ใกล้จะถึงเทศกาลแห่งความรักอย่างวันวาเลนไทน์แล้วนะคะ คนมีคู่หลายคนคงจะตื่นเต้นและกำลังมองหาของขวัญหรือไอเดียเจ๋ง ๆ ไปเซอร์ไพรส์หวานใจอยู่แน่นอน ซึ่งเว็บไซต์ของเราเองก็มีไอเดียมาแนะนำค่อนข้างหลากหลายเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำหนังรักโรแมนติก, ที่เที่ยววันวาเลนไทน์หวาน ๆ ไปจนถึงทริคในการออกเดทวาเลนไทน์ค่ะ
แต่ถ้าหวานใจของใครเป็นสุดยอดนักกิน ไม่อินกับของขวัญสีชมพูหวานแหววหรือคำอวยพรวันวาเลนไทน์ซึ้ง ๆ เราคิดว่าบทความนี้น่าจะเป็นสิ่งที่คุณกำลังตามหาค่ะ เพราะเราได้รวบรวมสูตรเมนูอาหารสีชมพูสุดหวานที่เข้ากับเทศกาลแห่งความรักมาฝากเพื่อน ๆ ถ้าใครยังไม่รู้จะให้ของขวัญอะไรลองเลือกสักหนึ่งหรือสองเมนูด้านล่างนี้ไปทำให้คนรักทานดูค่ะ รับรองว่าจะต้องถูกใจแน่นอน!
1. เย็นตาโฟ
เริ่มต้นด้วยเมนูยอดฮิตอย่างเย็นตาโฟกันเลยค่ะ สูตรนี้บอกเลยว่าทำง่ายมาก ๆ เพราะเราจะใช้ซอสเย็นตาโฟสำเร็จรูป ที่เหลือก็แค่เตรียมเครื่องที่ชอบ ลวกให้สุก แล้วนำมาประกอบกันก็พร้อมทานแล้วค่ะ ง่ายมาก ๆ แถมน้ำซุปยังเป็นสีชมพูน่ารักอีกด้วย
วัตถุดิบเย็นตาโฟ
- ผักบุ้งไทย
- เห็ดหูหนูขาว
- ลูกชิ้นปลา
- เลือดหมู
- ปลาหมึกกรอบ
- เต้าหู้ทอด
- เกี๊ยวทอด
- ซอสเย็นตาโฟ
- ซุปก้อน
- น้ำเปล่า
วิธีทำเย็นตาโฟ
ทำน้ำซุปโดยการต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ซุปก้อนลงไป จากนั้นลวกผักบุ้ง, เห็ดหูหนู, ลูกชิ้นปลา, เลือดหมู, ปลาหมึกกรอบ, และเส้นให้สุกเลยค่ะ จากนั้นทอดเกี๊ยวและเต้าหู้ให้สุก จัดทั้งหมดใส่จานแล้วตามด้วยน้ำซุปและปิดท้ายด้วยซอสเย็นตาโฟ พร้อมเสิร์ฟค่ะ
2. ข้าวผัดรถไฟ (ข้าวผัดสีชมพู)
ข้าวผัดสีชมพูเป็นเมนูในดวงใจของใครหลายคนแน่นอนค่ะ เมนูสุดแสนจะหวานแหววแต่รสชาติอร่อยกลมกล่อม สูตรนี้บอกเลยว่าทำง่ายและผักไม่เละเกินไปค่ะ แนะนำให้ปรุงรสแบบเค็มหวานกำลังดี บีบน้ำมะนาวเพิ่มอีกหน่อยจะกลมกล่อมสุด ๆ
วัตถุดิบข้าวผัดรถไฟ
- เนื้อหมู
- ไข่ไก่
- ข้าวสวย
- มะเขือเทศ
- คะน้า
- หอมใหญ่
- กระเทียม
- ต้นหอม
- ถ้าผักชี
- น้ำตาล
- เกลือ
- ซีอิ๊วขาว
- พริกไทย
- ซอสเย็นตาโฟ
วิธีทำข้าวผัดรถไฟ
- ขั้นตอนที่ 1 : มาเตรียมเครื่องกันเลยค่ะ เริ่มจากหั่นหมูเป็นชิ้นบางตามต้องการ เสร็จแล้วหั่นคะน้า, หอมใหญ่ และมะเขือเทศ ส่วนกระเทียมจะสับละเอียดเลยค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : ตั้งกระทะ นำกระเทียมลงผัดจนหอมแล้วตามด้วยเนื้อหมู ผัดต่อจนหมูเริ่มสุกแล้วค่อยใส่หอมใหญ่ลงไปค่ะ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อย ผัดให้เข้ากันแล้วค่อยนำข้าวลงผัดรวมกัน
