วบอกเลยว่าฟิน!
วัตถุดิบบราวนี่
- ไข่ไก่
- แป้งสาลีเอนกประสงค์
- ช็อกโกแลต
- น้ำตาล
- เนยเค็ม
- นมจืด
วัตถุดิบคอร์นเฟลกคาราเมล
- คอร์นเฟลก
- น้ำตาล
- น้ำผึ้ง
- เนยเค็ม
- น้ำเปล่า
วิธีทำบราวนี่คอร์นเฟลกคาราเมล
ทำบราวนี่กันก่อนดีกว่าค่ะ วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นำช็อกโกแลตมาผสมกับเนยแล้วอุ่นด้วยไมโครเวฟจนละลายดี จากนั้นผสมไข่ไก่กับน้ำตาลแล้วตีให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายได้ที่ นำช็อกโกแลตที่ทำไว้ก่อนหน้ามาผสมแล้วคนให้เข้ากัน ตามด้วยนมจืดและแป้งสาลี คนส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกันและหนืดขึ้น ไม่เหลวจนเกินไป จากนั้นเทใส่พิมพ์แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุกค่ะ เช็กได้โดยการนำไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลางขนม ถ้าไม่มีแป้งเหลวติดไม้ขึ้นมาก็แปลว่าใช้ได้แล้ว ครบเวลาแล้วนำออกมาพักไว้ก่อน
มาต่อกันที่คอร์นเฟลกคาราเมลกันบ้าง เราจะนำเนยเค็มมาละลายด้วยไฟอ่อนจนเริ่มเดือดเล็กน้อย จากนั้นตามด้วยน้ำคาล เคี่ยวจนน้ำตาละลายเข้ากับเนยดี ถ้าส่วนผสมดูแห้งเกินไปสามารถเติมน้ำเปล่าได้ทีละน้อยแล้วคนจนส่วนผสมเหลวขึ้นและเดือดเป็นฟองหยาบ เทน้ำผึ้งตามลงไปแล้วคนต่อจนส่วนผสมในหม้อเดือดเป็นฟองละเอียด ยกลงจากเตาแล้วนำมาคลุกเคล้ากับคอร์นเฟลกจนทั่ว ไม่ต้องเทคาราเมลจนเปียกชุ่มมากนะคะ เอาแค่พอเคลือบก็พอแล้วค่ะ จากนั้นนำคอร์นเฟลกคาราเมลมาวางทับบราวนี่ที่ทำไว้ก่อนหน้า พักทิ้งไว้จนเย็นสนิทจึงจะสามารถรับประทานได้ค่ะ
3. คุกกี้คอร์นเฟลก
คุกกี้คงจะเป็นเมนูที่หลายคนโปรดปรานไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะทั้งความเนย ความหวาน ความมันเป็นอะไรช่วยเยียวยาจิตใจที่ห่อเหี่ยวได้เป็นอย่างดี และคงจะฟิน x2 ถ้ามีคอร์นเฟลกเข้ามาเพิ่มกรุบกรอบ ในเมื่อชอบทั้ง 2 อย่างก็เอามารวมกันไปเลยสิคะ คุกกี้คอร์นเฟลกสูตรนี้เราจะทำให้เป็นชิ้นใหญ่หน่อยจะได้มีพื้นที่สำหรับคอร์นเฟลกเยอะ ๆ ตอนทานก็จะเต็มปากเต็มคำ ทั้งกลิ่นหอม ๆ และรสชาติหวานละมุนจะอบอวลอยู่ในปากจนหยุดไม่ได้
วัตถุดิบคุกกี้คอร์นเฟลก
- ไข่ไก่
- คอร์นเฟลก
- แป้งสาลีเอนกประสงค์
- เนยสด
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- ผงฟู
- กลิ่นวานิลลา
- ลูกเกด
วิธีทำคุกกี้คอร์นเฟลก
