สูตรเมนูจากเห็ด อร่อยง่าย ๆ ดีต่อสุขภาพ กินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ

เห็ด นับเป็นราชั้นสูงที่เกิดขึ้นบนโลกนี้มายาวนานหลายพันปีแล้วค่ะ ต้นของเห็ดจะฝังตัวอยู่ภายใต้พื้นดินหรือพื้นผิวต่าง ๆ ที่มีอากาศชื้น ส่วนที่งอกออกมาจะเป็นดอกหรือที่เราเรียกกันว่าเห็ด ซึ่งดอกเห็ดก็มีหน้าที่เหมือนดอกไม้ทั่วไป นั่นก็คือภายในดอกเห็ดจะมีสิ่งที่เรียกว่า “สปอร์” ซ่อนอยู่ภายในร่องครีบใต้หมวกเห็ด เมื่อมีสมพัดผ่านมา ลมเหล่านั้นก็จะพัดเอาสปอร์ลอยไปตามไปตกอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ และเนื่องจากสปอร์มีขนาดล็กจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและมีน้ำหนักเบามาก ดังนั้นเห็ดจึงสามารถล่องลอยไปตามลมและเจริญงอกงามได้ในพื้นที่ห่างใกลเกินกว่าที่เราจะคาดถึง แต่สภาพแวดล้อมที่จะทำให้เห็ดเจริญเติบโตได้ดีที่สุดคือพื้นที่ชื้น มืด และมีอุณหภูมิต่ำ อากาศชื้น ตั้งแต่ป่าดงดิบบนเทือกเขาสูงไปจนถึงมุมอับเล็ก ๆ ภายในบ้านของคุณ

เราสามารถแบ่งเห็ดได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ นั่นก็คือเห็ดชนิดที่สามารถรับประทานได้และเห็ดชนิดที่มีพิษไม่สามารถนำมารับประทานได้ หากมองแค่ลักษณะภายนอกจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเห็ดชนิดใดบ้างที่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ ดังนั้นคุณควรเลือกซื้อเห็ดจากแห่งที่สามารถเชื่อถือได้อย่างตลาดหรือห้างสรรพสินค้า ไม่ควรเก็บเห็ดที่ไม่รู้จักมาทานเองเด็ดขาดเพราะเห็ดบางชนิดมีพิษร้ายแรงถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะเห็ดที่มีสีฉูดฉาดและมีลักษณะสวยงาม

เห็ดที่สามารถทานได้อย่างปลอดภัยที่เรารู้จักจะมีเห็ดนางฟ้า, เห็ดฟาง, เห็ดออรินจิ, เห็ดเข็มทอง, เห็ดชิเมจิ, เห็ดไมตาเกะ, เห็ดมัตสึตาเกะ, เห็ดกระดุม หรือเห็ดทรัฟเฟิล ซึ่งเห็ดถือว่าเป็นเพื่อนซี้สำหรับคนที่ลดน้ำหนักเพราะเห็ดเต็มไปด้วยโปรตีนและเมือกลื่นที่จะช่วยเคลือบกระเพาะอาหารและช่วยให้ขับถ่ายสะดวกมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเห็ดมีไขมัน 0% ไม่มีคอเลสเตอรอล แถมเห็ดหลาย ๆ ชนิดยังมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกายอีกด้วยค่ะ รู้อย่างนี้แล้วหลาย ๆ คนคงรู้สึกอยากทานเห็ดขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะคะ อย่ารอช้า เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเห็ดสามารถนำมาประกอบเป็นเมนูอะไรได้บ้าง

สูตรเมนูอาหารจากเห็ด

1. ซุปเห็ด

เริ่มต้นกันที่ซุปเห็ดหอมกรุ่นในเช้าวันใหม่ วันนี้เราจะใช้เห็ดแชมปิญองสดเนื้อขาวแน่น นำมาผัดและปรุงรสชาติ นำไปปั่นจนได้เนื้อเนียนละเอียดแล้วนำมาผสมกับครีมสดเพื่อเปลี่ยนเห็ดผัดธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นซุปครีมเนื้อเนียน สำหรับซุปครีมเห็ดของเราจะเข้มข้นแต่สัมผัสเบา ๆ ไม่หนักอย่างที่คิด รสชาติจะมัน ๆ เค็ม ๆ และมีความหวานอ่อน ๆ เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังกระเทียมหรือขนมปังปิ้งกรอบ ๆ ก่อนทานก็จิ้มขนมปังลงไปในซุปสักหน่อย สัมผัสก็จะร้อน ๆ กรอบ ๆ ฟินสุด ๆ เหมาะกับมื้อเช้าสไตล์ฝรั่งม๊ากกกกก