- ขั้นตอนที่ 3 : ข้าวเริ่มแห้งแล้วเราจะปรุงรสด้วยน้ำตาล, เกลือ และซอสเย็นตาโฟค่ะ ใส่ซอสไม่ต้องเยอะมากนะคะเพราะถ้าข้าวแฉะเกินไปจะไม่น่าทาน ผัดจนทุกอย่างเข้ากันและข้าวมีสีชมพูสวย จากนั้นตามด้วยคะน้าและมะเขือเทศ ผัดต่อให้เข้ากันอีกนิด ตักใส่จานแล้วโรยพริกไทยปิดท้าย พร้อมเสิร์ฟ
3. ผัดหมี่สีชมพู
เปลี่ยนจากข้าวผัดมาเป็นหมี่ผัดกันบ้างค่ะ ผัดหมี่สีชมพูเป็นเมนูรสชาติเบา ๆ ที่หอมอร่อย ตัวผัดหมี่จะมีรสชาติหวานนำ ตามด้วยเปรี้ยวและเค็มเบา ๆ รสโดยรวมไม่จัดจ้านมากนักแต่ก็ทานได้เพลิน ๆ ยิ่งผัดมาแบบแห้ง ๆ ก็ยิ่งอร่อยค่ะ ใครสนใจตามไปกดสูตรและวิธีทำได้ที่บทความ เมนูจากเส้นหมี่ขาว : ผัดหมี่สีชมพู
4. หวานเย็น
อากาศร้อน ๆ อย่างบ้านเรา คงจะไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าหวานเย็นแล้วค่ะ เอาจริงเมนูนี้ก็ย้อนวัยเหมือนกันนะคะเพราะทานมาตั้งแต่เด็ก และเนื่องจากเป็นธีมของกินสีชมพูสูตรนี้เราเลยแนะนำแค่น้ำแดงอย่างเดียว แต่เพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนมาใช้เป็นน้ำเขียวหรือสีอื่น ๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ
วัตถุดิบหวานเย็น
- น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยรสสละ
- น้ำเปล่า
วิธีทำหวานเย็น
- ขั้นตอนที่ 1 : วิธีทำง่ายมาก ๆ เลยค่ะ แค่ผสมน้ำหวานกับน้ำเปล่าตามความเข้มข้นที่ต้องการ จากนั้นเทใส่ถุงหรือพิมพ์ไอศครีมแล้วแช่แข็งทิ้งไว้ แค่นี้ก็พร้อมทานแล้วค่ะ
5. ทับทิมกรอบ
ทับทิมกรอบเป็นขนมไทยสีสวยที่เหมาะกับเทศกาลแห่งความรักมาก ๆ ค่ะ เอ๊ะ หรือนี่จะเป็นการฟิวส์ชั่นระหว่างวัฒนธรมไทยและตะวันตก!? ส่วนวิธีทำทับทิมกรอบก็ไม่ยากเลยค่ะ สามารถดูวิธีทำได้ที่บทความ เมนูขนมไทย : ทับทิมกรอบ ส่วนใครหาแห้วไม่ได้ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้สาลีหรือแอปเปิ้ลแทนก็ได้นะคะ
6. เต้าหู้เย็นนมชมพู
เต้าหู้เย็นเป็นเมนูที่เคยเป็นไวรัลบนโซเชียลค่ะ เมนูนี้ะมีลักษณะคล้ายวุ้น มีความเด้งดึ๋งน่ารักมาก ๆ ตัววุ้นจะทำมาจากนมมถั่วเหลืองผสมน้ำแดง มีความหอมหวาน นุ่ม ๆ ละมุนลิ้น ยิ่งทานกับผลไม้รสเปรี้ยวก็ยิ่งเข้ากันค่ะ ใครสนใจตามไปจดสูตรได้ที่บทความ เมนูจากเฮลซ์บลูบอย : เต้าหู้เย็น ได้เลยจ้า
7. ไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี่ถั่วแดง
ทำขนมไทย ๆ ไปแล้ว ขอเปลี่ยนฟีลมาเป็นขนมญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ ไดไฟกุเป็นขนมที่เหมาะกับเทศกาลแห่งความรักมาก ๆ เพราะชื่อของขนมนั้นแปลว่าโชคดีมาก ๆ นอกจากนี้ไดฟุกุยังเป็นขนมที่หลายคนชื่นชอบและทำง่าย อย่างสูตรไดฟุกุสตอรอว์เบอร์รี่ถั่วแดงที่เรานำมาฝากในบทความนี้ค่ะ
วัตถุดิบไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี่ถั่วแดง
- สตรอว์เบอร์รี่
- ถั่วแดง
- แป้งข้าวเหนียว
- แป้งมัน
- น้ำตาล
- น้ำเปล่า
วิธีทำไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี่ถั่วแดง
- ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมไว้ถั่วแดงกันก่อนค่ะ เริ่มจากต้มถั่วแดงจนเริ่มนิ่ม เปลี่ยนน้ำแล้วต้มต่อจนสุกเปื่อย จากนั้นกรองเอาเฉพาะถั่วแดงมาบดให้ได้เนื้อเนียนละเอียด นำมากวนกับน้ำตาลจะละลายเข้ากันดีและเนื้อแห้งขึ้นพอประมาณ ชิมรสชาติตามชอบแล้วยกลงพักให้หายร้อนค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : ทำความสะอาดสตรอว์เบอร์รี่ ตัดเอาขั้วออกแล้วพักให้แห้งสนิท ระหว่างนั้นเรามาปั้นถั่วแดงเป็นก้อนขนาดเท่า ๆ กับสตรอว์เบอร์รี่เตรียมไว้ สตรอว์เบอร์รี่แห้งดีแล้วเราจะนำถั่วแดงที่ปั่นไว้มาแผ่ให้แบนแล้วห่อสตรอว์เบอร์รี่ให้มิดทั้งลูกค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3 : ผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเปล่าและน้ำตาลเล็กน้อยให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกวนในกระทะจนแป้งเหนียวเป็นก้อน เทลงในภาชนะที่โรยแป้งข้าวเหนียวไว้ รอให้หายร้อนเล็กน้อยแล้วแบ่งเป็นก้อน แผ่ให้แบนแล้วนำมาห่อสตรอว์เบอร์รี่ถั่วแดงที่ทำไว้ให้มิดเลยค่ะ โรยแป้งมันบาง ๆ แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า
8. มาการองสตรอว์เบอร์รี่ครีมชีส
มูฟมาทำขนมปราบเซียนสัญชาติฝรั่งเศสกันบ้างค่ะ จริง ๆ แล้วมาการองเป็นเมนูที่ทำไม่ยากแต่ต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิคกันนิดนึง สูตรนี้เราจะทำเป็นมาการองสตรอว์เบอร์รี่ครีมชีส รสชาติหวาน หอม นุ่ม เข้ากัน เหมาะกับวาเลนไทน์สุด ๆ ค่ะ
วัตถุดิบฝามาการอง
- แป้งอัลมอนด์
- ไข่ขาว
- น้ำตาลไอซิ่ง
- สีผสมอาหาร
- น้ำเปล่า
วัตถุดิบไส้สตรอว์เบอร์รี่ครีมชีส