ขั้นตอนแรกนำแป้งสาลี, ผงฟู และเกลือมาร่อนผ่านตะแกรงประมาณ 2 ครั้งแล้วพักไว้ก่อน จากนั้นหันมาตีเนยและน้ำตาลด้วยตะกร้อไฟฟ้าจนน้ำตาลละลายและเนยขึ้นฟูจนมีสีอ่อนลง จากนั้นใส่ไข่และกลิ่นวานิลลาตามลงไป ตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันและขึ้นฟูอีกเล็กน้อยเราจะค่อย ๆ เทแป้งที่ร่อนไว้ก่อนหน้าและลูกเกดลงไปผสมกับเนยทีละน้อยสลับกับคอยคนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีจนสามารถปั้นได้
คราวนี้ล้างมือให้สะอาด เช็กให้แห้งแล้วหยิบแป้งหรือใช้ที่ตักไอศครีมตักแป้งขึ้นมาปั้นเป็นก้อนเล็กใหญ่ตามชอบ นำลงคลุกกับคอร์นเฟลกจนทั่วแล้วกดให้แบนเล็กน้อยจะได้สุกทั่วถึงกัน เสร็จแล้วนำเข้าอบที่คุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาทีหรือจนกว่าแป้งจะสุก นำออกมาพักทิ้งไว้ประมาณ 1 คืนคอร์นเฟลกจะกรอบและรสชาติจะกลมกล่อมขึ้น เก็บใส่ภาชนะแล้วรับประทานได้เลยค่ะ
4. ช็อกโก้คอร์นเฟลก
ใครชอบทานช็อกโกแลตยกมือขึ้นนน 🙋 เมนูนี้เราจะนำความเข้มข้นของช็อกโกแลตมารวมกับความกรุบกรอบของคอร์นเฟลคและตู้ม! กลายเป็นช็อกโกคอร์นเฟลค ขนมทานเล่นที่บอกเลยว่าอร่อยจนหยุดไม่ได้ เราจะเลือกใช้ช็อกโกแลตแท้แบบเข้มสุด ๆ มาตุ๋นจนเหลวแล้วนำมาคลุกเคล้ากับคอร์นเฟลกแล้วโรยถั่วสับเพิ่มความกรอบมัน ช็อกโกแลตจะเคลือบคอร์นเฟลกทุกอณูและจับตัวเป็นก้อนอย่างรวดเร็วทำให้คอร์นเฟลกยังกรอบ และเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของเนยหรือไขมันชนิดอื่นทำให้เราสามารถฟินกับความอร่อยได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีอะไรกั้น
วัตถุดิบช็อกโก้คอร์นเฟลก
- คอร์นเฟลก
- ดาร์คช็อกโกแลต
- ถั่วอบแห้ง
วิธีทำช็อกโก้คอร์นเฟลก
วิธการทำเมนูนี้ง่ายม๊ากกกกกและแนะนำให้ทำในห้องแอร์หรือเปิดพัดลมให้มีอุณภูมิต่ำ ๆ หน่อยนะคะ เราจะเริ่มจากนำถั่วมาสับหยาบก่อนค่ะ จะใช้อัลมอนด์, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, พิสตาชิโอหรือถั่วชนิดอื่น ๆ ก็ได้ เลือกได้ตามชอบเลยแต่ต้องเป็นถั่วอบที่สุกแล้วนะคะเพราะเราจะไม่มีการนำเข้าเตาอบหรืออะไรทั้งสิ้น! สับถั่วเสร็จแล้วเราจะแบ่งคอร์นเฟลกเป็นกอง ๆ เตรียมไว้เพื่อความรวดเร็ว จากนั้นเทน้ำเปล่าใส่หม้อแล้วนำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนอ่อนจนเดือด
ใช้หม้อทนความร้อนอีกหนึ่งใบขึ้นอังหม้อใบแรกแล้วนำช็อกโกแลตลงละลาย วิธีนี้จะช่วยให้ช็อกโกแลตของเราไม่ไหม้และมีกลิ่นหอมค่ะ สำหรับช็อกโกแลตก็สามารถเลือกระดับความเข้มข้นได้ตามชอบเลยนะ ใครชอบทานหวาน ๆ ก็สามารถใส่น้ำตาลเพิ่มหรือจะแบ่งถั่วสับมาผสมลงในช็อกโกแลตก็ได้ ช็อกโกแลตละลายดีแล้วยกลงจากเตาแล้วตักราดลงบนคอร์นเฟลกที่แยกไว้ รีบคลุกด้วยความเร็วแสงให้ช็อกโกแลตเคลือบคอร์นเฟลกจนทั่วแล้วโรยด้วยถั่วสับก่อนที่ช็อกโกแลตจะแข็งตัว ทำทีละกองไปเรื่อย ๆ จนหมด ถ้าช็อกโกแลตเริ่มแข็งแล้วสามารถนำกลับไปอุ่นใหม่จนละลายแล้วนำกลับมาใช้ต่อได้ค่ะ ทิ้งไว้แค่ไม่นานช็อกโกแลตจะแข็งตัว สามารถนำมารับประทานได้แล้ว