วัตถุดิบซุปเห็ด

  • เห็ดแชมปิญองหรือเห็ดกระดุมสด
  • หอมใหญ่
  • เกลือ
  • พริกไทยป่น
  • เนยจืด
  • ครีมสด
  • ซุปก้อน
  • น้ำเปล่า

วิธีทำซุปเห็ด

ขั้นตอนแรกเราจะนำเห็ดมาล้างทำความสะอาดก่อนค่ะ เราจะใช้เห็ดเยอะหน่อยนะคะเพราะตอนสุกแล้วเห็ดจะหดเหลือแค่นิดเดียวเท่านั้น เสร็จแล้วนำเห็ดมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามด้วยหอมใหญ่หั่นเป็นชิ้นเท่า ๆ กันเลยนะคะ เสร็จแล้วหันมาหยิบกระทะขึ้นตั้งไฟกลางค่อนแรงแล้วนำเนยลงไปผัดจนละลายดีเลยค่ะ เมื่อเนยละลายดีแล้วนำหอมใหญ่ลงไปผัดจนสุกใส ตามด้วยเห็ด สำหรับห็ดเราจะแบ่งใส่ทีละครึ่งจะได้ง่ายต่อการผัดนะจ๊ะ ผัดจนเห็ดครึ่งแรกสุกยุบแล้วนำส่วนที่เหลือลงผัดต่อ หลังจากเห็ดเริ่มสุกแล้วเราจะปรุงรสด้วยซุปก้อน, เกลือนิดหน่อย และพริกไทยอีกเล็กน้อย ตอนผัดไปเรื่อย ๆ น้ำที่อยู่ในเห็ดจะค่อย ๆ ออกมาเองค่ะ เมื่อเห็ดสุกได้ที่แล้วปิดเตาก่อน ตักเห็ดใส่เครื่องปั่นแล้วปั่นจนได้เนื้อเนียนละเอียดเลยค่ะ นำเห็ดกลับมาผัดอีกครั้ง คราวนี้เราจะเพิ่มความเข้มข้นด้วยครีมสด ตัดความเข้มด้วยน้ำเปล่าอีกเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วลองชิมรสชาติให้มีความมัน ๆ ออกเค็มเล็กน้อย และได้รสหวานจากหอมใหญ่ ถ้าได้รสชาติที่ใช่แล้วปิดเตา ตักใส่ภาชนะแล้วเสิร์ฟตอนที่ยังร้อน ๆ ได้เลยค่ะ


2. ข้าวอบเห็ด

ใครไม่ชอบทานซุปหันมาทานข้าวอบเห็ดร้อน ๆ จากเตากันดีกว่าค่ะ สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ทานอาหารเจหรือมังสวิรัติ เราจะเริ่มจากนำเห็ดมาแช่น้ำจนนิ่ม จากนั้นเตรียมผักและสมุนไพรให้พร้อม นำวัตถุดิบทั้งหมดรวมถึงข้าวมาผัดรวมกันจนสุก สำหรับข้าวเราจะใช้ข้าวหอมมะลิที่มีจุดเด่นที่ความนุ่มและความหอม ปรุงรสให้มีความเค็มนิด ๆ หวานหน่อย ๆ เน้นความอร่อยและรสอูมามิจากเห็ด หลังจากนำไปอบจนข้าวสุกดีแล้วข้าวจะฟูขึ้น ดูดซับเอารสชาติและความอร่อยเข้าไปเก็บไว้ในเมล็ดข้าวและปล่อยรสชาติเหล่านั้นออกมาตอนเคี้ยว ผักต่าง ๆ มีรสชาติหวานและหอมกรุ่น

วัตถุดิบข้าวอบเห็ด 

  • ข้าวสาร
  • ขิง
  • กระเทียม
  • แครอท (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
  • ผักชี
  • เห็ด (ใช้เห็ดอะไรก็ได้ค่ะ แต่ถ้าอยากให้หอมน่ารับประทาน แนะนำเป็นเห็ดหอมแห้งค่ะ)
  • เกลือ
  • พริกไทยป่น
  • ซีอิ๊วขาว
  • ซีอิ๊วดำ
  • น้ำเปล่า
  • น้ำมันพืช

