Hii~ กลับมาพบกับบทความแนะนำเมนูอาหารอีกแล้ว ช่วงนี้เราห่างหายจากเมนูผักผลไม้ไปนานแล้วนะคะเพราะก่อนหน้านี้มัวแต่เป็นเด็กอ้วนสรรหาเมนูเพิ่มน้ำหนักมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นชีส, เบคอน, เป็ด, หมูทอด, สูตรหมักหมูกระทะ, เมนูเนื้อ หรือขนมไทย ซึ่งแต่ละเมนูที่นำมาฝากนี่มีแต่ของชอบและสูตรอร่อย ๆ ถูกใจเพื่อน ๆ กันทั้งนั้นเลย แต่ทานเนื้อทานอาหารหวาน ๆ กันมาเยอะแล้ว อาจทำให้เพื่อน ๆ รู้สึกอึดอัดจนกางเกงเริ่มคับแน่นกันแล้วใช่มั้ยคะ? งั้นวันนี้เราเปลี่ยนมาทานผักเพิ่มความสมดุลให้กับร่างกายกันสักหน่อยดีกว่าค่ะ ซึ่งสำหรับวัตถุดิบในบทความนี้เราเลือกเป็น “ดอกกะหล่ำ” เพราะเป็นผักที่ไม่มีกลิ่นแรงมากและค่อนข้างจะทานง่ายด้วยค่ะ
การทานดอกกะหล่ำดีอย่างไร?
ดอกกะหล่ำจัดเป็นผักที่ดีต่อสุขภาพเพราะเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์, วิตามินซี, เค และบี6, โฟเลต, โพแทสเซียม, แมงกานีส, แมกนีเซียม หรือฟอสฟอรัส นอกจากนี้ดอกกะหล่ำยังไม่มีคาร์โบไฮเดรตและมีแคลอรี่ต่ำที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ (1) เมื่อนำมาปรุงจนสุกดีแล้วจะไม่มีกลิ่นเหมือนผักอื่น ๆ และมีรสชาติหวานจากธรรมชาติทำให้สามารถเพิ่มเข้าไปในมื้ออาหารได้อย่างง่ายดายอีกด้วยค่ะ
สูตรเมนูจากดอกกะหล่ำ
สำหรับบ้านเราแล้วหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับดอกกะหล่ำในเมนูผัดผักหรืออาหารประเภทแกงต่าง ๆ ซึ่งถือว่าไม่ค่อยจะหลากหลายมากนัก วันนี้เราจึงรวบรวมสูตรเมนูอาหารจากดอกกะหล่ำมาแบ่งเพื่อน ๆ ขอบอกว่ามีทั้งเมนูคาวและหวานเลย ใช่ค่ะเราไม่ได้พิมพ์ผิด ดอกกะหล่ำสามารถนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ สงสัยว่าจะทำอย่างไรงั้นเราเลื่อนลงไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. ข้าวผัดดอกกะหล่ำ (ไร้ข้าว)
เริ่มกันที่เมนูข้าวผัดที่กำลังโด่งดังและเป็นที่นิยมในต่างประเทศ บางคนอาจจะงงว่าข้าวผัดไร้ข้าวแล้วจะเป็นข้าวผัดได้ยังไง สำหรับเมนูนี้เราจะเปลี่ยนมาใช้ดอกกะหล่ำขูดแทนข้าวสวย นำมาผัดกับกุ้งและไข่ไก่ ปรุงรสชาติให้อร่อยกลมกล่อมตามความชอบ ปรุงรสเหมือนตอนผัดข้าวปกติเลยค่ะแต่เราอาจจะต้องทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็วเล็กน้อยเพราะถ้าผัดนานดอกกะหล่ำจะเละ ส่วนรสชาติก็จะได้รสชาติหวานนิด ๆ ของดอกกะหล่ำและความอร่อยกลมกล่อมของซอสที่เราปรุงเพิ่มเข้าไปค่ะ
วัตถุดิบข้าวผัดดอกกะหล่ำ