5. ซีเรียลบาร์
ซีเรียลบาร์เป็นอาหารว่างหรือขนมทานเล่นที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ เพราะนอกจากความหอมหวานของคาราเมลและน้ำผึ้งแล้วซีเรียลบาร์ยังประกอบไปด้วยธัญพืชอีกหลายชนิดที่จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มท้องระหว่างมื้ออาหาร สำหรับสูตรที่เรานำมาฝากจะเป็นสูตรที่ทำง่ายและไม่ต้องใช้เตาอบขนมค่ะ เราจะทำคาราเมลด้วยกระทะและเตาแก๊สก่อนแล้วค่อยนำมาคลุกเคล้ากับธัญพืชอบกรอบและผลไม้แห้งที่ชอบ แค่พักทิ้งไว้ให้เย็นซีเรียลบาร์แท่งโตก็พร้อมรับประทานแล้ว
วัตถุดิบซีเรียลบาร์
- คอร์นเฟลค
- ธัญพืช
- ลูกเกด
- เนย
- น้ำผึ้ง
- น้ำตาล
- น้ำเปล่า
- เกลือ
วิธีทำซีเรียลบาร์
วิธีทำสูตรนี้ง่ายเหมือนเดิมค่ะ เราจะมาทำไซรัปกันก่อนโดยการเทน้ำตาลลงในกระทะแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ เติมน้ำเปล่าและเนยลงไปพอประมาณแล้วปล่อยให้น้ำตาลละลายไปเรื่อย ๆ ถ้าน้ำตาลโดนน้ำไม่ทั่วถึงให้เราค่อย ๆ เอียงกระทะไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนที่แห้งจะแฉะและละลาย ห้ามใช้ทัพพีคนน้ำตาลละคะเพราะจะทำให้น้ำตาลเป็นเกล็ดหรือตกทราย ไม่น่ารับประทาน น้ำตาลละลายและเดือดเป็นฟองหยาบแล้วเราจะเติมน้ำผึ้งและเกลืออีกนิดหน่อยลงไปค่ะ
เอียงให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดียวกันและเริ่มมีสีเข้มเหมือนคาราเมลก็ถือว่าใช้ได้ ยกลงจากเตาแล้วนำมาคลุกเคล้ากับธัญพืช, คอร์นเฟลก และลูกเกดให้ทั่ว จากนั้นเทใส่ภาชนะหรือถาด ใช้หม้อกดซีเรียลบาร์ของเราให้แบนเรียบขณะที่ยังร้อน ๆ อุ่น ๆ แล้วพักทิ้งไว้ให้หายร้อนก่อนตัดชิ้นแล้วเก็บเขาถึงซิปล็อคหรือภาชนะอื่น ๆ ตามต้องการค่ะ
6. เฟรนช์โทสต์เคลือบคอนเฟลกน้ำตาล
มาถึงเมนูสุดโปรดของไฮโซสาว ปารีส ฮิลตัน เฟรนช์โทสต์เคลือบคอร์นเฟลกน้ำตาลเป็นเมนูอาหารเช้าที่เธอโปรดปรานสุด ๆ เมนูนี้มีลักษณะคล้ายเฟรนช์โทสต์ที่เราทานกันบ่อย ๆ เลยค่ะแต่แตกต่างกันตรงที่เมนูนี่จะนำขนมปังไปชุบกับไข่และคอร์นเฟลก นำไปทอดกับเนยจนหอมแล้วเสิร์ฟพร้อมกับเมเปิ้ลไซรัปหรือน้ำผึ้งหอม ๆ โรยหน้าด้วยนู่นี่นั่นตามประสาสาวหวาน บอกเลยว่าเมนูนี้เด็ดมากเพราะหลังจากนำไปทอดแล้วคอร์นเฟลกจะหอมเนย ขนมปังกรอบนอกนุ่มในพร้อมได้กลิ่นหอมและความหวานของเมเปิ้ลไซรัปมาช่วยชูรสชาติ
วัตถุดิบ เฟรนช์โทสต์เคลือบคอนเฟลกน้ำตาล
- ไข่ไก่