วิธีทำข้าวอบเห็ด 

ก่อนจะทำอย่างอื่นเราต้องนำเห็ดหอมมาแช่น้ำให้นิ่มก่อนค่ะ จากนั้นหยิบกระเทียม, ขิง, ผักชี และแครอทมาล้างให้สะอาดหมดจด ตัดรากผักชีมาขูดเอาเปลือกสีน้ำตาลออกให้เกลี้ยงแล้วซอยให้ละเอียด ตามด้วยกระเทียมและขิง ส่วนแครอทจะนำมาปอกเปลือกและหั่นเต๋าเล็ก ๆ เตรียมไว้ หยิบเห็ดหอมที่นิ่มได้ที่แล้วมาบีบน้ำออก เก็บน้ำแช่เห็ดไว้ก่อน ส่วนเห็ดเราจะนำมาตัดขาแล้วหั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้ จากนั้นหยิบกระทะขึ้นตั้งเตา เปิดไฟกลาง ๆ แล้วใส่น้ำมันมันลงไปพอเคลือบหน้ากระทะ นำรากผักชี, ขิง และกระเทียมลงผัดให้หอมก่อน ตามด้วยแครอทและเห็ดหอม ผัดจนแครอทและเห็ดหอมสุกล้างข้าวสารแล้วตักเอาเฉพาะเมล็ดข้าวใส่ลงในกระทะ ผัดจนเมล็ดข้าวเริ่มขุ่นเล็กน้อยเราจะปรุงรสด้วยเกลือ, พริกไทยป่น, ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน ขณะเดียวกันก็เตรียมเตานึ่งให้ร้อน

หลังจากเมล็ดข้าวเริ่มขุ่นและเครื่องปรุงทุกอย่างเข้ากันดีแล้วเราจะปิดเตา ตักข้าวใส่ภาชนะทนความร้อน เทน้ำที่ใช้แช่เห็ดหอมกลับลงไป เทแค่ให้นำพอท่วมข้าวก็พอค่ะ เทเยอะไปข้าวจะแฉะ จากนั้นนำภาชนะเข้าหม้อนึ่ง นึ่งไฟกลางค่อนแรงประมาณ 35 – 40 นาทีขึ้นอยู่กับความหนาและปริมาณของข้าว ครบเวลาแล้วนำข้าวออกมาเปิดฝาระบายความร้อนเล็กน้อย ตกแต่งด้วยใบผักชีเพิ่มความสวยงามก่อนจะเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมภาชนะ


3. ห่อหมกเห็ด

เปลี่ยนจากข้าวมาเป็นกับข้าวบ้าง ห่อหมกดูจะเป็นเมนูยอดฮิตที่ถูกใจใครหลาย ๆ คนเนื่องจากรสชาติเผ็ดร้อนช่วยกระตุ้นให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น ส่วนเพื่อน ๆ ที่ยังคิดไม่ตกว่าวันนี้จะทำห่อหมกอะไรเราขอแนะนำห่อหมกเห็ดเลยค่ะ สูตรนี้จะเป็นผักล้วน ๆ ไม่มีเนื้อสัตว์ผสมเลยแม้แต่น้อย เหมาะสำหรับคนที่กำลังงดเนื้อสัตว์และมองหาเมนูจัดจ้านทาน ส่วนเห็ดที่ใช้ก็สามารถเลือกได้ตามความชอบอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเห็ดนางฟ้า, เห็ดออรินจิ, เห็ดเข็มทอง หรือเห็ดฟางก็สามารถทำได้จ้า เพียงแค่นำเห็ดมาผสมกับพริกแกงเผ็ดและน้ำกะทิ เพิ่มรสชาติอีกเล็กน้อยแล้วนำไปนึ่งจนสุก ใช้เวลาไม่นานห่อหมกเห็ดของเราก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ ตอนที่เพิ่งออกจากหม้อนึ่งใหม่ ๆ นี่ขอบอกว่าหอมมาก ได้กลิ่นพริกแกงแล้วยอมรับสดชื่นจริง ๆ แต่แค่นี้ยังไม่พอเพราะจะใส่ใบโหระพาเพิ่มความหอมฟุ้งเข้าไปอีก

วัตถุดิบห่อหมกเห็ด

  • ไข่ไก่
  • เห็ดตามชอบ
  • กะหล่ำปลี
  • ใบโหระพา
  • พริกชี้ฟ้า
  • พริกแกงเผ็ด
  • น้ำตาล
  • น้ำปลา
  • กะทิ