- ดอกกะหล่ำ
- กุ้ง
- ไข่ไก่
- ต้นหอม
- กระเทียม
- น้ำตาล
- ซอสปรุงรส
- ซอสหอยนางรม
- น้ำมันพืช
วิธีทำข้าวผัดไร้ข้าว
ขั้นตอนแรกล้างทำความสะอาดดอกกะหล่ำแล้วสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนค่ะ จากนั้นนำดอกกะหล่ำมาขูดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ด้วยที่ขูดชีสหรือที่ขูดผักผลไม้ให้ได้ตามปริมาณที่ต้องการค่ะ เสร็จแล้วพักไว้ก่อนแล้วหันมาสับกระเทียม, ซอยต้นหอม และแกะเปลือก, ผ่าหลัง และดึงเส้นดำกลางหลังออกให้เรียบร้อย ส่วนไข่ไก่เราก็จะตีให้เข้ากันเตรียมไว้
ตั้งกระทะเปิดไฟกลาง รอจนกระทะร้อนแล้วใส่น้ำมันลงไปพอประมาณค่ะ จากนั้นนำกระเทียมลงเจียวจนส่งกลิ่นหอม นำกุ้งลงผัดจนสุกพอประมาณแล้วพักไว้ข้างกระทะก่อน จากนั้นนำไข่ลงยีจนเริ่มสุกแล้วนำกุ้งลงมาผัดรวมกันจนสุก ตักใส่จานพักไว้แล้วเติมน้ำมันลงไปเล็กน้อยแล้วนำดอกกะหล่ำขูดลงผัดได้เลยค่ะ ใช้ไฟกลางผัดไปเรื่อย ๆ จนดอกกะหล่ำเริ่มสุก เพิ่มรสชาติด้วยน้ำตาล, ซอสปรุงรส และซอสหอยนางรม จากนั้นนำกุ้งที่และไข่ที่พักไว้กลับลงไปผัดรวมกัน ชิมรสชาติตามชอบแล้วตักใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมก่อนจัดเสิร์ฟค่ะ
2. ผัดผักรวมมิตร
มีข้าวแล้วก็ต้องมีกับข้าวด้วย ผัดผักรวมมิตรเป็นเมนูผักที่ทำง่าย ทานง่าย และใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ เราสามารถเลือกนำผักชนิดที่ชอบแหละหาได้มาผัดรวมกันแล้วปรุงรสชาติให้อร่อยตามความชอบ ผักที่สุกได้ที่จะมีรสชาติหวาน การผัดด้วยไฟแรงจะช่วยให้ผักสุกกรอบและมีสีสันสวยงาม สำหรับเมนูผัดผักจานนี้เราจะเลือกใช้ผักหลายชนิดหลากสีสันเพื่อช่วยให้ดูน่ารับประทานและเพิ่มรสชาติ ปรุงให้มีรสชาติเค็มหวานกลมกล่อม พร้อมทานคู่กับแกงเผ็ดและข้าวสวยร้อน ๆ
วัตถุดิบผัดผักรวมมิตร
- ถั่วลันเตา
- ข้าวโพดอ่อน
- ดอกกะหล่ำ
- แครอท
- บร็อกโคลี่
- เห็ดหอมสด
- เห็ดหูหนู
- กระเทียม
- พริกไทยป่น
- น้ำตาล
- น้ำปลา
- ซอสหอยนางรม
- น้ำมันพืช
วิธีทำผัดผักรวมมิตร
ล้างทำความสะอาดผักทั้งหมดก่อนค่ะ จากนั้นหั่นแครอท, ข้าวโพดอ่อน, ดอกกะหล่ำ และบร็อกโคลี่เป็นชิ้นขนาดเท่า ๆ กัน ส่วนเห็ดหูหนูจะนำมำมาหั่นชิ้นใหญ่หน่อยและหั่นครึ่งเห็ดหอมเตรียมไว้ เสร็จแล้วหันมาโขลกกระเทียมให้พอแตกค่ะ
