เมนูอาหารวันวาเลนไทน์ เดทที่บ้านก็หวานโรแมนติกได้

สวัสดีค่ะทุกคน เราขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่กุมภาพันธ์เดือนแห่งความรักค่ะ ที่ถูกเรียกว่าเดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรัก นั่นก็เป็นเพราะเดือนนี้มีวันที่ 14 กุมภาพันธ์หรือที่เราเรียกว่า “วันวาเลนไทน์”นั่นเองค่ะ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันวาเลนไทน์แล้วหลายคนคงเตรียมของขวัญกันยกใหญ่เพื่อมอบคนที่ชอบหรือคนที่รัก แต่หากตอนนี้คุณยังไม่มีไอเดียของขวัญให้แฟนก็สามารถไปอ่านได้ที่ ไอเดียของขวัญวันวาเลนไทน์สำหรับผู้ชาย หรือ “ไอเดียของขวัญวันวาเลนไทน์สำหรับผู้หญิง” ค่ะ แต่หากคุณต้องการประหยัดแต่ยังอยากให้คนที่รักประทับใจ “การทำอาหารมื้อพิเศษ” ในวันวาเลนไทน์ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

การทำอาหารในวาเลนไทน์สามารถสร้างความประทับใจให้กับคนรักได้มาก นอกจากเราจะได้โชว์ฝีไม้ลายมือในการทำอาหารแล้ว การเลือกเมนูและวัตถุดิบที่มีคุณภาพยังสามารถแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและความใส่ใจได้ดีอีกด้วย ในวันนี้เราจึงอยากมอบของขวัญวันวาเลนไทน์ให้กับทุกคนด้วยการแนะนำเมนูที่สามารถทำได้ง่ายทั้งของคาวและของหวาน เพื่อให้คุณสามารถรังสรรค์เมนูสุดพิเศษให้กับคนรักได้ หากพร้อมแล้วก็ไปเข้าครัวกันเถอะค่ะ

1. พิซซ่า I Love You

มาทำของคาวแบบหวาน ๆ ด้วยเมนูพิซซ่า I Love You ค่ะ บอกเลยว่าน่ารักสุด ๆ แถมยังทำง่ายมาก ๆ อีกด้วยค่ะ เพราะเราจะใช้แผ่นตอติญ่าแทนแป้งพิซซ่าทั่วไปค่ะ ส่วนทอปปิ้งก็เลือกตามที่หวานใจชอบเลยค่ะ ใช้เวลาทำไม่นานแต่ทำออกมาแล้วน่ารักม๊ากกก

วัตถุดิบพิซซ่า I Love You 

  • แผ่นตอติญ่า 
  • ไส้กรอก 
  • โบโลนา
  • พริกหยวก
  • มอสซาเรลลาชีส 
  • ซอสพิซซ่า 
  • ออริกาโน 
  • มายองเนส
  • ซอสพริก

วิธีทำพิซซ่า I Love You 

  • ขั้นตอนที่ 1 : เราจะนำแผ่นตอติญ่ามาตัดเป็นรูปหัวใจค่ะเราแนะนำให้ใช้แป้งตอติญ่านะคะเพราะไม่หนาเกินไป ตัดง่าย และอยู่ทรงด้วยค่ะ 
  • ขั้นตอนที่ 2 : จากนั้นมาเตรียมทอปปิ้งกันค่ะ ใครจะเลือกใช้แบบไหนก็ได้น้าาาา แต่สูตรนี้เราจะใช้พริกหยวก, ไส้กรอก และโบโลนาค่ะ หั่นเป็นชิ้นเต๋าเตรียมไว้เลย เนื่องจากพื้นที่ของแผ่นพิซซ่าไม่เยอะมากเลยต้องทำชิ้นเล็กหน่อยนะคะ 
  • ขั้นตอนที่ 3 : ทาซอสพิซซ่าลงบนแผ่นแป้ง จากนั้นเรียงทอปปิ้งลงไปแล้วปิดท้ายด้วยชีสแบบจุก ๆ จากนั้นนำเข้าอบด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันหรือเตาอบ ใช้อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 18 – 12 นาทีค่ะ เสร็จแล้วนำออกมาจัดใส่จาน โรยด้วยออริกาโนแล้วเสิร์ฟพร้อมซอสได้เลยจ้า 