- ขนมปัง
- คอร์นเฟลกเคลือบน้ำตาล
- เนย
- นมจืด
- กลิ่นวานิลลา
- ผงชินนามอน
- เมเปิ้ลไซรัป
- เกลือ
วิธีทำ เฟรนช์โทสต์เคลือบคอนเฟลกน้ำตาล
สำหรับเมนูนี้เราจะเริ่มจากการเทคอร์นเฟลกเคลือบน้ำตาลลงบนถาดหรือถ้วยใบใหญ่ ๆ สำหรับคอร์นเฟลกน้ำตาลจะหาซื้อได้จากร้านค้าทั่วไปเลยค่ะ หรือจะเปลี่ยนมาใช้คอร์นเฟลกคาราเมลหรือคอร์นเฟลกธรรมดาก็ได้นะคะ จากนั้นบดให้คอร์นเฟลกแตกเล็กน้อยจะได้เกาะติดง่ายขึ้น
พักคอร์นเฟลกไว้แล้วหยิบถ้วยอีกใบขึ้นมา ตอกไข่ใส่ลงไปแล้วใส่นม, กลิ่นวานิลลา และผงชินนามอนตามลงไป ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดีแล้วนำขนมปังลงไปจุ่มแป้งที่ทำไว้ให้ทั่ว สำหรับขนมปังแนะนำให้เลือกใช้ชนิดแผ่นหนาหน่อยนะคะตอนทานจะนุ่มและฟินมาก ๆ ขนมปังชุ่มดีแล้วยกขึ้นมาคลุกเคล้ากับคอร์นเฟลกให้ทั่ว ระหว่างนี้หันมาหยิบกระทะตั้งบนเตา เปิดไฟกลางค่อนอ่อนแล้วใส่เนยลงไป หลังจากเนยละลายดีแล้วนำขนมปังลงทอดให้สุกเหลืองทั่วทุกด้าน นำขึ้นใส่จานเสิร์ฟพร้อมเมเปิ้ลไซรัปหรือจะตกแต่งด้วยวิปครีม, ไอศครีม หรือผลไม้อบแห้งก็ได้ค่ะ
7. ทาร์ตคอร์นเฟลกธัญพืช
ทาร์ตคอร์นเฟลกธัญพืชเป็นหนึ่งในขนมสุดโปรดของเราค่ะ เมนูจะต้องถูกใจเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนแน่นอนเพราะนอกจากแป้งทาร์ตกรอบนุ่มแล้วยังมีธัญพืชและคอร์นเฟลกกรอบกรุบที่คลุกคาราเมลหอม ๆ อีก เสริมทัพด้วยผลไม้อบแห้งรสชาติเปรี้ยวอมหวานช่วยทำให้เมนูนี้อร่อยกลมกล่อมมากขึ้น ยิ่งได้แช่เย็นก่อนทานนะบอกเลยว่าอร่อยฟินนนนเพราะทาร์ตและธัญพืชจะกรอบx2 และเย็นชื่นใจมากค่ะ
วัตถุดิบทาร์ตคอร์นเฟลกธัญพืช
- ถ้วยทาร์ตสำเร็จรูป
- ธัญพืชอบแห้ง
- คอร์นเฟลก
- ผลไม้อบแห้ง
- แป้งสาลีเอนกประสงค์
- เนย
- น้ำตาลทราย
- น้ำผึ้ง
- เกลือ
- นมข้นจืด
วิธีทำทาร์ตคอร์นเฟลกธัญพืช
เมนูนี้เราจะใช้ถ้วยทาร์ตสำเร็จรูป ดังนั้นเรามาเริ่มทำคาราเมลเคลือบธัญพืชกันก่อนเลยค่ะ เริ่มจากนำกระทะขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ แล้วใส่เนยลงไป รอจนเนยละลายดีแล้วตามด้วยน้ำตาลทราย, น้ำผึ้ง, แป้งสาลี, นมข้นจืด และเกลือ คนจนส่วนผสมเข้ากันดีและเหนียวข้นขึ้นเป็นอันใช้ได้ ปิดเตาแล้วนำธัญพืช, ผลไม้อบแห้ง และคอร์นเฟลกลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน สำหรับธัญพืชจะต้องอบจนสุกแล้วนะคะ
หลังจากคลุกเคล้าจนคาราเมลเคลือบส่วนผสมทุกอย่างดีแล้วตักใส่ถ้วยทาร์ตแบบล้น ๆ ไปเลย ทำจนส่วนผสมหมดหรือได้ปริมาณตามต้องการแล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสใช้เวลาประมาณ 12 – 15 นาที สามารถใช้ได้ทั้งเตาอบไฟฟ้า, หม้ออบลมร้อน หรือหม้อทอดไร้น้ำมันเลยค่ะ ครบเวลาแล้วนำออกมาพักทิ้งไว้ประมาณ 1 คืนธัญพืชจะกรอบและมีรสชาติอร่อย นำมารับประทานได้เลยจ้า