ตั้งกระทะ เปิดไฟกลางค่อนแรงแล้วใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย นำกระเทียมลงเจียวจนส่งกลิ่นหอมก่อนแล้วตามด้วยผักแข็ง ๆ อย่างแครอท, บร็อกโคลี่, ถั่วลันเตา, ข้าวโพดอ่อน และดอกกะหล่ำลงผัดก่อน ถ้ากระทะแห้งเกินไปสามารถเติมน้ำสต๊อกลงไปได้นิดหน่อยค่ะ ผัดให้เข้ากันแล้วปิดฝาทิ้งไว้สักครู่ เพื่อให้ความร้อนระอุอยู่ด้านในช่วยทำให้ผักสุกและสีสวยเท่า ๆ กัน จากนั้นเปิดฝา นำเห็ดหอมและเห็ดหูหนูลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาล,น้ำปลา, พริกไทยป่น และซอสหอยนางรม ผักให้เข้ากันและเห็ดหอมสุก ชิมรสชาติตามชอบก่อนตักใส่จานเสิร์ฟ
3. แกงส้มกุ้งดอกกะหล่ำ
พูดถึงแกงเมนูแกงส้มก็มา แกงส้มกุ้งดอกกะหล่ำเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบเพราะรสชาติแน่น ๆ ของเนื้อกุ้งเข้ากับความหวานของดอกกะหล่ำได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำแกงก็จะเข้มข้น มีกลิ่นหอมพริกแกงและกุ้งที่เรานำไปคั่วจนสุกหอม น้ำแกงมีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว เค็ม อร่อยกลมกล่อม หอมกลิ่นน้ำมะนาวบีบสดใหม่ ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทำทานได้บ่อย ๆ ไม่มีเบื่อเลยค่ะ
วัตถุดิบแกงส้มกุ้งดอกกะหล่ำ
- กุ้งสด
- ดอกกะหล่ำ
- พริกแกงส้ม
- เกลือ
- น้ำมะนาว
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงส้มกุ้งดอกกะหล่ำ
ล้างทำความสะอาดแล้วปอกเปลือกกุ้งออกก่อนค่ะ นำกุ้งมาผ่าหลังแล้วดึงเส้นกลางหลังออก ส่วนเปลือกและหัวกุ้งเราจะดึงเอาถุงดำแล้วล้างน้ำเบา ๆ อีกหนึ่งครั้ง จากนั้นพักกุ้งไว้ก่อนแล้วหันมาล้างดอกกะหล่ำ หั่นช่ออกกมาแล้วแบ่งครึ่งอีกครั้งสำหรับช่อที่มีขนาดใหญ่เกินไป จากนั้นหันมาตั้งหม้อไฟกลาง นำเปลือกกุ้งลงคั่วจนสุกหอม เพิ่มรสชาติด้วยเกลือเล็กน้อย จากนั้นเติมน้ำลงไปตามปริมาณที่ต้องการแล้วต้มจนสุกเดือดนำมากรองเอาหัวและเปลือกกุ้งออก
นำน้ำสต๊อกกุ้งขึ้นตั้งเตาอีกครั้ง เปิดไฟกลางแล้วนำพริกแกงส้มลงละลายในน้ำซุปจนน้ำเดือดแล้วใส่น้ำมะขามเปียกลงไปพอประมาณ นำดอกกะหล่ำลงต้มกับน้ำแกงจนสุก จากนั้นตามด้วยกุ้ง คนให้เข้ากันแล้วรอน้ำเดือดอีกครั้ง ชิมรสชาติตามชอบ ถ้ายังไม่รสชาติเค็มสามารถเติมน้ำปลาได้ ส่วนรสชาติเปรี้ยวจะต้องไม่จัดมากนักเพราะเรายังมีน้ำมะนาวอีกค่ะ ได้รสชาติที่ชอบแล้วปิดตา คนคายความร้อน 2 – 3 ครั้ง แล้วเติมน้ำมะนาวลงไป ชิมรสชาติอีกครั้งก่อนตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ
4. ผัดหมูดอกกะหล่ำ