2. แพนเค้กหัวใจ

เมนูนี้เราอยากแนะนำเป็นส่วนตัวเลยค่ะ เพราะเราคิดว่าเมนูนี้มันน่ารักม๊ากกก เหมาะกับหวานใจที่ชอบทานของหวานอีกด้วยค่ะ เราจะทำแพนเค้กให้เป็นรูปหัวใจ ทานกับน้ำผึ้งและวิปครีมที่มีความหอมหวาน ตัดรสด้วยความเปรี้ยวอมหวานของสตรอว์เบอร์รี่คือเข้ากันสุด ๆ ค่ะ 

วัตถุดิบแพนเค้กหัวใจ 

  • แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป 
  • ไข่ไก่
  • สตรอว์เบอร์รี่ 
  • วิปครีม 
  • สีผสมอาหารสีแดง
  • น้ำผึ้ง 
  • เกลือป่น
  • เนยจืด
  • นมสด 

วิธีทำแพนเค้กหัวใจ 

  • ขั้นตอนที่ 1 : แบ่งเนยออกเป็น 2 ส่วนค่ะ ส่วนหนึ่งนำไปละลายแล้วนำไปผสมกับแป้งแพนเค้กและไข่ไก่ เติมเกลือและสีผสมอาหารลงไปเล็กน้อยแล้วผสมให้เข้ากันจนได้เนื้อเนียนค่ะ 
  • ขั้นตอนที่ 2 : ตักเนยอีกส่วนที่แบ่งไว้ลงในกระทะ เปิดไฟอ่อน ๆ รอให้เนยละลายแล้วเทแป้งลงกระทะได้เลยค่ะ เทแป้งให้เป็นรูปหัวใจนะคะ รอจนแป้งสุกแล้วค่อยพลิกกลับด้าน ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนครบ พยายามทำให้เป็นชิ้นเท่า ๆ กันน้าาา 
  • ขั้นตอนที่ 3 : ได้แพนเค้กมาแล้วเราจะมาประกอบร่างกันค่ะ วางแพ้นเค้กลงบนจานหนึ่งแผ่น ราดน้ำผึ้งลงไปแล้วตามด้วยวิปครีม ปาดให้เรียบ ๆ แล้วประกบอีกแผ่นลงไปด้านบนทอปด้วยสตรอว์เบอร์รี่และวิปครีมเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟจ้า

3. คุกกี้แยม

สายขนมอบต้องลองเมนูนี้เลยค่ะ เพราะคุกกี้แยมสูตรนี้ทำง่ายมาก ๆ ถึงวัตถุดิบจะดูเยอะหน่อยแต่ทั้งหมดที่ต้องทำก็แค่เอาทุกอย่างมาผสมกันแค่นั้นเองค่ะ คุกกี้ของเราจะสอดไส้ด้วยแยมสตรอว์เบอร์รี่รสหวานอมเปรี้ยว หอมกลิ่นเนยและหวานกำลังดี ใครจะเปลี่ยนเป็นแยมรสอื่นก็ไม่ว่ากันค่ะ

วัตถุดิบคุกกี้แยม 

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 
  • แป้งข้าวโพด 
  • ไข่ไก่ 
  • แยมสตรอว์เบอร์รี่
  • น้ำตาลไอซิ่ง 
  • เกลือ 
  • เนยจืด 
  • กลิ่นวานิลลา 

