สูตร เมนูเด็กหอ ที่คนอยู่หอ/คอนโดทำกินได้เองง่าย ๆ

ปัญหาสุดคลาสสิกของการย้ายไปอยู่หอก็คือเรื่องอาหารการกินค่ะ ถึงแม้ว่ารอบ ๆ ตัวหอหรือที่พักจะเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อย ๆ มากมายแต่จะให้ซื้อข้าวทานทุกมื้อก็อาจจะไม่ไหว ต้นเดือนอาจจะยังอู้ฟู่หน่อยเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น แต่เริ่มเข้าสู่ปลายเดือนเมื่อไหร่อาจจะต้องเซฟงบสักหน่อยเดี๋ยวเงินที่มีจะไม่พอสำหรับกิจกรรมสังสรรค์ (อิอิ) แต่เมื่อต้องมาลงมือทำอาหารทานเองหลายคนกลับคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรทานดีนะ ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะวันนี้เราได้รวบรวมเมนูอาหารที่เหมาะกับเด็กหอมาฝากเพื่อน ๆ แล้วค่ะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยจ้า

สูตรเมนูอาหารสำหรับเด็กหอ

1. แซนด์วิช

เริ่มกันแบบง่าย ๆ ด้วยเมนูแซนด์วิชที่ทั้งง่ายและใช้วัตถุดิบน้อยมาก ๆ เลยค่ะ เพียงแค่เราซื้อขนมปังมาเก็บไว้สักหนึ่งแถว ไข่อีกเล็กน้อย ผักนิดหน่อย และซอสอีกนิดนึง จากนั้นเราแค่ตื่นมาต้มไข่ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ เสร็จแล้วออกมาปอกและหั่นไข่เรียงใส่ขนมปัง โปะผักตามใจชอบ และราดซอสอีกเล็กน้อยจากนั้นก็หยิบไปทานระหว่างเดินทางไปเรียนหรือทำงาน แค่นี้เราก็มีอาหารง่าย ๆ เอาไว้ทานรองท้องแล้วจ้า ยิ่งได้นมหรือกาแฟอีกสักแก้วล่ะแจ่มเลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากเพิ่มรสชาติให้เมนูแซนด์วิชไม่น่าเบื่อ ก็จจะลองใช้เครื่องทำแซนด์วิชหรือเครื่องปิ้งขนมปังเพิ่มเติม เพื่อทำให้แซนด์วิชมีความกรอบและความร้อนน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นก็ได้ค่ะ หรือหากใครเบื่อรสชาติเดิม ๆ แล้ว จะลองใช้เป็นแยมผลไม้อย่างแยมส้มหรือแยมสตรอว์เบอร์รี่ นอกจากนี้เรายังมีเมนูที่เกี่ยวขนมปังแผ่นอีกมากมายที่ไม่ใช่แค่แซนด์วิชด้วยนะคะ


2. ข้าวต้มหมูเด้ง

อัพเกรดมื้อเช้าให้ดูดีมีระดับขึ้นมาอีกนิดด้วยการทานข้าวต้มร้อน ๆ ก่อนออกไปเริ่มต้นวันใหม่ที่สดใส หน้าที่ของเราก็คือจะต้องซื้อวัตถุดิบมาเตรียมไว้ให้พร้อมค่ะ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสวย, หมูเด้ง, ซุปก้อน, พริกไทยป่น หรือต้นหอมและขิงพอกรุบกริบ ส่วนวิธีการทำขอบอกว่าง่ายมาก ๆ เลยค่ะ เพียงแค่เพื่อน ๆ จะต้องตื่นเช้าสักหน่อย เทข้าวสวยและน้ำลงในหม้อหุงข้าวแล้วเปิดการทำงาน คอยคนไปเรื่อย ๆ จนน้ำเดือดได้ที่แล้วใส่ซุปก้อนลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ คนจนซุปก้อนละลายแล้วตักหมูเด้งเป็นก้อนเล็ก ๆ ใส่ตามลงไปแล้วปิดฝารอจนหมูสุกและเมล็ดข้าวสุกบานตามชอบ ขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อยดังนั้นเพื่อน ๆ สามารถไปอาบน้ำหรือทำกิจกรรมอื่นระหว่างรอได้เลยค่ะ หลังจากข้าวต้มสุกได้ที่แล้วก็ตักใส่จานโรยหน้าด้วยขิงซอย, ต้นหอมซอย และพริกไทยป่นอีกนิด แค่นี้เราก็ได้เมนูข้าวต้มร้อน ๆ เพื่อสุขภาพไว้ทานเพิ่มพลังกันแล้วค่ะ ไม่ยากเลยเนอะ


