มาม่าเกาหลีกินกับอะไรอร่อย ชิมจริง ฟินจริง

อันยองงงง~ กลับมาพบกับบทความรีวิวของกินอร่อย ๆ กันอีกแล้วนะคะ และเนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้รีวิวมาม่าเกาหลีไปเยอะแล้ว และเราเองก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ คนที่ชอบมาม่าเกาหลีเป็นพิเศษเพราะเส้นมีความเหนียวหนึบและมาในปริมาณที่ค่อนข้างจะพอดีกับขนาดของกระเพราะของเรานั่นเองค่ะ 😅 ใครที่มีปัญหาทานมาม่าห่อเดียวไม่อิ่ม สองห่อไม่หมดเหมือนเราน่าจะเข้าใจ

ยิ่งช่วงนี้มาม่าเกาหลีเป็นอะไรที่ฮิตไปทั่วโลกพอ ๆ กับสกินแคร์เกาหลี แถมชาวเน็ตหลายคนก็ขยันหาทำกันเหลือเกิน เพราะในเน็ตนี่มีสูตรกินมาม่าเกาหลีให้ลองทานกว่าร้อยแบบ หยิบอันนู้นมามิกซ์กับอันนี้จนตามทานไม่ทัน แถมบางเมนูที่ดูไม่น่าอร่อยกลับเข้ากันได้แบบงง ๆ เราเลยรวบรวมเอาสูตรกินมาม่าเกาหลีมาแชร์ในบทความนี้ เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามาม่าเกาหลีเนี่ยเอามากินกับอะไรได้บ้าง แล้วแต่ละสูตรนี่มันคุ้มค่าแก่การลองหรือเปล่า?

มาม่าเกาหลี กินกับอะไรอร่อย ? เราเลือกมาให้ 9 เมนู จ้าาา

1. Budae Jjigae บูเดจิเก หม้อไฟเกาหลี

วัตถุดิบ : รามยอน + หอมใหญ่ + ต้นหอมญี่ปุ่น + เนื้อหมู + แฮมเกาหลี + ไส้กรอก + เต้าหู้ + ถั่วอบกระป๋อง + ต๊อกโบกี + ชีส + น้ำซุป + ซอสต๊อกโบกีสำเร็จรูป

เริ่มต้นกันด้วยเมนูสุดคลาสสิคอย่างบูเดจิเก หรือหม้อไฟเกาหลี จริง ๆ แล้วคำว่าบูเดจิเกเนี่ยแปลว่าสตูว์ของกองทัพ เนื่องจากในสมัยหนึ่งมีทหารอเมริกันเข้ามาช่วยเกาหลีทำสงครามและหอบหิ้วเอาสเบียงติดตัวมาด้วย หลังเสร็จสิ้นสงครามเกาหลีก็เข้าสู่สภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก เลยมีการเอาอาหารสำเร็จรูปของทหารอเมริกันอย่างแฮมกระป๋อง, ถั่วกระป๋อง และไส้กรอกมารวมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและพริกแกงเกาหลี กลายมาเป็นเมนูใหม่ที่ราคาคุ้มค่าและถูกใจทุกคนอย่างบูเดจิเกนั่นเองค่ะ

เมนูนี้ฮิตมาก ๆ ในร้านอาหารและคนเกาหลีชอบทานเมื่อมีปาร์ตี้ เนื่องจากบูเดจิเกเป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้เวลาน้อย และสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้หลากหลายตามที่มีอยู่หรือตามชอบ ส่วนซอสก็มีส่วนผสมไม่เยอะมาก มีแค่โคชูจัง, พริกป่น และเครื่องปรุงรสแค่นั้นเองค่ะ แต่ใครต้องการความสะดวกขั้นสุดก็สามารถใช้ซอสต๊อกโบกีสำเร็จรูปเหมือนเราก็ได้ รสชาติจะมีความเผ็ด, เค็ม และหวานกลมกล่อมกำลังดีเลยค่ะ


2. Jjapaguri จาปากูรี

วัตถุดิบ : รามยอน Jjapaghetti + รามยอน Neoguri + เนื้อสัตว์ตามชอบ

สูตรนี้มีที่มาจากเรียลลิตี้เกาหลี และฮิตมาก ๆ จากภาพยนตร์เกาหลีระดับโลกอย่าง Parasite จาปากูรีเป็นการผสมผสานระหว่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 รสชาติคือรสจาปาเกตตี้ที่มีรสชาติคล้ายกับเมนูจาจังมยอน และนีโอกูรีที่มีเส้นหนาและมีรสชาติเหมือนซีฟู้ดค่ะ การนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้ง 2 ชนิดมาผสมกันทำให้เกิดเมนูใหม่ที่ถูกปากใครหลาย ๆ คนจนถึงขั้นเจ้าของแบรนด์ต้องผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสจาปากูรีขึ้นมาโดยเฉพาะเลยค่ะ