วิธีทำห่อหมกเห็ด

เรามาเริ่มจากเตรียมหม้อนึ่งให้ร้อนก่อนเลยค่ะ ระหว่างนั้นนำกระดาษอเนกประสงค์ชุบน้ำให้เปียกหมาด ๆ แล้วเช็ดเอาคราบสกปรกต่าง ๆ ออกจากเห็ดให้เรียบร้อย นำเห็ดมาฉีกหรือปั่นเป็นชิ้น ๆ ตามความชอบ ส่วนตัวแล้วหากใครชอบให้มีเนื้อสัมผัสของเห็ดเหลืออยู่ให้หันหรือปั่นพอหยาบ ๆ ค่ะ ส่วนกะหล่ำปลีเราจะซอยและลวกเตรียมไว้สำหรับรองก้นห่อหมกจ้า ต่อมาเราจะนำพริกแกงมาผสมกับไข่ไก่และกะทิพอประมาณ เพิ่มรสชาติด้วยน้ำตาลและน้ำปลาอย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วคนผสมทุกอย่างให้เข้ากันเลยค่ะ คนจนน้ำตาลละลายดีเลยนะคะ จากนั้นนำเห็ดที่ฉีกไว้ลงผสมกับพริกแกงแล้วคนเบา ๆ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน เสร็จแล้วหยิบกะหล่ำปลีมาบีบน้ำออกแล้วรองก้นภาชนะบาง ๆ ไม่ต้องหนามาก ตามด้วยเนื้อห่อหมกที่ผสมไว้ ใส่เนื้อห่อหมกจนเกือบเต็มภาชนะเลยนะคะ อย่าลืมเกลี่ยให้เท่า ๆ กันด้วยน้าาา จากนั้นนำถ้วยห่อหมกของเราไปนึ่งจนสุกดีเลยค่ะ นำออกมาตกแต่งด้วยใบโหระพาและพริกชี้ฟ้าซอยก่อนเสิร์ฟอีกเล็กน้อย สวยงามน่ารับประทาน


4. ทอดมันเห็ด

มาถึงคิวของทานเล่นอย่างทอดมันแล้ว วันนี้เราจะมาชวนเพื่อน ๆ ทำทอดมันเห็ดทานกัน ขอบอกว่าสูตรนี้อร่อยและเด็ดสุด ๆ เราจะใช้เห็ดเข็มทองเป็นส่วนผสมหลัก นำมาผสมกับไข่ไก่และพริกแกง เพิ่มความหอมอร่อยด้วยใบมะกรูดและถั่วฝักยาวซอย จากนั้นนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ตอนทอดเสร็จใหม่ ๆ นี่ทอดมันหอมมาก ๆ มันหอมพริกแกงและใบมะกรูดสุด ๆ เลยค่ะ ตอนกัดลงไปกลิ่นหอมของพริกแกงจะหอมฟุ้ง ได้รสชาติเค็ม ๆ หวาน ๆ พร้อมเนื้อเห็ดกรุบ ๆ มีถั่วฝักยาวให้ได้เคี้ยวอีก ถั่วฝักยาวเมื่อสุกแล้วก็จะมีรสชาติหวานและไม่เหม็นเขียว จิ้มน้ำจิ้มบ๊วยหรือน้ำจิ้มอาจาดเข้ากันมาก ๆ

วัตถุดิบทอดมันเห็ด

  • ไข่ไก่
  • เห็ดเข็มทอง (หรือเห็ดอะไรก็ได้ตามใจชอบ)
  • ถั่วฝักยาว
  • ใบมะกรูด
  • แป้งทอดกรอบ
  • พริกแกงเผ็ด
  • น้ำตาล
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำเย็น
  • น้ำมันพืช

วิธีทำทอดมันเห็ด

เรามาเริ่มกันเลยค่ะ ขั้นตอนแรกเราจะนำเห็ดเข็มทองมาหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ ก่อน หรือจะปั่นให้เป็นเนื้อเนียนละเอียดหน่อยก็ได้ค่ะ ทอดมันออกมาจะได้มีหน้าตาสวยงาม จากนั้นตามด้วยซอยใบมะกรูดและถั่วฝักยาวเตรียมไว้ หันมาตักแป้งทอดกรอบใส่ภาชนะ ตามด้วยไข่ไก่และน้ำเย็นจัด ละลายส่วนผสมในภาชนะให้เข้ากันก่อน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาล คนจนน้ำตาลลพลายแล้วใส่เห็ด, ใบมะกรูด และถั่วฝักยาวตามลงไป คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีเลยค่ะ ตั้งกระทะเปิดไฟกลางค่อนอ่อน ใส่น้ำมันลงไปเยอะหน่อย รอจนน้ำมันเพิ่มร้อนแล้วเราจะตักทอดมันมาปั้นเป็นก้อนแล้วตบให้แบน ๆ เล็กน้อย นำลงทอดพลิกไปพลิกมาจนสุกได้ที่ ตักขึ้นมาพักไว้ เคล็ดลับในการทอดของทอดมันให้ออกมาสีสวยคือต้องใช้ไฟกลางค่อนอ่อนอยู่ตลอดเวลาค่ะ ถ้าไฟแรงมากจนเกินไปทอดมันจะไหม้เป็นจุด ๆ ดูไม่น่ารับประทาน ทอดมันสุกดีแล้วตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันแล้วจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย แต่หากเพื่อน ๆ อยากทอดแบบไม่ใช้น้ำมันก็สามารถใช้หม้อทอดไร้น้ำมันแทนได้นะคะ