- สตรอว์เบอร์รี่
- ครีมชีส
- น้ำตาลทรายป่น
- วิปปิ้งครีม
วิธีทำมาการองสตรอว์เบอร์รี่ครีมชีส
- ขั้นตอนที่ 1 : ทำฝามาการองก่อนค่ะ แบ่งน้ำตาลและไข่ขาวเป็น 2 ส่วน ร่อนน้ำตาลส่วนที่ 1 กับแป้งอัลมอนด์ให้เข้ากัน ตามด้วยสีผสมอาหารและไข่ขาวส่วนที่ 1 ใช้พายผสมให้เข้ากัน
- ขั้นตอนที่ 2 : ต้มน้ำตาลส่วนที่ 2 จนได้น้ำเชื่อมและมีอุณหภูมิประมาณ 118 องศาเซลเซียส ขณะเดียวกันก็ตีไข่ขาวส่วนที่ 2 ให้ขึ้นฟู ค่อย ๆ เทน้ำเชื่อมลงไปแล้วตีด้วยสปีดสูงสุดจนได้เมอแรงก์เงาสวย พักไว้ก่อน
- ขั้นตอนที่ 3 : อุณหภูมิของเมอแรงก์ลดลงแล้วเราจะแบ่งตักใส่แป้งที่เตรียมไว้ก่อนหน้า จากนั้นตะล่อมให้ทุกอย่างเข้ากันและมีเนื้อเหนียวกำลังดี บีบลงบนถาดอบให้เป็นก้อนกลม เคาะถาดสองสามครั้งแล้วพักทิ้งไว้ให้ผิวด้านนอกแห้ง ระหว่างนั้นวอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 135 องศาเซลเซียส ผิวแห้งแล้วนำเข้าอบเป็นเวลา 14 – 16 นาที
- ขั้นตอนที่ 4 : ครบเวลาแล้วนำออกมาพักให้หายร้อนสนิทแล้วค่อยแกะออกจากถาด นำเข้าตู้เย็นให้ขนมเซตตัว
- ขั้นตอนที่ 5 : ระหว่างรอเราจะเตรียมไส้โดยการหั่นสตรอว์เบอร์รี่เป็นชิ้นเต๋า จากนั้นตีครีมชีสกับน้ำตาลให้เข้ากันแล้วแยกไว้ หันมาตีครีมจนฟูขึ้นและตั้งยอดอ่อน นำครีมชีสมาผสมแล้วใช้พายตะล่อมให้เข้ากัน บีบครีมชีสลงบนฝามาการองแล้วตามด้วยสตรอว์เบอร์รี่ นำฝาอีกชิ้นมาประกบแล้วแช่เย็นให้เซตตัวก่อนทาน
9. นมชมพู
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสีชมพูขวัญใจเด็ก ๆ อย่างนมชมพูค่ะ จริง ๆ แล้วเมนูนี้ทำง่ายมาก ๆ แต่สูตรของเราจะใส่นมข้นหวานเพิ่มเข้าไปอีหน่อย รสชาติที่จะได้มีความหวานมันและมีมิติมากขึ้น!
วัตถุดิบนมชมพู
- น้ำหวานกลิ่นสละ
- นมจืด
- นมข้นหวาน
วิธีทำนมชมพู
- ขั้นตอนที่ 1 : ผสมน้ำหวานกับนมชมพูและนมข้นหวานให้เข้ากันจนได้สีและระดับความหวานตามชอบ เทน้ำแข็งใส่แก้วแล้วตามด้วยนมชมพู เสร็จเรียบร้อยพร้อมดื่มจ้า
และนี่ก็คือ 9 เมนูสีชมพูที่เรารวบรวมมาต้อนรับวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ค่ะ ใครมีแพลนเซอร์ไพรส์หวานใจด้วยของกินนี่ รับรองว่าบทความนี้จะต้องมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ แน่นอนค่ะ แนะนำให้จัดจานแบบน่ารัก หวาน ๆ ด็จะยิ่งช่วยให้ดูสวยและน่าประทับใจมากขึ้น อย่างน้อยหวานใจก็มีรูปอาหารพร้อมแคปชั่นคูล ๆ อัพสตอรี่แหละเนอะ อิอิ