แกงส้ม หรือ แกงเหลือง(แกงส้มทางภาคใต้) เป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบ สำหรับเมนูแกงส้มถือว่าเป็นอาหารไทยแท้ ๆ และเต็มไปด้วยสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพทั้งในพริกแกงและในส่วนผสมของแกงค่ะ เมนูนี้เข้ากันได้ดีกับเนื้อสัตว์ทุกประเภทโดยเฉพาะอาหารทะเลที่มีกลิ่นคาวน้อยและมักจะมีรสชาติหวานตามธรรมชาติ แกงส้มเป็นเมนูมีรสชาติค่อนข้างจัดจ้าน มีสีส้มจากพริกแดง ส่วนแกงส้มสูตรภาคใต้ที่เรียกว่าแกงเหลืองจะมีรสชาติจัดจ้าน เผ็ดกว่า มีสีออกเหลืองเนื่องจากมีการผสมขมิ้นและใส่กระเทียมลงไปผสมในพริกแกงค่ะ
ส่วนรสเปรี้ยวจากแกงส้มได้มาจากผลไม้หลากหลายชนิดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นมะปริง, มะดัน, ตะลิงปลิง, ส้มแขก หรือละมุด แต่ผลไม้รสเปรี้ยวเหล่านี้มักจะควบคุมรสชาติได้ยากเนื่องจากมันไม่เป็นที่นิยมมากนักและเป็นผลไม้ที่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย ดังนั้นผลไม้รสเปรี้ยวที่นิยมที่สุดคือมะขามเปียกและน้ำมะนาว ผลไม้ทั้ง 2 ชนิดเป็นที่คุ้นเคยและมีกลิ่นรสเฉพาะตัว ควบคุมรสชาติได้ง่าย และเราก็ได้รวบรวม 10 สูตรเมนูแกงส้มมาแนะนำในบทความนี้ค่ะ จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่า
1. แกงส้มผักรวม
ประเดิมเมนูแรกด้วยแกงส้มผักรวมค่ะ เมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการทานเนื้อสัตว์เยอะมากนัก หากทานเจแนะนำให้ใช้พริกแกงและกะปิสูตรเจนะคะ รับรองว่าออกมาหอมอร่อยไม่ต่างกันเลยค่ะ สำหรับแกงส้มผักรวมของเราจะมีรสชาติไม่จัดจ้านมากนัก น้ำแกงไม่เผ็ดหรือเปรี้ยวจนเกินไป เหมาะสำหรับซดร้อน ๆ ทานกับเมนูของทอดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร หรือบ้านไหนมีผู้สูงอายุที่เบื่อกับข้าวจืด ๆ ก็สามารถทานเมนูนี้ได้เช่นเดียวกันค่ะ
วัตถุดิบแกงส้มผักรวม
- ผักตามชอบ
- พริกแกงส้ม
- น้ำมะนาว
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงส้มผักรวม
- ขั้นตอนที่ 1 : นำผักที่จะใช้แกงส้มมาทำความสะอาดเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ แนะนำให้ใช้ผักที่ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไปอย่างผักกาด, กะหล่ำปลี, มะละกอ, หัวไชเท้า, ผักบุ้ง หรือถั่วฝักยาว นอกจากจะอร่อยไม่เละแล้วยังช่วยเพิ่มความหวานให้กับน้ำแกงได้อีกด้วยค่ะ ล้างผักให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาล้างผัก จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำแล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
- ขั้นตอนที่ 2 : ละลายเครื่องแกงแล้วนำขึ้นตั้งไฟกลางจนเดือด จากนั้นนำผักแข็ง ๆ ลงหม้อก่อนเลยค่ะ ปิดฝาต้มจนผักเริ่มสุกเปื่อยแล้วลองตักน้ำแกงมาชิมรสชาติก่อน หากได้รสชาติตามที่ต้องการแล้วนำผักนิ่มหรือผักสุกง่ายลงหม้อต่อ ปิดฝารอผักสุกแล้วปิดท้ายด้วยน้ำมะนาว รอน้ำแกงเดือดอีกครั้งยกลงตักเสิร์ฟค่ะ