5. ลาบเห็ด

หันมาทานของแซ่บกันบ้าง ลาบเห็ดเป็นอีกหนึ่งเมนูแซ่บที่เราอยากให้คุณลองมาก ๆ เลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่กำลังเบื่อลาบหมูหรือลาบไก่มาก ๆ วัตถุดิบหลักสำหรับเมนูนี้คือเห็ดนานาชนิดที่เพื่อน ๆ สามารถเลือกทานได้ตามใจชอบ ใครถนัดเห็ดเข็มทอง, เห็ดนางฟ้า, เห็ดชิเมจิ, เห็ดออรินจิ, เห็ดหูหนู หรือจะนำทุกเห็ดมามิกซ์รวมกันก็จัดไปโลดนำมาปรุงให้แซ่บทั้งพริก, ข้าวคั่ว และน้ำมะนาว รสชาติเผ็ด, เปรี้ยว, เค็ม และหวานครบรส ทานเข้าไปเห็ดก็จะกรุบ ๆ หนึบหนับและหอมผักชีฝรั่งและสะระแหน่สุด ๆ

วัตถุดิบลาบเห็ด

  • เห็ดตามชอบ
  • หอมแดง
  • สะระแหน่
  • ผักชีฝรั่ง
  • พริกป่น
  • ข้าวคั่ว
  • น้ำตาล
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
  • น้ำเปล่า

วิธีทำลาบเห็ด

ขั้นตอนแรกเราจะต้มน้ำให้ร้อนก่อนค่ะ จากนั้นนำเห็ดที่เลือกมาลวกจนนิ่มลงแล้วตักขึ้นมาพักในน้ำเย็นเพื่อหยุดความร้อนประมาณ 5 นาทีแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ ระหว่างรอหันมาซอยผักชีฝรั่งและหอมแดงเตรียมไว้ เสร็จแล้วหันมาผสมลาบโดยการผสมพริกป่น, หอมแดง, น้ำตาล, น้ำปลา และน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน คนจนน้ำตาลละลายดีแล้วชิมรสชาติตามชอบ จากนั้นตามด้วยเห็ดและผักชีฝรั่ง คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วโรยข้าวคั่วปิดท้ายเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวคั่วพองอืด ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่แล้วเสิร์ฟได้เลยค่ะ


6. ยำเห็ดรวม

มีลาบแล้วก็ต้องมีเมนูยำถึงจะครบเครื่อง ออกไปเดินตลาดสวย ๆ ช็อปเห็ดมาสักหนึ่งตะกร้าใหญ่ ๆ แล้วนำมาลวกจนนิ่ม หันมาปรุงน้ำยำให้มีรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวาน จากนั้นนำเห็ดลงมาผสมคลุกเคล้าแล้วโรยหน้าด้วยคึ่นฉ่ายหอม ๆ เมนูนี้เด็ดสุด ๆ กัดเข้าไปแล้วเห็ดจะยังมีความกรุบและหนึบ ๆ ไม่เหนียว ไม่มีกลิ่นเห็ดและมีความหวานออกมาเล็กน้อย น้ำยำแซ่บซี๊ด ทั้งมะเขือเทศเปรี้ยว ๆ และหอมใหญ่หวาน ๆ เป็นอะไรที่ลงตัวสุด ๆ ชิมไปชิมมารู้ตัวอีกทียำเห็ดของเราก็หมดเกลี้ยงแล้วจ้า

วัตถุดิบยำเห็ดรวม

  • เห็ดตามชอบ
  • มะเขือเทศ
  • หอมใหญ่
  • พริกขี้หนูสด
  • คึ่นฉ่าย
  • น้ำตาล
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
  • น้ำเปล่า