กลับมาที่เมนูผัดร้อน ๆ หอม ๆ ก่อนหน้านี้เราแนะนำเมนูผัดผักรวมไปแล้ว คราวนี้มาเอาใจคนไม่ชอบทานผักเยอะ ๆ บ้างค่ะ ผัดหมูดอกกะหล่ำเป็นเมนูที่ค่อนข้างจะนิยมทานกันมากในช่วงหน้าหนาวเพราะช่วงนี้ดอกกะหล่ำจะมีราคาถูกและมีรสชาติอร่อย นำดอกกะหล่ำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีค่าน่ารับประทาน ผัดรวมกับหมูสันนอกนุ่ม ๆ ปรุงรสชาติหวานเค็มอร่อยกลมกล่อม เนื้อหมูจะไม่แข็งกระด้างมากจนเกินไปและดอกกะหล่ำจะมีรสชาติอมหวานนิด ๆ ค่ะ
วัตถุดิบผัดหมูดอกกะหล่ำ
- หมูสันนอก
- ดอกกะหล่ำ
- ต้นหอม
- ผักชี
- กระเทียม
- น้ำตาล
- น้ำปลา
- ซอสปรุงรส
- ซอสหอยนางรม
- น้ำมันพืช
วิธีทำผัดหมูดอกกะหล่ำ
ล้างทำความสะอาดเนื้อหมูแล้วนำมาหั่นเป็นแผ่นบางกำลังดี ถ้าหั่นหนามากเกินไปเนื้อหมูจะแข็งกระด้างจนไม่อร่อย จากนั้นล้างและหั่นกะหล่ำดอกเป็นชิ้นกำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่มากจนเกินไปเพราะถ้าใหญ่มากผักจะไม่สุก แต่ถ้าเล็กก็จะเละจนไม่น่ารับประทานค่ะ จากนั้นสับกระเทียมและซอยต้นหอมผักชีเตรียมไว้
ตั้งกระทะ เปิดไฟกลางแล้วใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย นำกระเทียมลงผัดจนสุกหอมแล้วตามด้วยเนื้อหมู ผัดหมูไปเรื่อย ๆ จนสุกนุ่มดีแล้วนำดอกกะหล่ำลงผัดรวมกันค่ะ สำหรับดอกกะหล่ำสามารถทานแบบสุกนุ่มหรือสุกกรอบก็แล้วแต่ควมชอบเลย ผัดไปเรื่อย ๆ จนดอกกะหล่ำมีความสุกตามต้องการแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา, ซอสปรุงรส, น้ำตาล และซอสหอยนางรม ผัดให้เข้ากันดีแล้วชิมรสชาติตามชอบก่อนตักเสิร์ฟ
5. ไข่ตุ๋นดอกกะหล่ำ
เมนูนี้เด็ก ๆ ต้องชอบแน่นอนเลยค่ะ ไข่ตุ๋นเป็นเมนูที่เด็ก ๆ ทานง่าย มีกลิ่นหอม และรสชาติก็ไม่จัดจ้านมากนัก เราจะนำไข่มาตุ๋นด้วยอกไก่สับและดอกกะหล่ำหั่นละเอียด เพิ่มสีสันและรสชาติด้วยผักอื่น ๆ อาจจะเป็นแครอทหั่นเต๋าหรือมะเขือเทศเพิ่มรสเปรี้ยวเล็กน้อยก็ได้ นำมานึ่งจนสุกหอม ไข่ตุ๋นที่ได้จะมีเนื้อเนียนสวย ดอกกะหล่ำกลืนไปกับเนื้อไข่จนเหลือไว้แค่รสชาติหวานนิด ๆ เข้ากับความเค็มอ่อน ๆ ที่เราปรุงเพิ่มลงไป อกไก่ไม่นุ่มหรือแข็งมาจนเกินไปเข้ากันสุด ๆ ไปเลยค่ะ
วัตถุดิบไข่ตุ๋นดอกกะหล่ำ
- ไข่ไก่
- อกไก่
- ดอกกะหล่ำ
- ต้นหอม
- พริกไทยป่น
- ผงปรุงรสไก่
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำเปล่า
วิธีทำไข่ตุ๋นดอกกะหล่ำ