2. แกงส้มชะอมไข่
แกงส้มชะอมไข่เป็นเมนูยอดฮิตสำหรับคนชอบทานแกงส้มเลยก็ว่าได้ เมนูนี้ประกอบไปด้วยกุ้งสดเนื้อเด้งหวาน ๆ ไข่เจียวชะอมนุ่มฟูที่อมน้ำแกงแบบฉ่ำ ๆ และน้ำแกงส้มรสชาติจัดจ้านถึงใจ ทานพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ จะยิ่งช่วยให้น้ำแกงส้มหอมและอร่อยมากขึ้น ในส่วนของรสชาติแกงส้มถ้วยนี้ค่อนข้างจะมีความจัดจ้านทั้งเผ็ดและเปรี้ยว และมีความกลมกล่อมลงตัวพอดีเลยค่ะ
วัตถุดิบแกงส้มชะอมไข่
- กุ้งสด
- ไข่ไก่
- ชะอม
- พริกแกงส้ม
- กะปิ
- น้ำมะนาว
- น้ำปลา
- น้ำเปล่า
- น้ำมันพืช
วิธีทำแกงส้มชะอมไข่
- ขั้นตอนที่ 1 : จัดการกุ้งไว้ก่อนเลยค่ะ แกะเปลือก ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออกให้เรียบร้อย จากนั้นล้างหัวและเปลือกกุ้งให้สะอาด นำมาต้มรวมกับน้ำเปล่าเพื่อทำน้ำซุปกุ้งเตรียมไว้ ระหว่างรอน้ำซุปเดือดหันมาล้างชะอมและสะเด็ดน้ำออกให้มากที่สุด เด็ดเอาเฉพาะยอดอ่อนเตรียมไว้
- ขั้นตอนที่ 2 : ตอกและตีไข่ให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อยแล้วนำชะอมที่เตรียมไว้ลงตีผสมให้เข้ากัน จากนั้นหันมากรองเอาเปลือกกุ้งในน้ำซุปออกให้หมด พักไว้ กลับมาเจียวไข่จนสุกนุ่มทั้ง 2 ด้าน นำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดตามชอบ
- ขั้นตอนที่ 3 : ละลายพริกแกงและกะปิเล็กน้อยกับน้ำซุปกุ้งที่ทำไว้ก่อนหน้า นำขึ้นตั้งไฟให้เดือดแล้วลองชิมรสชาติดูก่อนค่ะ หากน้ำซุปมีรสชาติเค็มหวานที่พอใจแล้วใส่กุ้งลงไป ปิดฝารอกุ้งเริ่มสุกแล้วตามด้วยน้ำมะนาว คนเบา ๆ ให้นมะนาวกระจายตัวดีแล้วยกลง หยิบไข่เจียวลงถ้วยสำหรับเสิร์ฟแล้วราดด้วยน้ำแกงส้มหอม ๆ พร้อมรับประทานค่ะ
3. แกงส้มไข่ปลาริวกิว
มาที่เมนูไข่ปลากันบ้าง ไข่ปลาริวกิวถือว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบจากท้องทะเลที่ค่อนข้างหาทานได้ยาก เมนูนี้เราจะนำไข่ปลาริวกิวมาทำเป็นแกงส้มรสชาติจัดจ้าน พร้อมผักกระเฉดกรุบ ๆ เข้ากันกับไข่ปลาได้เป็นอย่างดี ในส่วนของน้ำแกงจะเข้มข้นจากเนื้อปลาที่โขลกจนเนียนละเอียด ซดน้ำแกงร้อน ๆ เผ็ด ๆ ได้กลิ่นหอมและรสชาติเปรี้ยวของมะนาว กัดเจอไข่ปลาริวกิวกรุบ ๆ เป็นอะไรที่ฟินสุด ๆ
วัตถุดิบแกงส้มไข่ปลาริวกิว
- ไข่ปลาริวกิว
- ผักตามชอบ
- ตะไคร้
- ใบมะกรูด
- พริกแกงส้ม
- กะปิ
- น้ำมะนาว
- น้ำตาล
- น้ำปลา
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงส้มไข่ปลาริวกิว