วิธีทำยำเห็ดรวม

วิธีการทำยำง่ายมาก ๆ เลยค่ะ ขั้นตอนแรกเราจะนำเห็ดไปลวกให้สุกแล้วนำมาพักให้สะเด็ดน้ำก่อน จากนั้นเราก็จะมั่นมะเขือเทศและหอมใหญ่เตรียมไว้ หั่นคึ่นฉ่ายและตำพริกให้แหลก หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้วเราจะมาทำน้ำยำกันต่อ เริ่มจากผสมน้ำตาล, น้ำปลา, น้ำมะนาว และพริกเข้าด้วยกัน คนจนน้ำตาลละลายดีแล้วชิมรสชาติตามชอบ จากนั้นใส่เห็ด, หอมใหญ่ และมะเขือเทศ คนผสมจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วชิมรสชาติอีกครั้ง ปรุงเพิ่มตามชอบ ถ้าได้รสชาติโดนใจแล้วโรยหน้าด้วยคึ่นฉ่ายแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยจ้า


7. ตำเห็ดเข็มทองกรอบ

มีลาบ มียำแล้วก็จัดส้มตำอีกสักหน่อยละกัน แต่เบื่อเส้นมะละกอแล้วลองเอาเห็ดมาทำส้มตำบ้างดีกว่า เมนูอาจจะไม่นัวปลาร้าเหมือนส้มตำชนิดอื่น ๆ แต่รับรองว่าเพื่อน ๆ จะต้องติดใจแน่นอนค่ะเพราะเราจะนำเห็ดเข็มทองไปคลุกแป้งแล้วทอดจนเหลืองทอง จากนั้นปรุงรสน้ำส้มตำให้เผ็ด หวาน และเปรี้ยวครบรส เน้นความเปรี้ยวจากทั้งมะนาวและน้ำมะขามเปรียก ก่อนทานตักราดลงบนเห็ดเข็มทองทีละน้อย ๆ เห็ดเข็มทองก็จะกรอบ ๆ เข้ากับรสชาติเผ็ด ๆ หวาน ๆ เปรี้ยว ๆ จากน้ำส้มตำค่ะ ตอนเคี้ยวนี่ฟินสุด ๆ ไปเลย

วัตถุดิบตำเห็ดเข็มทองกรอบ

  • เห็ดเข็มทอง
  • ถั่วฝักยาว
  • มะเขือเทศ
  • กระเทียม
  • พริกจินดาแดง
  • แป้งทอดกรอบ
  • ถั่วลิสงคั่ว
  • น้ำตาล
  • น้ำปลา
  • น้ำมะนาว
  • น้ำมะขามเปียก
  • น้ำมันพืช

วิธีทำตำเห็ดเข็มทองกรอบ

ขั้นตอนแรกเราจะนำเห็ดเข็มทองมาตัดเอาส่วนโคนที่ติดกับเชื้อเห็ดออกก่อนค่ะ จากนั้นฉีกให้ร่วนออกจาากันแล้วพรมน้ำบาง ๆ โรยแป้งทอดกรอบลงไปแล้วคลุกเคล้าเบา ๆ ให้แป้งทอดกรอบติดกับเห็ดจนทั่ว เสร็จแล้วตั้งกระทะบนเตาแล้วเปิดไฟกลาง ๆ ใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อนเราก็นำเห็ดลงทอดได้เลยค่ะ พลิกไปพลิกมาแปปเดียวเห็ดก็เหลืองกรอบสวยแล้วค่ะ ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันไว้ก่อน ต่อมาก็จะเป็นในส่วนของส้มตำ เริ่มจากตำพริกและกระเทียมให้แหลกก่อน จากนั้นหักถั่วฝักยาวตามลงไปแล้วตำให้พอแหลก ปรุงรสด้วยน้ำตาล, น้ำปลา, น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาวแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน หั่นมะเขือเทศเป็นแว่นแล้วใส่ลงในครกตามด้วยถั่วลิสง บี้ให้มะเขือเทศพอแตกแล้วชิมรสชาติก่อนค่ะ ถ้ารสชาติโอเคแล้วก็ตักใส่ถ้วยแล้วเสิร์ฟพร้อมเห็ดเข็มทองทอดได้เลยค่ะ