ก่อนอื่นเตรียมหม้อนึ่งให้น้ำเดือดรอไว้เลยค่ะ จากนั้นนำอกไก่มาล้างทำความสะอาดแล้วสับหรือบดให้ละเอียด จากนั้นซอยดอกกะหล่ำเป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่วนต้นหอมเราจะซอยเตรียมไว้เลยค่ะ เสร็จแล้วจัดการตอกไข่ใส่ภาชนะแล้วตีให้ได้เนื้อเนียนละเอียดเติมน้ำลงไปในปริมาณที่เท่า ๆ กันหรือน้อยกว่าเล็กน้อย เพิ่มรสชาติด้วยผงปรุงรสและซีอิ๊วขาว ตีให้เข้ากันอีกครั้งแล้วกรองผ่านกระชอนเพื่อกรองเอาเศษไข่หรือฟองอากาศออก จากนั้นนำดอกกะหล่ำลงผสมแล้วคนเบา ๆให้กระจายจนทั่ว ตามด้วยอกไก่สับและมะเขือเทศส่วนหนึ่ง เหลือไว้สำหรับตกแต่งด้วยนะคะ จากนั้นนำไข่เข้าหม้อนึ่ง ใช้ไฟกลาง ๆ นึ่งไปเรื่อย ๆ จนไข่และอกไก่สุกดี วิธีเช็กคือให้ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มลงไปค่ะ ถ้าไม่มีไข่ดิบไหลออกมาก็แปลว่าสุกได้ที่แล้ว นำออกมาตกแต่งด้วยพริกไทยป่นและต้นหอมซอยก่อนจัดเสิร์ฟ
6. Mashed cauliflower (ดอกกะหล่ำบด)
ข้ามมาทำเมนูสไตล์ตะวันตกกันบ้างดีกว่า เมนูนี้จะมีรสชาติและวิธีการทำคล้าย ๆ กับมันบดเลยค่ะ เราจะนึ่งดอกกะหล่ำให้สุกแล้วบดจนละเอียด จากนั้นเพิ่มรสชาติและความครีมมี่ด้วยวิปปิ้งครีมและพาร์เมซานชีส เพิ่มความหอมด้วยพริกไทยป่นอีกเล็กน้อย เมนูนี้จะมีทั้งกลิ่นหอม ๆ ของวิปปิ้งครีมและพริกไทยอ่อน ๆ ชวนหิว เสิร์ฟพร้อมสเต๊กแทนมันบดถือว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัวมาก ๆ เลยค่ะ
วัตถุดิบ Mashed cauliflower (ดอกกะหล่ำบด)
- ดอกกะหล่ำ
- พริกไทยป่น
- เกลือ
- พาร์เมซานชีส
- วิปปิ้งครีม
วิธีทำ Mashed cauliflower (ดอกกะหล่ำบด)
วิธีการทำง่ายมาก ๆ เลยค่ะ ขั้นตอนแรกเราจะต้องล้างทำความสะอาดดอกกะหล่ำก่อน จากนั้นซับน้ำให้แห้งมากที่สุดแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วเอาก้านแข็งออก เสร็จแล้วหันมาเตรียมหม้อนึ่งให้พร้อมแล้วนำดอกกะหล่ำลงนึ่งเลยค่ะ ใช้ไฟกลางค่อนแรงนึ่งจนดอกกะหล่ำสุกนุ่มแต่ถึงกับเละมาก จากนั้นนำออกมาบดให้ละเอียดด้วยส้อมหรือที่บดมันฝรั่ง พยายามบดให้ได้เนื้อเนียนละเอียดและไม่เหลือดอกกะหล่ำเป็นชิ้นใหญ่นะคะ ได้เนื้อเนียนแล้วเราจะอุ่นวิปปิ้งครีมเล็กน้อยแล้วผสมลงไป ตามด้วยพาร์เมซานชีสและเกลือ คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสชาติเล็กน้อย ดอกกะหล่ำบดของเราควรจะมีรสชาติมัน ๆ ครีมมี่หน่อย ๆ และเค็มนิด ๆ ได้รสชาติที่ใช่แล้วโรยพริกไทยเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟ
7. พิซซ่าดอกกะหล่ำ (ไร้แป้ง)