- ขั้นตอนที่ 1 : นำไข่ปลามาดึงพวงออกแล้วล้างเบา ๆ ให้สะอาดก่อนค่ะ จากนั้นต้มน้ำให้เดือด นำตะไคร้และใบมะกรูดลงต้ม ใครอยากเพิ่มความเข้มข้นของน้ำแกงสามารถนำเนื้อปลาลงต้มในขั้นตอนนี้ได้นะคะ น้ำเดือดได้ที่แล้วนำไข่ปลาริวกิวลงต้มได้เลยค่ะ วิธีนี้จะเป็นการดับกลิ่นคาวของไข่ปลา ทำให้น้ำแกงส้มอร่อยและน่ารับประทานมากขึ้น น้ำเดือดอีกครั้งต้มต่ออีก 2 – 3 นาทีก็ตักขึ้นมาน็อกน้ำเย็นทิ้งไว้
- ขั้นตอนที่ 2 : ละลายพริกแกงและกะปิเล็กน้อยในภาชนะที่ใช้ต้มให้พอเข้ากัน จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟอ่อนรอจนน้ำแกงเดือด ถ้าในขั้นตอนขั้นแรกมีเนื้อปลาต้มด้วยเราแนะนำให้น้ำเนื้อปลามาโขลกผสมกับพริกแกงให้ฟูก่อนนะคะตอนต้มเนื้อปลาจะได้ไม่เป็นก้อนหรือเป็นลิ่มค่ะ ระหว่างรอน้ำเดือดเราก็จะหันมาจัดการกับผักที่เลือก แนะนำให้ใช้เป็นผักกระเฉดจะเข้ากันสุด ๆ เลยค่ะ น้ำเดือดดีแล้วนำผักลงต้มจนเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำและน้ำตาลเล็กน้อย ชิมให้ได้รสชาติที่ชอบแล้วนำไข่ปลาลงหม้อ รอน้ำเดือดอีกครั้งใส่น้ำมะนาว คนเบา ๆ ให้น้ำมะนาวกระจายทั่วหม้อ ต้มต่อจนน้ำเริ่มเดือดแล้วปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลย
4. แกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าวอ่อน
ตามมาติด ๆ กับแกงเหลืองปลากะพง เมนูยอดฮิตสำหรับคนใต้ ใครชอบทานแกงใต้ไม่ควรพลาดค่ะ เนื้อปลากะพงจะมีความนุ่มและมีความมันในตัว เนื้อปลาสีขาวสะอาดตัดกับน้ำแกงสีเหลืองส้มสวยงามที่มีทั้งความเผ็ดร้อนจากพริกสมุนไพรและรสชาติเปรี้ยวสดชื่นของน้ำมะนาว เพิ่มความหวานด้วยยอดมะพร้าวอ่อนกรุบกรอบ
วัตถุดิบแกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าวอ่อน
- เนื้อปลากะพง
- ยอดมะพร้าวอ่อน
- พริกแกงส้ม
- น้ำมะนาว
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าวอ่อน
- ขั้นตอนที่ 1 : นำเนื้อปลามาทำความสะอาดและหั่นชิ้นชนาดตามชอบเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ แนะนำให้หั่นชิ้นใหญ่หน่อยนะคะตอนแกงเนื้อปลาได้เป็นก้อนสวย ไม่เละ จากนั้นนำยอดมะพร้าวอ่อนมาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่น้ำเกลือทิ้งไว้ป้องกันไม่ให้ยอดมะพร้าวมีสีดำคล้ำ
- ขั้นตอนที่ 2 : ละลายพริกแกงด้วยน้ำเปล่าแล้วนำขึ้นตั้งไฟ รอจนน้ำแกงเดือดจัดได้ที่นำเนื้อปลาลงหม้อเลยค่ะ พยายามกด ๆ เขี่ย ๆ ให้เนื้อปลาจมน้ำแกงทั้งหมดแล้วปล่อยทิ้งไว้จนน้ำแกงเดือดอีกครั้ง นำยอดมะพร้าวอ่อนสะเด็ดน้ำแล้วนำลงหม้อแกง รอจนน้ำเดือดแล้วใช้ส้อมจิ้มมะพร้าวอ่อนดูค่ะ ถ้านิ่มก็แปลว่าสุกพร้อมทานแล้ว ชิมรสชาติน้ำแกงเล็กน้อยก่อนเติมน้ำมะนาวเพิ่มความเปรี้ยว ปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลย
5. แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน
แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อนเป็นได้ทั้งเมนูกับข้าวและเมนูกับแกล้มเลยค่ะ แป๊ะซะปลาช่อนของเราจะมีรสชาติไม่จัดจ้านมากนัก เน้นกลิ่นหอมของเครื่องสมุนไพรและพริกแกง ได้รสชาติเผ็ดร้อนเบา ๆ ได้ความเปรี้ยวละมุนกลมกล่อมของน้ำมะขามเปียกและกลิ่นหอมน้ำมะนาว เนื้อปลาสุกกรอบและหวานฉ่ำไปจนถึงก้าง บอกเลยว่าซดน้ำร้อน ๆ ทานคล่องคอสุด ๆ
วัตถุดิบแกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน
- ปลาช่อน
- กะหล่ำปลี
- แครอท
- ถั่วฝักยาว
- พริกแกงส้ม
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำมะนาว
- น้ำเปล่า
- น้ำมันพืช
วิธีทำแกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน
- ขั้นตอนที่ 1 : ทำความสะอาดปลาช่อนก่อนเลยค่ะ ถูล้างเมือกด้วยเกลือเม็ดจนเนื้อปลาเริ่มสากมือขึ้น จากนั้นกรีดบั้งข้างลำตัวลึก ๆ แล้วนำไปทอดน้ำมันท่วม ปล่อยให้ปลาสุกกรอบทีละด้านและค่อยพลิกกลับด้านเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อปลาเละ ระหว่างนั้นหันไปล้างและหั่นผักที่จะใส่ในน้ำแกงส้มเตรียมไว้เลยค่ะ ปลาสุกกรอบทั้ง 2 ด้านแล้วนำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
- ขั้นตอนที่ 2 : มาทำน้ำแกงส้มกันต่อค่ะ ละลายพริกแกงกับน้ำเปล่าแล้วตั้งไฟจนเดือด จากนั้นชิมรสชาติของน้ำแกงเล็กน้อยค่ะจะได้ปรุงรสง่ายขึ้น เพิ่มรสเปรี้ยวเบื้องต้นด้วยน้ำมะขามเปียก หากอ่อนเค็มเกินไปสามารถเติมเกลือหรือน้ำปลาเพิ่มได้ค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3 : น้ำแกงเดือดดีแล้วนำผักลงม้อเลยค่ะ แกงต่อจนผักสุกได้ที่แล้วเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมด้วยน้ำมะนาว รอน้ำแกงเดือดอีกครั้งแล้วชิมรสชาติเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าได้รสที่พอใจแล้วปิดเตา ตักน้ำแกงใส่ถ้วยหรือจนแป๊ะซะได้เลยค่ะ วางปลาช่อนทอดกรอบลงไปแล้วจัดเสิร์ฟได้เลย
6. แกงส้มกุ้งดอกแค
แกงส้มกุ้งดอกแคเป็นอีกหนึ่งเมนูแกงส้มที่เราอยากแนะนำ เมนูนี้จะมีส่วนผสมของดอกแคที่จัดว่าเป็นสมุนไพรและเป็นยาชั้นดี มีรสชาติหวานอ่อน ๆ นำมาแกงรวมกับกุ้งสดเนื้อเด้ง ๆ หวาน ๆ ในส่วนของน้ำแกงเราจะปรุงให้น้ำแกงมีความใสไม่ขุ่น มีกลิ่นหอมของน้ำมะนาว ได้รสชาติเปรี้ยวจัดเล็กน้อยตามด้วยรสเผ็ดกลมกล่อม ส่วนความหวานจะออกมาขณะเคี้ยวกุ้งและดอกแคค่ะ
วัตถุดิบแกงส้มกุ้งดอกแค
- กุ้งสด
- ดอกแค
- พริกแกงส้ม
- น้ำมะนาว
- น้ำปลา
- น้ำตาล
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงส้มกุ้งดอกแค
- ขั้นตอนที่ 1 : ทำความสะอาดกุ้งก่อนเลยค่ะ แกะเปลือกผ่าหลังเอาเส้นดำออกให้เรียบร้อยแล้วพักไว้ก่อน จากนั้นหยิบเอาดอกแคมาดึงเอาเกสรด้านในออกให้เกลี้ยงเลยค่ะ จากนั้นล้างทำความสะอาดด้านในของดอกแคให้เรียบร้อย หากล้างไม่สะอาดจะทำให้ดอกแคและน้ำแกงมีรสชาติขมได้