8. แกงเปรอะเห็ด

ทานลาบทานส้มตำมาเยอะแล้วมาทำอีกสักหนึ่งเมนูต้มเอาไว้ซดร้อน ๆ ให้คล่องคออีกสักหน่อย แล้วอะไรมันจะเข้าขากันได้ดีไปกว่าแกงเปรอะอีกล่ะ แกงเปรอะนี่เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารอีสานที่เต็มไปด้วยประโยชน์และความอร่อย คราวนี้เราจะเลือกเห็ดที่มีเนื้อเยอะ ๆ อย่างเห็ดออรินจิหรือเห็ดฟางมาเป็นวัตถุดิบหลัก แซมด้วยเห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองอีกเล็กน้อย นำมาต้มกับน้ำใบย่านางและสมุนไพรอ่อน ๆ อีกมากมายจนนับไม่ถูก ปรุงรสให้แซ่บซี๊ดจัดจ้านทั้งเผ็ด เค็ม และหวาน ทำเสร็จใหม่ ๆ ซดร้อน ๆ ให้คล่องคอ ยิ่งได้เครื่อดื่มซูซ่าอีกสักแก้วสองแก้วจะลงตัวสุด ๆ สามารถตามไปดูวัตถุดิบและวิธีทำอย่างละเอียดได้ที่ เมนูอาหารอีสาน: แกงเปรอะ


9. สามชั้นพันเห็ดเข็มทอง

เปลี่ยนบรรยากาศมาทำเมนูกับแกล้มฟิน ๆ บ้าง มาเปิดครัวทำสามชั้นพันเห็ดเข็มทองซ้อมไว้สำหรับปาร์ตี้ครั้งถัดไปกันดีกว่าค่ะ เราจะเลือกใช้หมูสามชั้นสไลซ์บาง ๆ นำมาหมักด้วยเกลือ, พริกไทย และซีอิ๊วขาวให้หมูมีรสชาติอ่อน ๆ ไม่จืดชืด จากนั้นหยิบเห็ดออกมาแบ่งเป็นช่อ ๆ แล้วนำหมูมาพันเห็ดให้สวยงาม ตอนนำหมูขึ้นเตาย่างจะมีเสียงซู่ซ่าฟังแล้วมีความสุขสุด ๆ ย่างไปเรื่อย ๆ มันหมูจะเริ่มไหลออกมา เห็ดจะนุ่มและหอมสุด ๆ หมูกรอบได้ที่แล้วนำมาจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือน้ำจิ้มสุกี้ก็อร่อยสุด ๆ ไปเลยค่ะ ฟินม๊ากกก

วัตถุดิบสามชั้นพันเห็ดเข็มทอง

  • หมูสามชั้นสไลซ์
  • เห็ดเข็มทอง
  • เกลือ
  • พริกไทยป่น
  • ซีอิ๊วขาว

วิธีทำสามชั้นพันเห็ดเข็มทอง

ขั้นตอนการทำเบคอนพันเห็ดเข็มทองง่ายมาก ๆ เลยค่ะ ก่อนอื่นเราจะหมักหมูกันก่อนค่ะ ส่วนหมูเราจะเลือกสามชั้นสไลซ์บาง ๆ นำมาหมักกับเกลือ, พริกไทยป่น และซีอิ๊วขาวเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วหมักไว้ประมาณ 30 นาทีค่ะ จากนั้นนำเห็ดเข็มทองมาตัดโคนส่วนที่ใกล้กับเชื้อเห็ดก่อน นำเห็ดมาแบ่งเป็นช่อเล็ก แล้วนำสามชั้นที่หมักไว้มาพันโคนเห็ดไว้เลยค่ะ ไม่ต้องพันหนามากนะคะเดี๋ยวเนื้อด้านในไม่สุก กลัดไม้จิ้มฟันเพื่อยึดให้หมูไม่หลุดออกจากกัน พันจนครบหมดแล้วเตรียมเตาย่างให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ๆ แล้วนำเบคอนพันเห็ดเข็มทองของเราลงไปย่างเลยค่ะ ค่อย ๆ ย่าง ค่อย ๆ พลิกไปเรื่อย ๆ จนหมูสุกกรอบดีแล้วหยิบใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยจ้า


10. แหนมเห็ด

ปิดท้ายด้วยวิธีการถนอมอาหารแบบไทย ๆ อย่างแหนม สำหรับแหนมนี่เราสามารถนำเนื้อสัตว์หรือเห็ดมาทำเป็นแหนมได้เลยค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะนำเห็ดที่เราชอบมาแปรรูปเป็นแหนมเก็บไว้ทานได้นาน ๆ แหนมของเราจะมีรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ หอมกลิ่นกระเทียมหน่อย ๆ ในหนึ่งคำมีพริกสดมาให้แบบครบเครื่องพร้อมทาน จะนำมาทานสด ๆ หรือนำไปยำก็อร่อยสุด ๆ แถมทำครั้งเดียวยังเก็บไว้ทานได้นานอีกด้วยค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบทานแหนมสุด ๆ