3. ข้าวหน้าหมูเทริยากิ

มาต่อกันที่เมนูอาหารญี่ปุ่นที่เป็นเมนูง่าย ๆ สไตล์คนญี่ปุ่นบอกเลยว่าหลายคนต้องชอบแน่นอนค่ะ เพราะข้าวหน้าหมูเทริยากิเป็นเมนูที่เหมาะกับการเตรียมไปทานที่ทำงานหรือทานตอนเที่ยง สูตรนี้เราจะต้องเตรียมแค่หมูสไลด์บาง ๆ ในปริมาณที่ต้องการ, หอมใหญ่ซอยบาง ๆ, ขิงสับละเอียด และเครื่องปรุงอาหารญี่ปุ่นอย่างโชยุ, ซอสเทริยากิ และน้ำตาลมะพร้าวหอม ๆ หรือจะเป็นน้ำตาลทรายธรรมดาก็ได้ค่ะ

ส่วนวิธีทำเราจะเริ่มจากเทน้ำใส่กระทะพอประมาณ ตามด้วยซอสเทริยากิและน้ำตาล เติมโชยุอีกนิด รอจนน้ำเดือดแล้วใส่ขิงและหอมใหญ่ซอย คนเบา ๆ แล้วรอจนหอมใหญ่เริ่มสุกใสเราก็ใส่หมูสไลซ์ลงไปต้มรวมกันเลยจ้า ต้มไปเรื่อย ๆ จนน้ำซอสงวดจนเกือบแห้งแล้วชิมรสหมูของเราอีกสักหน่อย ก่อนจะตักโปะลงไปบนถ้วยที่อัดข้าวญี่ปุ่นไว้จนแน่น โรยงาเล็กน้อย และโปะไข่ออนเซนลงไปอีกนิดก็เพอร์เฟกต์อย่างกับซื้อมาจากร้านดังเลยค่ะ ยิ่งได้ทานตอนบ่าย ๆ นั่งฟินไปกับหมูเทริยากินุ่ม ๆ รสหวาน ๆ เค็ม ๆ โอ๊ยฟิน!!


4. ยำวุ้นเส้น

เจอวันหนัก ๆ มาก็อยากจะหาอะไรแซ่บ ๆ ทานสักหน่อย แต่จะไปเข้าคิวซื้อยำร้านโปรดก็ช่างท้อแท้เหลือเกิน ไหนจะแดดร้อน ๆ และต้องเจอกับคนเยอะ ๆ อีก ในเมื่อสู้ไม่ไหวก็กลับมาทำเมนูยำรสแซ่บทานเองที่หอดีกว่า แต่ก่อนกลับต้องแวะซื้อวัตถุดิบสักหน่อย สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเมนูนี้ก็คือวุ้นเส้น, เนื้อสัตว์หรือไส้กรอก, มะเขือเทศ, พริกสด, หอมแขก, คึ่นฉ่าย, ต้นหอม และมะนาว ส่วนเครื่องปรุงอย่างน้ำปลาและน้ำตาลก็น่าจะมีติดห้องกันอยู่แล้วเนอะ

วิธีการทำง่ายมาก ๆ เลยเธอเพราะเราแค่ลวกวัตถุดิบทั้งหมดให้สุกก่อน ไม่ว่าจะเป็นวุ้นเส้น, ไส้กรอก หรือเนื้อสัตว์ จากนั้นก็หันมาเตรียมน้ำยำด้วยการผสมพริกซอย, น้ำตาล, น้ำปลา และน้ำมะนาวเข้าด้วยกันก่อน ค่อย ๆ ชิม ค่อย ๆ ปรุงไปทีละนิดจนได้รสชาติที่ชอบ สำหรับน้ำยำเราจะปรุงให้รสเข้มไว้ก่อนนะคะ ได้น้ำยำมาแล้วก็จะการนำเครื่องลวกลงคลุกก่อนเลย จากนั้นตามด้วยมะเขือเทศหั่น, หอมแขกซอย, คึ่นฉ่ายและต้นหอมซอยปิดท้าย คลุก ๆ แล้วชิมรสชาติอีกนิด จากน้ำยำรสจัดในตอนแรกเมื่อมีเครื่องอื่น ๆ มาผสมก็ทำให้รสชาติของน้ำยำอ่อนลงและกลมกล่อมพอดีค่ะ สุดท้ายก็ตักใส่จานแล้วเอนจอยอีทติ้งจ้า