วิธีการทำก็ไม่ยากมาก เพียงแค่นำเส้นทั้ง 2 รสชาติมาต้มเข้าด้วยกันและปรุงรสด้วยผงปรุงที่ให้มาในซอง ใครอยากเพิ่มความอร่อยก็สามารถเพิ่มเนื้อสัตว์หรือจะเป็นสเต๊กเนื้อตามแบบฉบับบ้านครอบครัวปาร์คก็ได้ค่ะ ในส่วนของรสชาติก็จะมีความเข้มข้นเนื่องจากสูตรนี้เป็นบะหมี่แห้ง มีความเค็มหวานและรสเผ็ดกลาง ๆ ได้กลิ่นรสของทะเลอ่อน ๆ ช่วยให้กลมกล่อมมากขึ้นค่ะ


3. Rabokki ราบกกี

วัตถุดิบ : รามยอน + ต๊อกโบกี + ไข่ต้ม + ออมุก + กะหล่ำปลี + หอมใหญ่ + ต้นหอม + ซอสต๊อกโบกี

ในเมื่อชอบทั้งรามยอนและต๊อกโบกีจนเลือกไม่ได้ก็เอาทั้ง 2 อย่างมารวมกันไปเลยสิคะ ราบกกีเป็นเมนูที่ฮิตมาก ๆ ในกลุ่มวัยรุ่นเกาหลี เพราะสามารถทานของชอบทั้ง 2 อย่างได้พร้อม ๆ กัน แถมหลายคนก็เอาต๊อกโบกีมาทานคู่กับรามยอนเป็นปกติกันอยู่แล้วค่ะ

วิธีการทำก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยค่ะ แค่เลือกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติที่ชอบมาสักห่อ แนะนำให้เป็นรสเผ็ดหรือรสซีฟู้ดจะอร่อยเป็นพิเศษ ต้มต๊อกโบกีจนสุกนุ่มก่อนแล้วค่อยตามด้วยบะหมี่และเครื่องเคียงอื่น ๆ ต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าซอสจะงวดและข้นเหนียวขึ้นก็เป็นอันใช้ได้แล้วค่ะ ส่วนเครื่องเคียงนี่ก็เลือกใส่ได้ตามชอบเลยค่ะ อย่างเราจะใส่เป็นออมุกและไข่ต้มเพื่อเพิ่มความอิ่มท้อง (ถึงต๊อกโบกีและเส้นรามยอนจะทำให้จุกอยู่แล้วก็ตาม 😅)


4. รามยอนสูตรมินกยู seventeen

วัตถุดิบ : รามยอน + ไข่ + ถั่วงอก + กิมจิ + พริกสด + ต้นหอม

ที่ประเทศเกาหลีมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้เลือกทานหลายสิบรสชาติเลยค่ะ แต่ละแบรนด์แต่ละรสชาติก็จะมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ชาวเกาหลีแต่ละคนจะมีสูตรมีเคล็ดลับในการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แตกต่างกันออกไปค่ะ และปัจจุบันการทานบะหมี่ตามสูตรของไอดอลเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมมากถึงขั้นมีการสร้างรายการเรียลลิตี้ขึ้นมาเลยทีเดียว

สำหรับสูตรนี้จะเป็นบะหมี่แก้แฮงค์ของมินกยู แร็ปเปอร์ประจำวง seventeen หรือฉายาแม่บ้านมิงนั่นเองค่ะ สูตรนี้จะมีส่วนผสมไม่เยอะมากนักแต่อิ่มและอร่อยแถมใช้เวลาไม่นาน ทานตอนเช้าหลังปาร์ตี้จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น ในส่วนของรสชาติจะมีความเผ็ดและอมเปรี้ยวเล็กน้อยจากกิมจิ ส่วนตัวเราคิดว่ารสชาติอ่อนไปหน่อยแนะนำให้ใส่น้ำไม่ต้องเยอะมากค่ะ ใครเป็นแฟนคลับมินกยูนี่ไม่ควรพลาดสูตรนี้เลยน้าาา