8. ไก่กรอบคอร์นเฟลก
คอร์นเฟลกก็ใช้ทำอาหารคาวได้จ้า สำหรับเมนูไก่กรอบเราจะนำคอร์นเฟลกมาบดหยาบแล้วใช้แทนเกล็ดขนมปัง ส่วนวิธีการทำบอกเลยว่าเหมาะสำหรับสายสุขภาพสุด ๆ เพราะเราจะนำอกไก่ไปอบให้กรอบด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าเมนูนี้ไม่มีน้ำมันเยิ้มแถมยังได้ทานไก่กรอบนอกนุ่มในอีกต่างหาก จะเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วหรือซอสพริกก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ
วัตถุดิบไก่กรอบคอร์นเฟลก
- อกไก่
- ไข่ไก่
- คอร์นเฟลก
- เกลือ
- พริกไทยป่น
วิธีทำไก่กรอบคอร์นเฟลก
นำอกไก่มาล้างทำความสะอาด แผ่ครึ่งให้อกไก่บางลงและซับให้แห้ง จากนั้นโรยเกลือพริกไทยบาง ๆ ให้ทั่วทั้งชิ้นแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีค่ะ ระหว่างนั้นเทคอร์นเฟลกใส่จานแล้วใช้มือบีบให้แผ่นข้าวโพดแตก ใครอยากได้แบบหยาบหรือละเอียดสามารถทำเลือกได้ตามความชอบเลย ส่วนไข่ไก่ตอกใส่จานแล้วตีให้เข้ากันเตรียมไว้ ครบ 5 นาทีแล้วนำอกไก่มาชุบไข่ให้ทั่วแล้วตามด้วยคอร์นเฟลกที่เตรียมไว้ บีบ ๆ กด ๆ ให้คอร์นเฟลกติดกับเนื้อไก่เยอะ ๆ หน่อยนะคะ เสร็จแล้วทาน้ำมันหรือฉีดสเปรย์น้ำมันบริเวณถาดรองอาหารของหม้อทอดไร้น้ำมันแล้วนำไก่ลงทอดที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 20 นาที เมื่อครบ 10 นาทีแล้วพลิกไก่ 1 ครั้งเพื่อให้ไก่โดนความร้อนทั่วถึงกันค่ะ ครบเวลาแล้วนำออกมาหั่นแล้วเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มต่าง ๆ
9. คอร์นเฟลกโรยข้าว
คอร์นเฟลกโรยข้าวเป็นผงโรยข้าวแนวใหม่ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เลยค่ะ เมนูได้รับการคิดค้นและโปรโมทจากบริษัทอาหารพร้อมทานยอดนิยมอย่างนิชชิน จริง ๆ แล้วเมนูนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อโปรโมทคอร์นเฟลกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท เมื่อทำลองทานแล้วกลับพบว่าส่วนผสมทุกอย่างมันเข้ากันอย่างลงตัวจึงโปรโมทเผยแพร่และได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง วันนี้เราเลยแกะสูตรผงโรยข้าวแนวใหม่มาฝากเพื่อน ๆ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ในการรับประทานอาหาร
วัตถุดิบคอร์นเฟลกโรยข้าว
- คอร์นเฟลก
- คัตสึโอะบูชิ (ปลาโอขูด)
- น้ำมันงา
- เกลือป่น
- พริกไทยป่น
วิธีทำคอร์นเฟลกโรยข้าว