5. ยำมาม่า

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถือเป็นอาหารประจำประเทศแดนเด็กหอที่ทุกคนต้องมีติดห้อง ดังนั้นยำมาม่าเป็นเมนูยำที่ง่ายขึ้นมาอีกนิดและเหมาะสำหรับคนที่ยังทำอาหารไม่ค่อยเก่งค่ะ เพราะเราจะปรุงรสน้อยและใช้ผงปรุงรสจากห่อบะหมี่มาเป็นเครื่องปรุงหลัก ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เราทดลองมาแล้วว่าอร่อยก็คือเครื่องรสต้มยำต่าง ๆ ยิ่งเป็นรสต้มยำน้ำข้นก็จะยิ่งอร่อยนะจ๊ะ

จากนั้นใครชอบอะไรก็ใส่ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหมู, เห็ด, เป็ด หรือไก่ ส่วนผักก็จะมีหอมแขก, มะเขือเทศ, คึ่นฉ่าย, พริกสด และน้ำมะนาวค่ะ ขั้นตอนแรกเราก็จะต้องต้มน้ำด้วยหม้อหุงข้าวให้เดือด แล้วนำเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลงลวก ไม่ต้องลวกสุกจนเละนะคะ เอาแค่พอกระจายตัวจากนั้นก็ใช้กระชอนตักขึ้นมาพักไว้ได้เลยค่ะ(หากไม่มีกระชอนก็ใช้ช้อนส้อมทั่ว ๆ ไปและความพยายามของเรานะคะ อิอิ) จากนั้นใช้น้ำต้มบะหมี่นี่แหละมาลวกเนื้อต่อจนสุกเลย เสร็จแล้วก็มาหั่นมะเขือเทศ, หอมแขก, คึ่นฉ่าย และพริกสดเตรียมไว้ จากนั้นก็ปรุงน้ำยำด้วยพริกซอย, น้ำมะนาว น้ำตาล และฉีกห่อเครื่องใส่ลงไปเลยจ้า ใส่แค่ครึ่งเดียวก่อนน้าาา คนผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดีแล้วชิมรสชาติตามชอบ ถ้าโอเคแล้วก็นำเส้นบะหมี่และวัตถุดิบที่เตรียมไว้ลงมาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทานได้เลย รสชาติเผ็ดเปรี้ยวเค็มหวานครบรสแบบนี้ทานบ่อยแค่ไหนก็ไม่เบื่อเลยจริง ๆ


6. ยำไข่เจียว

ยังมูฟออนจากเมนูยำไม่ได้เพราะไข่ที่ซื้อมายังทานไม่หมด! เก็บมาหลายวันแล้ว ทานเมนูไข่เจียวไข่ดาวบ่อย ๆ ก็เริ่มจะเบื่อ เรามาเปลี่ยนไข่จืดชืดให้เป็นยำไข่เจียวแซ่บ ๆ กันดีกว่า เริ่มจากทอดไข่ให้ฟูกรอบก่อนเลย จากนั้นมาผสมน้ำยำให้จี๊ดจ๊าด เริ่มจากผสมน้ำตาล, น้ำปลา และน้ำมะนาวให้เข้ากันก่อน จากนั้นซอยพริกสดและหอมแดงตามลงไปใครจะใส่มากใส่น้อยก็เอาตามชอบเลยนะจ๊ะ หรือใครไม่มีพริกสดใช้พริกป่นแทนก็ได้นะ เสร็จแล้วก็คนให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติให้น้ำยำของเรามีรสเผ็ด, เปรี้ยว, หวาน และเค็มครบรส ได้น้ำยำรสแซ่บแล้วก็หั่นไข่เจียวเป็นชิ้นแล้วนำลงมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ง่าย ๆ แค่นี้ยำไข่เจียวก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูกันตายที่ทำกี่ครั้งก็อร่อย ยิ่งได้ทานกับข้าวหอมมะลิร้อน ๆ ก็ยิ่งฟินและอิ่มสุด ๆ ทำเสร็จแล้วก็จัดเรียงให้สวยงามแล้วอัพรูปลงโซเชียลอวดเพื่อน ๆ สักหน่อย เริ่ด!