5. รามยอน Buldak Carbo + ชีส + กิมจิ

เมนูนี้บอกเลยว่าฮิตสุด ๆ ใครได้ทานก็ต้องชอบค่ะ เราจะใช้รามยอน Buldak Carbo ห่อสีชมพูจากแบรนด์ Samyang นำมาต้มจนสุก แนะนำให้ใส่น้ำน้อย ๆ นะคะ เส้นสุกได้ที่แล้วโปะชีสลงไปตามชอบแล้วปิดฝารอจนชีสสุก จากนั้นปิดท้ายด้วยกิมจิหั่นและโรยสาหร่ายเพิ่มสีสันอีกนิด คนให้ทุกอย่างผสมรวมกัน เราก็จะได้รามยอนข้น ๆ สีชมพูน่าทาน บอกเลยว่ากลิ่นหอมน่าทานม๊ากกก

ในส่วนของรสชาตินี่บอกได้คำเดียวว่า นัว! ตัวเส้นรามยอนจะเป็นแบบแบน ส่วนตัวเราชอบเส้นแบบนี้เพราะคีบง่ายและคิดว่าอร่อยกว่าเส้นกลม ๆ ค่ะ สูตรนี้จะมีความเผ็ดแบบกลมกล่อม ไม่จัดจ้านเท่ารสเผ็ดทั่ว ๆ ไป มีความนัวของชีสจากทั้งผงเครื่องปรุงและชีสแผ่นที่เพิ่มเข้าไป ยิ่งเราโรยสาหร่ายเพิ่มเข้าไปอีกก็ยิ่งมีความหอมเพิ่มเข้ามา มีความเปรี้ยวเบา ๆ ของกิมจะเข้ามาตัดเลี่ยน ยิ่งทานพร้อมไชเท้าดองก็ยิ่งเพลินเพราะช่วยตัดเลี่ยนได้ดีเลยค่ะ


6. รามยอน + กระเทียม + ต้นหอม + ไข่ + มายองเนส

เมนูนี้ก็ฮิตไม่แพ้กันเลยค่ะ วัตถุดิบที่ใช้ก็ง่าย ๆ หาได้ในครัวเรือน เราจะผสมผงปรุงรามยอนกับกระเทียมสับ, ไข่ไก่สด และมายองเนสให้เข้ากันก่อน จากนั้นต้มเส้นจนสุกแล้วตักน้ำต้มเส้นลงผสมกับส่วนผสมที่ทำไว้ก่อนหน้า ผสมให้เข้ากันจะได้น้ำซุปที่มีความเป็นครีม ๆ หน่อย ๆ จากนั้นก็คีบเส้นลงไปแล้วจัดเรียงให้สวยงาม พร้อมทานค่ะ

หน้าตาเมนูนี้จะแอบคล้ายราเมงหน่อย ๆ เพราะน้ำซุปจะข้น ๆ และเส้นมีความเหนียวนุ่ม รสชาติคล้ายไข่ตุ๋นแต่มีความมัน ๆ เผ็ด ๆ เพิ่มเข้ามา หอมกลิ่นไข่และเครื่องปรุงรามยอนอ่อน ๆ ส่วนตัวเราคิดว่ารสชาติแอบอ่อนไปหน่อยอาจจะเพราะเราไม่ค่อยชอบทานไข่เท็กซ์เจอร์แบบนี้สักเท่าไหร่ด้วยค่ะเลยยังไม่ถูกปาก แต่ใครที่ชอบทานไข่และบะหมี่รสชาติไม่จัดจ้านมากนักนี่น่าจะชอบนะคะ


7. รามยอน + Rose Tteokbokki + Kimmari

อีกหนึ่งคอมโบที่ไม่ควรพลาดคือสูตรนี้ค่ะ ส่วนผสมจะคล้าย ๆ กันกับเมนู Rabokki แต่เราจะใช้เซ็ตต๊อกโบกีสูตรโรเซ่ที่มีความนัวมากกว่าและใช้นมจืดแทนน้ำเปล่า ส่วนขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเลยค่ะ ใส่ทุกอย่างลงไปให้ครบแล้วต้มไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ จนสุก ปิดท้ายด้วยชีสแผ่นแล้วปิดฝาอบต่อจนสุก พร้อมทานแล้วค่ะ

จะทานเมนูนี้ให้อร่อยต้องทานคู่กับคิมมาริทอดกรอบ ๆ ค่ะ บอกเลยว่าเมนูนี้นี่ฟินมาก ตัวรามยอนจะมีความครีมมี่ ๆ รสชาติเผ็ดกำลังดีและมีความนัวของนมและชีส ต๊อกนิ่ม ๆ ทานกับคิมมาริคือที่สุด! แนะนำให้ใส่นมไม่ต้องเยอะมากนัก เอาแบบมีน้ำขลุกขลิกจะอร่อยกว่าค่ะ ยิ่งทานกับเพื่อนเยอะ ๆ ยิ่งสนุกค่ะบอกเลย