- ขั้นตอนที่ 2 : ละลายพริกแกงและตั้งไฟจนเดือดเลยค่ะ จากนั้นนำดอกแคลงหม้อ รอน้ำเดือดอีกครั้งชิมรสชาติและปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย ได้รสที่ชอบแล้วใส่กุ้งลงไปค่ะ ปิดฝารอกุ้งสุกแล้วปิดท้ายด้วยน้ำมะนาว รอน้ำเดือดอีกครั้งปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลยจ้า
7. แกงเหลืองปลาแซลมอน
เอาใจคนรักแซลมอนด้วยเมนูแกงเหลืองรสชาติเผ็ดเปรี้ยว สูตรนี้เราจะใชเนื้อปลาแซลมอนล้วน ๆ เลยค่ะ บอกเลยว่าจุกมาก ๆ น้ำแกงสีส้มสวยน่ารับประทานจะได้กลิ่นหอมของพริกแกงและน้ำมะนาวเบา ๆ เนื้อปลาแซลมอนเป็นก้อนสวยและมีรสชาตหวานธรรมชาติของเนื้อปลา ส่วนน้ำแกงจะมีความเผ็ดเปรี้ยวกลมกล่อมลงตัวพอดี ๆ ทานพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ ฟินสุด ๆ
วัตถุดิบแกงเหลืองปลาแซลมอน
- ปลาแซลมอน
- พริกแกงส้ม
- น้ำมะนาว
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงเหลืองปลาแซลมอน
- ขั้นตอนที่ 1 : นำปลาแซลมอนมาลอกเอาหนังออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำเตรียมไว้ค่ะ จากนั้นละลายพริกแกงแล้วนำขึ้นตั้งเตา น้ำแกงเดือดได้ที่แล้วนำเนื้อแซลมอนลงหม้อ ปิดฝารอน้ำเดือดและเนื้อปลาสุกดีแล้วปรุงรสด้วยน้ำมะนาว คนเบา ๆ ให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติเล็กน้อย ถ้าพอใจแล้วตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ
8. แกงเหลืองขาหมูดอกกะหล่ำ
แกงเหลืองขาหมูดอกกะหล่ำเป็นเมนูที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ เมนูนี้เราจะใช้ขาหน้าหมูที่ไม่มีมันมากจนเกินไปนัก มีเนื้อให้ทาน เมนูนี้เราจะไม่ต้มขาหมูจนสุกเปื่อยมากจนเกินไป แต่จะต้มจนสุกแบบพอดี ๆ มีหนังให้เคี้ยวกรุบ ๆ และมีความหนุบหนับเบา ๆ ดอกกะหล่ำไม่แข็งจนเกินไปและน้ำแกงค่อนข้างจะมีความเผ็ดเปรี้ยวค่ะ
วัตถุดิบแกงเหลืองขาหมูดอกกะหล่ำ
- ขาหมู
- ดอกกะหล่ำ
- พริกแกงเหลือง
- น้ำมะนาว
- น้ำปลา
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงเหลืองขาหมูดอกกะหล่ำ
- ขั้นตอนที่ 1 : นำขาหมูมาเผาจนเริ่มเกรียมและฟูพองก่อนค่ะ จากนั้นใช้มีขูดเอาขนหมูออกให้เกลี้ยงและขาหมูกลับมาขาวสะอาด เลาะเอากระดูกหมูออกให้หมดหรือสับขาหมูเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ นำไปต้มจนขาหมูสุกและใกล้เปื่อย จากนั้นหันมาหั่นกะหล่ำปลีเป็นชิ้นและล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำพักไว้
- ขั้นตอนที่ 2 : ขาหมูเริ่มเปื่อยดีแล้วนำออกมาล้างน้ำสะอาดพักไว้ หันมาละลายพริกแกงและน้ำขึ้นตั้งเตาจนเดือด นำขาหมูลงหม้อก่อนเลยค่ะ น้ำแกงเดือดแล้วตามด้วยดอกกะหล่ำ ปิดฝาจนดอกกะหล่ำเริ่มสุกเปื่อย เพิ่มความอร่อยด้วยน้ำมะนาว คนเบา ๆ ให้เข้ากันแล้วตักเสิร์ฟค่ะ
9. แกงส้มมะรุมกุ้ง