วิธีการทำไม่ซับซ้อนเลยค่ะ เพียงแค่นำคอร์นเฟลก, คัตสึโอะบูชิ, น้ำมันงา, เกลือป่น และพริกไทยนิดหน่อยมาคลุกเคล้าผสมกัน จากนั้นนำมาโปะลงบนข้าวสวยร้อน ๆ แล้วราดมายองเนสตามลงไปก็เสร็จพร้อมทานแล้วค่ะ ส่วนวิธีการทานแนะนำให้คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันดีและรีบทานตอนที่คอร์นเฟลกยังกรอบจะเพิ่มความอร่อยได้มากขึ้น คอร์นเฟลก, คัตสึโอะบูชิ และน้ำมันงาจะเข้ากันและอร่อยกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อเลย
10. โกโก้ปั่นคอร์นเฟลก
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสุดเข้มข้นอย่างโกโก้ปั่น เมนูนี้เข้ากับอากาศบ้านเราสุด ๆ เพราะเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ หวานนิดมันหน่อยอย่างโกโก้จะช่วยเพิ่มความสดชื่นในวันสุดอบอ้าวได้เป็นอย่างดี แต่แค่ความเข้มข้นหวานมันอย่างเดียวยังไม่พอเพราะเราจะเพิ่มความกรุบกรอบของคอร์นเฟลกเข้าไปด้วย! บอกเลยว่าเพื่อน ๆ ต้องชอบแน่นอนค่ะ
วัตถุดิบโกโก้ปั่นคอร์นเฟลก
- คอร์นเฟลก
- ผงโกโก้
- นมข้นหวาน
- นมข้นจืด
- นมจืด
- น้ำแข็ง
วิธีทำโกโก้ปั่นคอร์นเฟลก
เมนูนี้ง่ายอีกแล้ว เราจะนำนมจืดไปอุ่นจนร้อนก่อนค่ะ จะอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือต้มในหม้อก็เลือกได้ตามชอบเลย นมร้อนได้ที่แล้วนำผงโกโก้ลงผสม เลือกความเข้มข้นได้ตามชอบแต่เราแนะนำให้เข้ม ๆ หน่อยจะเด็ดมาก เพิ่มความหวานด้วยนมข้นหวานปริมาณตามชอบ จรจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วใส่น้ำแข็งและเทใส่เครื่องปั่นแล้วเปิดเครื่องจนน้ำแข็งเนียนละเอียดเลยค่ะ นำกลับมาเทใส่แก้ว ราดนมข้นจืดตามลงไปเพิ่มความหอมมันแล้วโปะคอร์นเฟลกลงไปเน้น ๆ แบบไม่ต้องหวง พร้อมเสิร์ฟจ้า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 10 เมนูจากคอร์นเฟลกที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ แต่ละเมนูนี่น่าอร่อยและมีวิธีการทำที่ไม่ซับซ้อนเลยใช่ไหมคะ หวังว่าเมนูที่เรานำมาฝากจะถูกใจสายคอร์นเฟลกไม่มากก็น้อยนะคะ เอาจริง ๆ นี่คอร์นเฟลกเองก็เป็นอาหารที่สามารถนำมาดัดแปลงได้หลากหลายเนื่องจากมันไม่ค่อยจะมีรสชาติมากนักทำให้ไม่กลบรสชาติอาหารนั่นเองค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วเราจะนิยมนำคอร์นเฟลกมาจับคู่กับของหวานซึ่งถือว่าไม่ผิดกติกาเพราะเรามักจะทานคอร์นเฟลกเป็นอาหารเช้ากันอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนไม่มีเกล็ดขนมปังหรือแป้งทอดกรอบลองนำคอร์นเฟลกมาดัดแปลงดูนะคะ รับรองว่าผลลัพธ์ออกมากรอบอร่อยเหมือนเดิมแน่นอน
References :