8. Bibimmyeon + แฮมเกาหลี + ไข่ต้ม + กิมจิ

บิบิมมยอนจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบเย็นค่ะ ความเย็นในที่นี้ไม่ใช้การทานเข้าไปแล้วรู้สึกเย็นเหมือนทาแป้งตรางูนะคะ แต่เป็นความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ทาน ซึ่งคนเกาหลีชอบทานบะหมี่เย็นในช่วงหน้าร้อนเพื่อคล้ายร้อนนั่นเองค่ะ ส่วนใหญ่แล้วคนทั่วไปจะทานเมนูนี้กับไข่ต้มและแตงกวาญี่ปุ่นซอย แต่เราชอบเอามาทานคู่กับแฮมเกาหลีและกิมจิซะมากกว่า ตัวรามยอนจะมีความเผ็ดอมเปรี้ยวของกิมจิ ไม่เค็มมากนัก เส้นจะมีความเหนียวหนึบ หอมกลิ่นน้ำมันงาอ่อน ๆ ส่วนแฮมก็จะฉ่ำและนุ่มค่ะ บอกเลยว่าต้องลอง!


9. รามยอน + ไก่เกาหลี

ใครไม่เคยลองสูตรนี้ต้องรีบจัดเลยค่ะ บอกเลยว่านี่แหละคอมบิเนชั่นที่ถูกต้อง! สำหรับรามยอนนี่เลือกสูตรได้ตามชอบเลยค่ะ ส่วนไก่แนะนำให้เลือกเป็นไก่ไม่มีกระดูกหรือเนื้อล้วนจะฟินกว่าเพราะทานได้ทั้งคำ หรือใครหาไม่ได้จะนำมาคลุกซอสไก่ทอดสำเร็จรูปเหมือนเราก็ได้ค่ะ โรยงาคั่วเพิ่มอีกนิดคือสีสวยและน่าทานม๊ากกก ในส่วนของรสชาตินี่บอกเลยว่า…เผ็ดค่ะ! 🤣 แต่เป็นความเผ็ดที่อร่อยนะคะ ตัวรามยอนจะมีความเผ็ดร้อนหน่อย ๆ เข้ากับความเผ็ดหวานของตัวซอสไก่เกาหลีลงตัวพอดีเลยค่ะ ยิ่งคลุกซอสฉ่ำ ๆ คือได้อรรถรสเว่อร์


10. รามยอน + ไข่ดาว

รามยอนกับไข่ดาวนี่ถือว่าเป็นเมนูเบสิกที่เราเชื่อว่าหลายคนต้องเคยทานมาแล้วแน่นอนค่ะ ถึงไข่ดาวจะดูธรรมดาแต่ก็เป็นเมนูที่ทำง่ายและใช้เวลาไม่นาน แค่เตรียมรามยอนให้พร้อม แนะนำให้ใช้เป็นรสเผ็ดที่จัดจ้านกว่าปกตินะคะ บอกเลยว่าแซ่บแน่นอน ส่วนไข่ดาวนี่แนะนำเป็นแบบ sunny side up ด้านล่างสุกแบบกรอบ ๆ หน่อยแต่ไข่แดงยังเยิ้ม ๆ อยู่ ตรงนี้แหละบอกเลยว่าเด็ดมาก ตัวไข่แดงจะมีความมัน ๆ ครีมมี่ ๆ เข้ากับความเผ็ดของรามยอนแบบพอดิบพอดีเลยค่ะ โรยเกลือพริกไทยอีกหน่อยคือลงตัวเลย


11. รามยอน + ออมุก

เมนูนี้ยอมรับตรง ๆ ว่าเป็นความชอบส่วนตัวค่ะ อิอิ 🤭 เราเป็นคนชอบทานออกมุกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยลองหยิบเอามาทานคู่กับรามยอนดูบ้าง บอกเลยว่าอร่อยค่ะ รสชาติอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนักเพราะตัวออกมุกเองก็ค่อนข้างมีรสอ่อน แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่ากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของปลามันไปกันได้กับรสชาติของรามยอน ทานแล้วจะได้ความเหนียวนุ่มของเส้นและความนุ่มของออกมุกค่ะ ใครชอบทานเต้าหู้ปลาเป็นพิเศษนี่เราอยากแนะนำเมนูนี้มาก ๆ เลย