มะรุมเป็นผักที่อุดมไปด้วยประโยชน์หลากหลายเลยค่ะ เมนูนี้เราจะนำมะรุมมาทำเป็นแกงส้มรวมกับกุ้งสดตัวโต ๆ มะรุมที่สุกดีแล้วจะมีรสชาติหวานกรุบเบา ๆ เข้ากันได้ดีกับความหวานธรรมชาติของเนื้อกุ้งสด ส่วนน้ำแกงค่อนข้างจะปรุงให้จัดจ้านเล็กน้อย ได้รสเค็มเบา ๆ และความเปรี้ยวกลมกล่อมของน้ำมะขามเปียกและน้ำมะนาว ทานพร้อมข้าวสวยเยอะ ๆ และเมนูปลาหรือหมูทอดจะอร่อยเข้ากันสุด ๆ
วัตถุดิบแกงส้มมะรุมกุ้ง
- กุ้งสด
- มะรุม
- พริกแกงส้ม
- กะปิ
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำมะนาว
- น้ำปลา
- น้ำตาล
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงส้มมะรุมกุ้ง
- ขั้นตอนที่ 1 : แกะเปลือกกุ้ง ผ่าหลัง และดึงเส้นดำเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ จากนั้นล้างหัวและเปลือกกุ้งให้สะอาดและนำมาต้มน้ำเปล่าจนเดือดเพื่อทำเป็นน้ำสต๊อกกุ้ง ระหว่างนั้นหั่นมะรุมเป็นท่อนไม่ยาวมากนัก ลอกเอาเปลือกเขียวแข็ง ๆ ออกให้หมด มะรุมจะได้อ่อนนุ่มไม่มีเส้นใยติดฟัน ล้างน้ำสะอาดพักไว้ก่อน
- ขั้นตอนที่ 2 : น้ำซุปกุ้งเดือดดีแล้วนำมากรองเอาหัวและเปลือกกุ้งออกให้หมดค่ะ นำพริกแกงส้มลงละลายในน้ำซุปแล้วนำขึ้นเตาอีกครั้งรอจนน้ำแกงเดือดแล้วชิมรสชาติเล็กน้อยก่อนเติมน้ำมะขามเปียกลงไปพอประมาณ จากนั้นตามด้วยมะรุม ต้มมะรุมจนสุกดีแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย นำกุ้งลงหม้อ ต้มจนสุกแล้วปิดท้ายด้วน้ำมะนาว คนให้เข้ากันแล้วปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลยจ้า
10. แกงเหลืองปลาดุกทะเลหน่อไม้ดอง
ปิดท้ายด้วยเมนูแกงเหลืองปลาดุกหน่อไม้ดอง เมนูที่อร่อยลงตัวที่สุด สำหรับเมนูนี้จะเป็นปลาดุกทะเลตัวใหญ่ เนื้อแน่น มันเยอะ นำมาแกงรวมกับหน่อไม้ดองที่มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว สำหรับแกงเหลืองปลาดุกทะเลหน่อไม้ดองจะมีรสชาติเผ็ดเปรี้ยวค่อนข้างจัดจ้านเลยค่ะ ได้กลิ่นหอมของหน่อไม้ดอง เนื้อปลาดุกจะมีความแน่น นุ่ม และค่อนข้างจะมีความมัน ใครสนใจเมนูนี้สามารถตามไปจดสูตรได้ที่ เมนูจากปลาดุก: แกงเหลืองปลาดุกทะเลหน่อไม้ดอง
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 สูตรเมนูแกงส้มที่เรานำมาแชร์ในบทความนี้ค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ บอกเลยว่าสำหรับคนชอบทานแกงส้มแบบเรานี่ถูกใจสุด ๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะทำแกงส้มอยู่ไม่กี่ประเภท แต่หลังจากนี้รับรองว่าจะได้ทานเมนูแกงส้มที่มีความหลากหลายมากขึ้นแน่นอนค่ะ จริง ๆ แล้วแกงส้มก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ช่วยให้เราทานผักและสมุนไพรง่ายขึ้น รวมไปถึงแกงส้มมักจะมีไขมันน้อย เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพหรือต้องการงดไขมันค่ะ