วัตถุดิบแหนมเห็ด

  • เห็ดตามชอบ
  • พริกขี้หนูสด
  • กระเทียม
  • ข้าวเหนียวหุงสุก
  • เกลือ

วิธีทำแหนมเห็ด

ก่อนอื่นเราจะนำเห็ดมาตัดเอาโคนที่ติดกับเชื้อเห็ดออกแล้วฉีกเห็ดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แนะนำให้ใช้เห็ดนางฟ้า, เห็ดนางรม, เห็ดเข็มทอง หรือเห็ดที่มีเนื้ออ่อนนุ่มนะคะ ไม่แนะนำให้ใช้เห็ดออรินจิหริเห็ดชิเมจิเพราะเนื้อหนาและไม่เกาะติดกันค่ะ จากนั้นนำเห็ดที่ฉีกเสร็จเรียบร้อยแล้วไปล้างเอาเศษดินหรือคราบสกปรกออกแล้วนำมานึ่งจนเห็ดสุกก่อนค่ะ จากนั้นนำมาล้างน้ำอีกครั้งเพื่อเอาเมือกออกให้หมดแล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง บีบน้ำออกให้เห็ดแห้งมากที่สุดค่ะ

เห็ดพร้อมแล้วเราจะนำข้าวเหนียวมาล้างยางข้าวออกพอประมาณก่อน จากนั้นปั่นหรือตำกระเทียมให้ละเอียดแล้วนำทั้งข้าวเหนียวและกระเทียมมาผสมกับเห็ด ใส่เกลือตามลงไปอีกพอประมาณแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน หยิบพริกขี้หนู 1 เม็ดใส่ถุงแล้วตักแหนมเห็ดตามลงไปพอประมาณ บีบไล่อากาศออกให้หมดแล้วมัดถุงให้แน่น ไม่ต้องใส่แหนมเยอะมากก็ได้นะคะ กะให้พอดีคำ จากนั้นพักแหนมไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 2 – 3 วันแหนมก็เริ่มเปรี้ยวแล้วค่ะ หรือถ้าใครอยากทำเยอะ ๆ เก็บไว้ทานนาน ๆ ก็สามารถเก็บใส่ตู้เย็นช่องปกติได้เลยค่ะ แหนมจะเปรี้ยวช้ากว่าการเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง ก่อนทานจะนำมานึ่งอีกหนึ่งครั้งหรือจะทานสด ๆ เลยก็ได้จ้า


และนี่ก็คือ 10 สูตรเมนูอาหารอร่อย ๆ จากเห็ดที่เรานำมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ค่ะ ทั้ง 10 เมนูนี่เป็นแค่เพียงส่วนเล็กน้อยมาก ๆ เท่านั้นนะคะ เพราะจริง ๆ แล้วเมนูจากเห็ดยังมีอีกเยอะแยะมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง หรือทอด เราก็สามารถนำเห็ดมาปรุงได้หมด โดยเฉพาะเห็ดชุบแป้งทอดกรอบ ๆ แบบเทมปุระนี่อร่อยทานเพลินสุด ๆ กัดเข้าไปเห็ดจะแตกดังกร๊วบ ๆ ฟินมาก หรือใครอยากทานร้อน ๆ ก็จัดต้มยำเห็ดถ้วยโตไปเลยค่ะ แค่คิดก็หิวจนท้องร้องแล้วใช่ไหมล่ะคะเพื่อน ๆ แต่ในหนึ่งมื้อจะให้มีเห็ดแค่อย่างเดียวก็คงจะทานไม่สนุกและน่าเบื่อไปสักหน่อย ลองเข้มาดูบทความแนะนำเมนูอาหารของเราเพิ่มอีกสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นเมนูจากหมู, เมนูอาหารทะเล, เมนูจากผัก, เมนูจากไก่, สปาเกตตี, แซนด์วิช, เมนูนึ่งมะนาว, เมนูเนื้อวัว หรือเมนูจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและปลากระป๋องก็มีจ้า ลองเข้ามาดูกันนะคะ รับรองว่ามื้อต่อ ๆ ไปของเพื่อจะไม่ซ้ำซากจำเจแน่นอน