12. รามยอน + คอร์นด็อก

รามยอนกับคอร์นด็อกเป็นเมนูเด็ดที่แนะนำโดยวันรุ่นเกาหลีเลยค่ะ วัตถุดิบหลักทั้ง 2 อย่างหาซื้อได้ง่ายและสะดวกสุด ๆ ส่วนวิธีการทำก็ง่ายยิ่งกว่าเพราะแค่เตรียมรามยอนรสที่ชอบให้พร้อมแล้วทอดคอร์นด็อกให้สุก ราดซอสนิดหน่อยแล้วนำมาทานคู่กันบอกเลยว่าอิ่มแบบจุก ๆ แน่นอน เราแนะนำให้เลือกทานคอร์นด็อกชีสและทอดด้วยน้ำมันจะทำให้กรอบนานและชีสยืดมากกว่า ทานเส้นคำกัดคอร์นด็อกคำ บอกได้คำเดียวว่าฟินนน~ แต่ต้องระวังหน่อยน๊าาเพราะชีสด้านในค่อนข้างร้อนเลยค่ะ


13. รามยอน + คิมบับ + กิมจิ

เมนูนี้บอกเลยว่าเหมาะกับสายกินจุมาก ๆ เพราะเราจะทานรามยอนคู่กับคิมบับหรือข้าวปั้นเกาหลีค่ะ เราชอบทานเมนูนี้ตอนที่คิดเมนูไม่ออก เพราะทั้งรามยอนและคิมบับสามารถหาซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลยค่ะ รสชาติก็คาดเดาได้ไม่ต้องลุ้น ซื้อกิมจิติดมือมาทานเป็นเครื่องเคียงเพื่อเพิ่มความเป็นเกาหลีเข้าไปอีก รสชาติเปรี้ยวเผ็ดเบา ๆ ช่วยให้ทานอาหารได้เยอะและไม่รู้สึกเลี่ยน เป็นเมนูง่าย ๆ ราคาไม่แพง แถมยังอิ่มจนพุงกางอีกด้วย


14. รามยอน + หมูย่าง

หมูย่างนี่ถือว่าเป็นเมนูประจำชาติเกาหลีเลยก็ว่าได้ค่ะ และเมนูนี้ก็เหมาะกับปาร์ตี้มาก ๆ เพราะทานได้แบบเพลิน ๆ ไม่ต้องรีบ ในส่วนของหมูเนี่ยเราจะหมักด้วยเกลือ, พริกไทย และน้ำมันงาเพิ่มความหอม นำมาย่างจนเริ่มสุกแล้วหั่นเป็นชิ้นแบบพอดีคำ ทานพร้อมผักกรอบ ๆ และรามยอนบอกเลยว่าอร่อยลงตัวไม่ต้องพึ่งซัมจัง (ซอสจิ้มเกาหลี) เลยล่ะค่ะ แนะนำให้ใช้เป็นรามยอนรสเผ็ดอย่าง Shin Ramyun จะมีความพอดี ไม่จัดจนเกินไป ย่างไป ทานไป เม้ามอยไปบอกเลยว่าเพลินและสนุกสุด ๆ


15. รามยอน + เครื่องดื่ม

ปิดท้ายแบบชื่นใจด้วยเมนูรามยอนกับเครื่องดื่มเย็น ๆ เรียกว่าเป็นเมนูง่าย ๆ ที่ใครหลายคนชอบทานกันอยู่แล้ว ส่วนตัวเราชอบทานรามยอนแห้งแบบใส่เครื่องจัดเต็ม ต้องมีผักเพิ่มไฟเบอร์ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือไข่ออนเซนเยิ้ม ๆ นัว ๆ ค่ะ ส่วนขวดเขียว ๆ ข้างจานนี่เป็นเครื่องดื่มแบบไร้แอลกอฮอล์นะคะ บอกเลยว่าเข้ากันมาก ๆ หรือใครจะทานกับน้ำอัดลมซ่า ๆ ก็อร่อยค่ะ

และทั้งหมดนี้ก็คือสูตรรามยอนที่เราหยิบมาแนะนำในบทความนี้ค่ะ มีเมนูเด็ดของเพื่อน ๆ บ้างมั้ยเอ่ยยย? เอาจริง ๆ แล้วบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี่ก็เป็นวัตถุดิบที่สามารถดัดแปลงได้ค่อนข้างหลากหลายเลยค่ะ ยิ่งเดี๋ยวนี้นี่มีสูตรใหม่ ๆ ให้ลองทานแทบจะไม่ซ้ำเพราะชาวเน็ตเขาขยันหาทำกันซะเหลือเกิน แต่ถึงจะอร่อยแค่ไหนก็อย่าลืมนะคะว่ามาม่าเกาหลีมีปริมาณเยอะกว่ามาม่าทั่วไป ดังนั้นทานแต่น้อยและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันด้วยน๊าาาาา ☺️🏋️