ถัดมาเป็นเมนูพิซซ่าที่ใครหลายคนชื่นชอบ สำหรับพิซซ่าสูตรธรรมดาจะมีแป้งเป็นส่วนผสมและมีคาร์โบไฮเดรตเยอะ ซึ่งเจ้าคาร์โบไฮเดรตนี่ถือว่าเป็นฝันร้ายของสายลดน้ำหนักเลยค่ะ แต่วันนี้ไม่ต้องเสียใจไปเพราะพิซซ่าสูตรที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ เนี่ยแทบจะไม่มีแป้งผสมอยู่เลย เพราะเราจะเปลี่ยนใช้ดอกกะหล่ำแทนแป้งอเนกประสงค์ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะทั้งหน้าตาและรสชาตินี่แทบจะไม่ต่างจากสูตรดั้งเดิมเลย แป้งจะไม่กรอบมากแต่ไม่รสหวานเบา ๆ หอมกลิ่นออริกาโน เข้ากับรสชาติของหน้าพิซซ่าได้เป็นอย่างดี
วัตถุดิบพิซซ่าดอกกะหล่ำ
- ดอกกะหล่ำ
- ไข่ไก่
- มะเขือเทศ
- พริกหวาน
- ไส้กรอก
- ใบโหระพา
- อัลมอนด์ป่น
- เกลือ
- ออริกาโน
- พาร์เมซานชีส
- มอสซาเรลลาชีส
- ซอสพิซซ่า
วิธีทำพิซซ่าดอกกะหล่ำ
ล้างดอกกะหล่ำให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก จากนั้นนำเข้าเครื่องปั่นแล้วปั่นจนดอกกะหล่ำกลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือกลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเทใส่ภาชนะทนความร้อนแล้วนำไปทำให้สุกด้วยไมโครเวฟ ใช้ไฟประมาณ 180 – 200 องศาเซลเซียสประมาณ 10 – 15 นาที แล้วแต่ปริมาณของดอกกะหล่ำค่ะ ครบเวลาแล้วนำออกมาพักให้หายร้อนก่อนนำมากรองด้วยผ้าขาวบางแล้วคั้นน้ำออกให้ได้มากที่สุด
ได้เนื้อดอกกะหล่ำมาแล้วเราจะนำมาผสมกับชีส, ไข่ไก่, อัลมอนด์ป่น และเพิ่มรสชาติด้วยเกลือและออริกาโน่ คนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วหันมาวางกระดาษไขลงบนถาด ทาน้ำมันบาง ๆ เพื่อกันไม่ให้แป้งติดกับกระดาษแล้วนำแป้งที่ทำไว้ลงไปเลยค่ะ ใช้มือกดให้แป้งกระจายตัวทั่วถาดเลือกความหนาบางตามชอบเลยค่ะ เสร็จแล้วนำเข้าเตาอบใช้อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที
ครบเวลาแล้วนำออกมาลอกเอากระดาษไขออก จากนั้นวางให้หายร้อนแล้วนำมาตกแต่งหน้าพิซซ่าได้เลย เริ่มจากทาซอสพิซซ่าลงไปบาง ๆ ก่อน จากนั้นตามด้วยมอสซาเรลลาชีส ทอปด้วยไส้กรอกหั่น, มะเขือเทศหั่นครึ่ง และใบโหระพา โรยมอสซาดรลลาและพาร์เมซานชีสปิดท้ายแบบจุก ๆ แล้วนำเข้าเตาอบุอีกครั้ง คราวนี้เราจะใช้เวลาไม่นานมากค่ะ ตั้งค่าเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 160 องศาเซลเซียส เวลาประมาณ 8 – 10 นาที หรือกะให้แค่ชีสละลายจนหมดก็ถือว่าใช้ได้แล้วค่ะ นำออกมาหั่นแล้วจัดเสิร์ฟได้เลย
8. ดอกกะหล่ำอบชีส