7. ต้มแซ่บ

สำหรับเมนูต้มยำจี๊ดจ๊าดหรือต้มแซ่บเป็นเมนูที่เหมาะกับปาร์ตี้มาก ๆ เพราะเมนูนี้ทำง่ายและไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะค่ะ แค่มีหม้อหุงข้าวใบเดียวก็เอาอยู่แล้วนะจ๊ะ ส่วนวัตถุดิบที่สำหรับเมนูต้มแซ่บก็จะมีเนื้อสัตว์ อันนี้เพื่อน ๆ ก็ปรึกษากันก่อนว่าใครชอบอะไรใครแพ้ออะไรบ้างจะได้ทานได้กันทุกคนเนอะ นอกจากนี้ก็จะมีหอมแดง, ผักชีฝรั่ง, ตะไคร้, ข่า, ใบมะกรูด, พริกป่น, พริกแห้ง, เกลือ, น้ำมะขามเปียก, น้ำปลา และน้ำตาล ก่อนอื่นก็ช่วยกันหั่นเนื้อสัตว์, ซอยตะไคร้, ซอยหอมแขก, ซอยผักชีฝรั่ง , ซอยข่า และทอดพริกแห้งกันคนละไม้คนละมือ เสร็จแล้วต้มน้ำให้เดือด นำข่า, ตะไคร้ และหอมแดงลงต้มก่อนค่อยตามด้วยเนื้อสัตว์ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและเกลือเล็กน้อย จากนั้นอดใจรออีกนิดให้เนื้อสุกเปื่อย ระหว่างรอก็หาเกมมาเล่นกันแก้เบื่อ ใครแพ้ต้องไปช้อนฟองในหม้อทิ้ง เล่นไปเล่นมาตอนกำลังสนุกได้ที่เนื้อก็เปื่อยพอดี คราวนี้คนแพ้ฝีมือดีก็จะต้องทำหน้าที่ปรุงรสต้มแซ่บของเราด้วยพริกป่น, น้ำปลา และน้ำตาลแล้วชิมรสชาติตามชอบ ถ้าโอเคแล้วก็ใส่ใบมะกรูด, ผักชีฝรั่ง และพริกปิดท้ายได้เลยจ้า


8. ชาบูชาบู

ถัดมาเป็นเมนูประเพณีที่ห้องไหนมีหม้อหุงข้าวหรือหม้อชาบูไฟฟ้าจะต้องเคยทำอย่างน้อยหนึ่งครั้งอย่างแน่นอน นอกจากนี้ชาบูชาบูก็ยังเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นที่ทำง่ายและไม่มีสูตรตายตัวเหมือนอาหารประเภทอื่นอีกด้วยค่ะ สำหรับชาบูชาบูก็จะสามารถเลือกได้หลายรูปแบบและน้ำซุป ทั้งน้ำข้นและน้ำใสก็มีน้ำซุปแบบสำเร็จรูปให้ได้เลือกสรร แต่ถ้าเอาให้ง่ายที่สุดก็โยนซุปก้อนลงไปเลยค่ะ อร่อยกลมกล่อมแน่นอน ส่วนเนื้อสัตว์ก็เลือกได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู, เนื้อไก่, ไส้หรอก หรือใครจะอู้ฟู่หน่อยก็จัดเนื้อวัวลายงาม ๆ ไปเลยจ้า แค่คิดว่าจะได้นั่งทานชาบูชาบูกับเพื่อน ๆ ก็แฮปปี้แล้วค่ะ นั่งเม้ามอยไปลวกเนื้อไป พูดมากจนคอแห้งแล้วก็ตักน้ำซุปรสชาติอร่อยกลมกล่อมที่ได้ความหวานจากเนื้อสัตว์และผักซดให้ชุ่มคอ ตามด้วยคีบเนื้อหวาน ๆ จิ้มน้ำจิ้มสุกี้ตบท้าย หืมมมมทั้งฟินและคิดถึงบรรยากาศตอนอยู่หอสุด ๆ เลยค่ะ