มาที่อีกหนึ่งเมนูเอาใจเด็กอ้วน ใครที่อยากทานมันฝรั่งอบชีสแต่กลัวปัญหาเรื่องคาร์โบไฮเดรตต้องถูกใจแน่นอนค่ะเพราะเราจะนำดอกกะหล่ำมาอบดับชีสแทนมันฝรั่ง ถึงจะเปลี่ยนมาใช้ดอกกะหล่ำแต่บอกเลยวความอร่อยไม่ต่างกันมากนัก สำหรับสูตรนี้เนื้อด้านในจะมีความเป็นครีมมี่นิด ๆ ได้เทกซ์เจอร์กรุบหน่อย ๆ และรสชาติหวานของดอกกะหล่ำ ชีสด้านบนยืด ๆ เยิ้ม ๆ และกลิ่นหอมนมจะช่วยกลบกลิ่นของดอกกะหล่ำได้เป็นอย่างดีค่ะ
วัตถุดิบดอกกะหล่ำอบชีส
- ดอกกะหล่ำ
- ไข่ไก่
- เกลือ
- พริกไทย
- เชดด้าชีส
- มอสซาเรลลาชีส
- วิปปิ้งครีม
วิธีทำดอกกะหล่ำอบชีส
ก่อนอื่นนำดอกกะหล่ำมาทำความสะอาดแล้วขูดหรือสับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนค่ะ แต่ถ้าใครอยากทานแบบเต็ม ๆ คำสามารถหั่นออกเป็นก้านก็ได้ค่ะ อร่อยเหมือนกัน จากนั้นหันมาตอกไข่ใส่ภาชนะแล้วตีให้เข้ากัน เพิ่มรสชาติด้วยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย ตีให้เข้ากันอีกครั้งแล้วเติมวิปปิ้งครีมลงไปเล็กน้อย ตามด้วยดอกกะหล่ำ ตีผสมให้เข้ากันอีกครั้งแล้วเทใส่ภชนะที่จะใช้เสิร์ฟ โรยหน้าด้วยเชดด้าชีสและมอสวาเรลลาชีสให้ทั่วก่อนนำเข้าเตาอบ ใช้อุณหภูมิประมาณ 170 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 10 -15 นาที ครบเวลาแล้วนำออกมาโรยออริกาโนเล็กน้อยก่อนจัดเสิร์ฟ
9. ขนมปังดอกกะหล่ำ
เปลี่ยนมาทำขนมทานกันบ้างดีกว่า หลายคนอาจจะงงว่าดอกกะหล่ำสามารถนำมาทำอย่างอื่นนอกจากอาหารคาวได้ด้วยเหรอ? ขนมปังเนี่ยนะ? บอกเลยว่าทำได้แน่นอนค่ะ ขนมปังดอกกะหล่ำสูตรนี้ทำง่ายและใช้วัตถุดิบน้อย ตัวขนมปังจะมีกลิ่นหอม ๆ ของธัญพืช ไม่มีกลิ่นดอกกะหล่ำเลยค่ะ สำหรับเนื้อสัมผัสของขนมปังจะเด้ง ๆ ฟู ๆ หน่อย รสชาติหวานธรรมชาติและไม่แห้งมากจนเกินไปค่ะ
วัตถุดิบขนมปังดอกกะหล่ำ
- ดอกกะหล่ำ
- ธัญพืชตามชอบ
- ไข่ไก่
- แป้งมะพร้าว
- เกลือ
- ผงฟู
- น้ำมันพืช
วิธีทำขนมปังดอกกะหล่ำ
ก่อนอื่นวอร์มเตาอบให้ร้อนก่อนเลยค่ะ จากนั้นนำดอกกะหล่ำมาขูดหรือปั่นให้กลายเป็นผงหรือเนื้อเนียน จากนั้นหันมาตอกไข่ใส่ภาชนะแล้วใช้ตะกร้อไฟฟ้าตีจนไข่ขึ้นฟู เสร็จแล้วนำแป้งมะพร้าว, เกลือ, ผงฟู, น้ำมันพืช และดอกกะหล่ำลงมาผสมแล้วคนให้เข้ากัน พยายามคนเร็ว ๆ และไม่คนมาเกินไปจนไข่ยุบตัวนะคะ จากนั้นกรุกระดาษไขลงบนพิมพ์แล้วเทแป้งที่ผสมไว้ลงไป เกลี่ยหน้าให้เสมอกัน โรยหน้าด้วยธัญพืชตามชอบ เคาะไล่อากาศเล็กน้อยแล้วรีบน้ำเข้าเตาอบเลยค่ะ ตั้งอุณหภูมิที่ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณของขนม หลังขนมสุกดีแล้วนำออกมาพักให้หายร้อนแล้วสามารถตัดทานได้เลยค่ะ