9. ต้มจับฉ่าย

ผักจากการทำชาบูชาบูวันก่อนโน้นยังเหลืออยุ่เต็มตู้เพราะแต่ละคนทานแต่เนื้อกันจนลืมไปเลยว่าเคยมีผัก วันนี้เลยต้องมาจัดการเคลียร์ตู้เย็นกันสักหน่อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหัวไชเท้า, ผักกาด, แครอท, กะหล่ำปลี, ผักกว่างตุ้ง หรือคึ่นฉ่ายก็ยังมีอยู่ครบ ไหน ๆ ก็ไม่มีเนื้อเหลือแล้วก็คงจะทำอะไรมากไม่ได้นอกจากจับมาทำเมนูเพื่อสุขภาพอย่างต้มจับฉ่าย เพียงแค่เราหั่นผักเตรียมไว้ให้พร้อม จากนั้นนำไปผัดจนผักนุ่มลง เติมน้ำลงไปเพื่อต้มผัก ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสเค็มความกลมกล่อม ตุ๋นไปเรื่อย ๆ จนผักเปื่อยนุ่มแล้วค่อยนำมารับประทานค่ะ จะทานพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ หรือทานคู่กับกับข้าวรสเผ็ดก็อร่อยค่ะ ทั้งอุ่นท้องและช่วยให้สบายท้องมากขึ้นอีกด้วย ขอบอกเลยว่าต้มจับฉ่ายนั้นเป็นเมนูที่มีประโยชน์มาก ๆ เพราะเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือเมนูสำหรับคนคุมน้ำตาลอย่างเบาหวาน ที่สามารถเอาไปใช้กับคนในครอบครัวได้แน่นอนค่ะ


10. เกี๊ยวชีสยืด

เปลี่ยนมาทำของทานเล่นกันบ้าง เกี๊ยวชีสยืดเป็นอะไรที่เหมาะกับเด็กอ้วนอย่างเราสุด ๆ เพราะทั้งอร่อยและใช้วัตถุดิบน้อยมาก ๆ อีกด้วยค่ะ เพียงแค่เพื่อน ๆ มีแผ่นเกี๊ยวกับชีสและไส้กรอกอีกนิดก็สามารถเสกของกินอร่อย ๆ ได้แล้ว ในส่วนของวิธีการทำนั้นง่ายยิ่งกว่าทำข้อสอบ เพราะเราจะนำแผ่นเกี๊ยวมาเคาะแป้งออกก่อน จากนั้นหั่นไส้กรอกและชีสให้เป็นชิ้นขนาดเท่า ๆ กันแล้ววางลงไปบนแผ่นเกี๊ยว จากนั้นใช้น้ำเปล่าแตะขอบเกี๊ยวแล้วพับเข้าหากกัน อย่าลืมกดให้แนบสนิทกันทุกด้านด้วยนะคะเดี๋ยวชีสจะไหลทะลักออกมา

หลังจากทำครบจนหมดทุกชิ้นแล้วก็มาใส่น้ำมันพืชตั้งกระทะทอดไฟฟ้าให้ร้อน หรือใครไม่มีกระทะทอดก็ใช้หม้อหุงข้าวก็ได้ค่ะ ใส่น้ำมันลงไปพอประมาณแล้วรอจนร้อนได้ที่ นำเกี๊ยวที่ห่อไว้ลงทอดจนเหลืองกรอบทั้ง 2 ด้านแล้วตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน เสร็จแล้วก็นำมาทานตอนอุ่น ๆ ชีสจะยืดดดดดดดและฟินสุด ๆ ยิ่งได้จิ้มซอสมะเขือเทศหรือมายองเนสก็ยิ่งอร่อยค่ะ ยิ่งใครชอบหิวตอนดูซีรีส์ดึก ๆ ยิ่งไม่ควรพลาดเลยนะคะ แนะนำสำหรับใครที่มีหม้อทอดไร้น้ำมันราคาประหยัดก็สามารถใช้แทนได้นะคะประหยัดน้ำมันแล้วยังได้สุขภาพที่ดีขึ้นมากอีกระดับ


11. โรตีกล้วย

เกี๊ยวชีสยังไม่สะใจหายอิ่มเราลุกมาหาโรตีทานกันดีกว่า แต่ดึกขนาดนี้ร้านโรตีคงจะปิดหมดแล้ว เดินไปเดินมาก็หั่นไปเห็นกล้วยหอมกับขนมปังที่ซื้อมาวันก่อนยังทานไม่หมดเลยขอเอามาทำโรตีทานแก้ขัดไปก่อนละกัน หยิบขนมปังมาตัดขอบออกให้หมดแล้วใช้ขวดหรือหลังช้อนกดให้แผ่นขนมปังแบนเรียบทั่วทั้งแผ่นเลยนะคะ ส่วนกล้วยเราก็จะหั่นเป็นชิ้น ๆ จากนั้นนำมาวางลงบนแผ่นขนมปัง ใครมีช็อกโกแลตก็ใส่ลงไปนิดหน่อยแล้วพับแผ่นขนมปังมาประกบกันแล้วใช่ส้อมกดขอบขนมปังให้ติดกัน หลังจากทำครบจนหมดแล้วก็นำมาทอดเลยค่ะ พลิกไปพลิกมาจนขนมปังเหลืองกรอบทั้ง 2 ด้านก็นำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันจากนั้นจัดใส่จา โรยนมข้นหวานและซอสช็อกโกแลตลงไปตามความชอบ แล้วเอนจอยได้เลยจ้า ทานร้อน ๆ ตอนดึก ๆ นี่อย่างฟิน


12. พุดดิ้งนมสด

ใครมีตู้เย็นต้องห้ามพลาดเมนูของหวานจากไข่เลยนะคะ ยิ่งช่วงหน้าร้อนยิ่งต้องทำติดตู้เย็นไว้เลยเพราะวันไหนที่เหนื่อยล้าจากการเรียนหรือทำงานก็จะได้กลับมาทานพุดดิ้งเย็นฉ่ำให้ชื่นใจ สิ่งที่เราจะต้องเตรียมก็คือแผ่นเจลาติน, นมสด (หรือนมอัลมอนด์), วิปปิ้งครีม, และน้ำตาลทราย

ส่วนวิธีการขอบอกว่าง่ายแสนง่ายเพียงแค่เราแช่แผ่นเจลาตินในน้ำเปล่าประมาณ 5 นาที น้ำเปล่านี่เป็นน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็นนะคะ จากนั้นพักไว้แล้วหันมาผสมนมสด, วิปปิ้งครีม และน้ำตาลเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลายดีแล้วชิมรสชาติให้มีรสหวานตามชอบเลยค่ะ จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ แล้วคนไปเรื่อย ๆ จนนมเริ่มร้อนและมีควันลอยขึ้นมาก็ปิดเตาแล้วยกลงได้เลยค่ะ หรือจะใช้เป็นไมโครเวฟแทนก็ได้ เราแค่ต้องการอุ่นนมเท่านั้นไม่อยากให้เดือด หลังจากยกลงมาแล้วรีบนำแผ่นเจลาตินใส่ลงไปทันทีแล้วคนจนแผ่นเจลาตินละลายเป็นเนื้อเดียวกัน

ชิมรสชาติอีกรอบเผื่อรสจะเปลี่ยน เสร็จแล้วเทใส่แก้วหรือภาชนะที่ต้องการแล้วนำไปแช่เย็นจนเซตตัว นำเข้าแช่เย็นจนกว่าจะนำออกมารับประทานพร้อมซอสคาราเมลค่ะ ขอบอกว่าความหอม ความหวานและความละมุน นี่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ดีจริง ๆ เป็นเมนูอาหารที่คนอังกฤษชอบทำกินที่บ้านอีกด้วย