10. บราวนี่ดอกกะหล่ำ
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมยอดฮิตอย่างบราวนี่ สำหรับสูตรนี้เราจะผสมดอกกะหล่ำลงไปด้วยเพิ่มความความชุ่มชื้นและช่วยให้เนื้อบราวนี่ไม่แห้งแข็งมากจนเกินไปค่ะ บราวนี่สูตรนี้ง่ายและสามารถทำตามได้ไม่ยากเลย เนื้อขนมที่ออกมาจากไม่แห้งแข็งมากจนเกินไป เนื้อจะนุ่ม ๆ หอมผงโกโก้และมีรสชาติเข้มข้น ยิ่งได้แช่เย็นก่อนทานก็จะยิ่งอร่อยเหมาะกับนมอุ่น ๆ สักแก้วสุด ๆ
วัตถุดิบบราวนี่ดอกกะหล่ำ
- ดอกกะหล่ำ
- ไข่ไก่
- ผงโกโก้
- แป้งมะพร้าว
- ผงฟู
- น้ำตาล
- นมสด
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
วิธีทำบราวนี่ดอกกะหล่ำ
ปั่นดอกกะหล่ำให้กลายเป็นเนื้อละเอียดก่อนค่ะ จากนั้นหันมาผสมไข่ไก่, นมสด, โยเกิร์ต และน้ำตาลลงในภาชนะ ตีผสมให้เข้ากันและน้ำตาลละลายดีแล้วผสมแป้งกับผงโกโก้และผงฟูแล้วร่อนลงในภาชนะตามด้วยดอกะกะหล่ำ คนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันและมีเนื้อเหนียวขึ้น พักแป้งไว้ก่อนแล้ววอร์มเตาอบให้ร้อน เทแป้งใส่พิมพ์แล้วเคาะไล่อากาศเล็กน้อย นำเข้าเอาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 20 – 25 นาที หรือจนกว่าแป้งจะสุกหมด จากนั้นนำออกมาพักให้หายร้อนแล้วนำมารับประทานค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ กับ 10 สูตรเมนูอาหารจากดอกกะหล่ำที่เรานำมาแบ่งปัน บางเมนูเพื่อน ๆ อาจจะเคยทานบ่อยแล้วแต่บางเมนูอาจจะเป็นเคยได้ยินเป็นครั้งแรก สำหรับเราแล้วต้องยอมรับว่าเมนูขนมหวานจากดอกกะหล่ำที่ทำเอาอึ้งปนสงสัยเลยทีเดียวค่ะ เพราะเราเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าดอกกะหล่ำสามารถนำมาทำขนมได้ด้วย แต่เมนูขนมหวานเหล่านี้ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศเราเลยำมาแบ่งปันเป็นไอเดียใหม่ ๆ ให้กับตัวเองและเพื่อน ๆ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาเมนูอาหารจากผักผลไม้เราก็มีบทความแนะนำอยู่ค่อนข้างเยอะเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูจากผัก, เมนูจากหัวไชเท้า, เมนูจากผักบุ้ง, เมนูจากฟักทอง, เมนูจากข้าวโพด, เมนูจากกะหล่ำปลี, เมนูจากเห็ด หรือเมนูจากมันฝรั่ง รับรองว่ามื้อถัดไปเพื่อน ๆ จะได้ทานอาหารอร่อย ๆ แนะนอนค่ะ ส่วนวันนี้ต้องขอตัวก่อน ไว้จอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีค่ะ
Reference :
- Cauliflower – Wikipedia