13. บานอฟฟี่

ใครว่าอยู่หอแล้วจะต้องทานแต่มาม่ากับปลากระป๋อง งานนี้เราจัดหนักกับเมนูบานอฟฟี่ ขนมหวานส่งตรงจากเมืองผู้ดีไว้ทานให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ แต่ขอขีดเส้นใต้นิดนึงว่าเมนูนี้เหมาะกับห้องที่มีตู้เย็นและมีกระทะไฟฟ้านะคะเพราะเราจะมีส่วนผสมของวิปครีมและคาราเมลด้วย ส่วนวัตถุดิบที่จะต้องใช้ก็จะมีกล้วยหอมสุก, วิปปิ้งครีม, โอริโอ้หรือบิสกิต, เนยจืด, น้ำตาล, นมข้นหวาน, ผงโกโก้สำเร็จรูป และน้ำเปล่า

ส่วนวิธีการทำเราก็ต้องเริ่มจากการนำตะกร้อมือและภาชนะเหล็กที่จะใช้ตีวิปปิ้งครีมไปแช่แข็งให้เย็นเจี๊ยบก่อนค่ะ ระหว่างนั้นเราจะละลายเนยด้วยไมโครเวฟก่อน ต่อมาก็บดแครกเกอร์ให้ละเอียด นำเนยและน้ำตาลมาผสมกับแครกเกอร์ให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วใส่ลงภาชนะที่ต้องการ

นำแครกเกอร์ไปแช่เย็นให้เซตตัวก่อน จากนั้นก็กลับมาทำซอสคาราเมลโดยเริ่มจากเทน้ำตาลและน้ำเปล่าในปริมาณเท่า ๆ กันลงในกระทะไฟฟ้าแล้วเปิดไฟอ่อน ๆ ค่อย ๆ เอียงกระทะไปเรื่อย ๆ ระหว่างรอน้ำตาลละลายเราจะนำวิปครีมส่วนหนึ่งมาอุ่นในไมโครเวฟจนร้อน หลังจากน้ำตาลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีคาราเมลหรือสีน้ำตาลอ่อน ๆ แล้วปิดกระทะแล้วค่อย ๆ นำวิปปิ้งครีมร้อน ๆ ใส่ลงไปทีละนิดพร้อมกับคนส่วนผสมในกระทะไปเรื่อย ๆ ใส่นมข้นหวานเพิ่มความหวานละมุนลงไปอีกหน่อยแล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

จากนั้นนำแครกเกอร์ที่แช่เย็นไว้ออกมาแล้วราดคาราเมลลงครึ่งหนึ่ง เกลี่ยให้ทั่ว หั่นกล้วยวางลงไปแล้วราดคาราเมลที่เหลือตามลงไป พักให้หายร้อนเล็กน้อยแล้วนำกลับไปแช่เย็น ตอนนี้เราจะหยิบภาชนะและตะกร้อมือออกมาตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาและพลังแขนหน่อยนะคะ หลังจากตีจนวิปปิ้งครีมตั้งยอดแล้วนำบานอฟฟี่ออกมาแล้วโปะวิปครีมลงไปให้ทั่ว โรยหน้าด้วยผงโกโก้แล้วนำกลับไปแช่เย็นให้วิปครีมเซตตัวก่อนนำมาทาน เมนูนี้อาจจะใช้เวลาสักหน่อยแต่รับรองว่าอร่อยชื่นใจแน่นอนค่ะ


14. บราวนี่

ใครไม่มีตู้เย็นและเครื่องครัวครบมือก็ไม่ต้องน้อยใจไปเพราะมีหม้อหุงข้าวใบเดียวก็สามารถเสกขนมหวานยอดฮิตอย่างบราวนี่ได้แล้ว ขอบอกว่าใครที่กำลังลดน้ำหนักต้องมีตบะแตกแน่นอนเพราะสูตรที่เรานำมาแบ่งปันนั้นง่ายอย่างกับปอกกล้วยเข้าปาก สิ่งที่เพื่อน ๆ ต้องเตรียมก็มีแค่ไข่ไก่, แป้งสาลี, ช็อกโกแลต, ผงโกโก้, น้ำตาล, เกลือ และเนยจืด ได้วัตถุดิบมาครบแล้วก็ไปดูวิธีทำกันได้ที่ เมนูจากหม้อหุงข้าว: บราวนี่ ได้เลยจ้า รับรองว่าบราวนี่หอม ๆ หวาน ๆ แต่แอบเข้มข้นไปด้วยรสช็อกโกแลตจะทำให้เพื่อน ๆ ฟินจนยั้งมือไม่อยู่แน่นอน หรือใครทำแล้วกลัวจะทานไม่หมดก็ยังสามารถนำไปแบ่งเพื่อน ๆ หรือทำขายได้อีกด้วยนะเธอ


15. กล้วยบวชชี

เปลี่ยนมาทำขนมหวานแบบไทย ๆ กันบ้าง กล้วยบวชชีเป็นอีกหนึ่งเมนูกล้วย ๆ ที่ทำง่ายและใช้อุปกรณ์น้อย เพียงแค่เพื่อน ๆ มีหม้อหุงข้าวหรือกระทะไฟฟ้าก็สามารถทำได้แล้วค่ะ สิ่งที่เราจะต้องมีก็คือกล้วยน้ำว้าสุก, กะทิกล่องสำเร็จรูป, น้ำตาล และเกลืออีกนิดหน่อย ในเมื่อมีวัตถุดิบพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำกล้วยบวชชีกันเลยค่ะ

ขั้นตอนแรกเราจะนำกล้วยมาปอกเปลือก ผ่าครึ่งตามความยาวของกล้วยแล้วหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำพักไว้ หันมาเทกะทิใส่หม้อหุงข้าวแล้วกดเปิดทำงาน รอจนกะทิเริ่มร้อนแล้วเพิ่มรสชาติด้วยน้ำตาลและเติมเกลือเพื่อตัดรสชาติอีกเล็กน้อย ระหว่างต้มกะทิพยายามคนน้ำกะทิเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กะทิแตกมันรอจนกะทิเดือดแล้วนำกล้วยใส่ลงไป คนจนกะทอเดือดอีกครั้งแล้วชิมรสชาติให้มีรสหวานนำและเค็มตามหน่อย ๆ ก็เป็นอันใช้ได้แล้วค่ะ ตักกล้วยบวชชีใส่ถ้วยให้สวยงามแล้วถ่ายรูปสักแชะ โพสต์ลงโซเชียลเรียกแขกสักหน่อย รับรองว่าเพื่อน ๆ เห็นแล้วต้องน้ำลายสอแน่นอน


เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเมนูเด็กหอที่เรานำมาฝากถึง 15 เมนูคาวหวานจุก ๆ เห็นอย่างนี้แล้วเพื่อน ๆ รู้สึกฮึดสู้อยากจะไปเข้าหอไปลองทำอาหารกันแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ช้าก่อนค่ะ เราจะมีชีวิตรอดได้อย่างไรหากไร้ซึ่งอาวุธยุทโธปกรณ์? ดังนั้นเราไปตำอาวุธกันได้ที่ มัดรวมเครื่องครัวสำหรับเด็กหอ ส่วนห้องใครมีพื้นที่กว้างและสามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้เราก็แนะนำ ตู้เย็นราคาไม่เกิน 5,000 บาท เพื่อความสะดวกสบายในการทำอาหารของเราค่ะ ไหน ๆ ก็มีทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและตู้เย็นพร้อมแล้วก็ลอง ๆ แวะมาหาเรฟเฟอเร้นท์เมนูเด็ด ๆ เตรียมไว้สักหน่อยดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเมนูจากหมู, เมนูจากผักเมนูจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, เมนูจากปลาทูน่าประป๋อง, เมนูจากไข่ต้ม, เมนูกับแกล้ม, สูตรหมักหมูกระทะ, สูตรน้ำจิ้ม, หรือ เมนูสำหรับมือใหม่ ก็มีนะจ๊ะหนู ๆ ลองเข้าไปดูแล้วเอามาอะแด๊ปกับเครื่องครัวที่เรามีเนาะ รับรองว่าการอยู่หอของเราจะไม่น่าเบื่อแน่นอนค่ะ

ยิ่งทำอาหารเป็น ยิ่งมีเครื่องครัวครบมือแล้วนอกจากอิ่มท้องแล้วยังมัดใจเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย แต่ใด ๆ ก็อย่าลืมนึกถึงในเรื่องของเสียงและกลิ่นด้วยเด้อ เดี๋ยวจะโดนห้องข้าง ๆ คอมเพลนเพราะเราทำกับข้าวกลิ่นหอมเกินไป