วิธีทำคุกกี้แยม

  • ขั้นตอนที่ 1 : ตีไข่ไก่ให้เข้ากันก่อนค่ะ จากนั้นนำเนย, เกลือ และกลิ่นวานิลลาลงผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วร่อนของแห้งอย่างแป้งสาลี, แป้งข้าวโพด และน้ำตาลไอซิ่งลงผสมรวมกันจนได้เนื้อเนียนเลยค่ะ 
  • ขั้นตอนที่ 2 : วอร์มเตาอบหรือหม้อทอดไร้น้ำมันที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ระหว่างนั้นเราจะปั้นแป้งเป็นก้อนขนาดตามต้องการแล้วใช้พิมพ์รูปหัวใจกดให้มีลักษณะสวยงาม ใช้พิมพ์อีกชิ้นที่มีขนาดเล็กกว่ากดลงไปให้เป็นช่องว่าง 
  • ขั้นตอนที่ 3 : วางคุกกี้ลงบนกระดาษไขแล้วบีบแยมลงไปให้เต็มช่องที่ทำไว้ แช่เย็นทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซเซียสเป็นเวลา 15 – 18 นาที คอยนำออกมาดูเป็นระยะค่ะ คุกกี้สุกดีแล้วนำออกมาพักบนตะแกรงให้เย็นสนิทก่อนเก็บลงกล่องที่มีฝาปิดมิดชิด

4. สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก

เมนูนี้มีขั้นตอนการทำที่ต้องใช้สกิลเยอะหน่อย แต่ทำเสร็จแล้วทั้งเราและคุณแฟนจะต้องภูมิใจสุด ๆ แน่นอนค่ะ สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้กเป็นเมนูที่ดูน่ารัก ๆ หวาน ๆ ที่เข้ากับเทศกาลวาเลนไทน์มาก ๆ แฟนใครชอบทานขนมไม่ควรพลาดเลยน๊าา 

วัตถุดิบสตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก

  • สตรอว์เบอร์รี่ 
  • ไข่ไก่
  • แป้งเค้ก
  • น้ำตาลทรายป่นละเอียด
  • ผงฟู
  • เกลือป่น
  • เนยจืด
  • วิปปิ้งครีม 
  • นมสด 
  • กลิ่นวานิลลา
  • น้ำมะนาว

วิธีทำสตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก

  • ขั้นตอนที่ 1 : ก่อนอื่นเราจะผสมของแห้งกันก่อนเลยค่ะ ร่อนแป้งเค้ก, ผงฟู​และเกลือป่นลงในอ่างผสม ต้องร่อนแป้งทุกครั้งก่อนใช้งานนะคะเพื่อป้องกันไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน จากนั้นแยกไข่แดงกับไข่ขาว นำไข่แดงมาผสมกับกลิ่นวานิลลาให้พอเข้ากัน ส่วนนมและเนยเราจะนำมาผสมกันแล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟให้พอละลายค่ะ 
  • ขั้นตอนที่ 2 : วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส จากนั้นเทแป้งที่ร่อนไว้ลงผสมกับไข่แดงแล้วตามด้วยนมเนยที่อุ่นไว้ก่อนหน้าผสมให้มุกอย่างพอเข้ากันดี หันมาตีไข่ขาวจนขึ้นฟองหยาบเล็กน้อยแล้วใส่น้ำมะนาวลงไป ตีจนฟองละเอียดขึ้นนิดหน่อยแล้วค่อย ๆ เทน้ำตาลตามลงไป ตีต่อจนได้ฟองละเอียดและแน่นขึ้น 
  • ขั้นตอนที่ 3 : ตักแป้งที่เตรียมไว้ลงผสมกับไข่ขาวเล็กน้อย จากนั้นเททั้งหมดลงในอ่างเพื่อผสมกับแป้งที่เหลือ ค่อย ๆ ตะล่อมให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่พิมพ์ที่กรุด้วยกระดาษไขแล้ว กระแทกพิมพ์กับโต๊ะเบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ จากนั้นปาดหน้าให้เรียบแล้ววางลงในถาดอบอีกหนึ่งชั้น เทน้ำร้อนลงไปให้มีความสูงประมาณ 1 เซนติเมตรแล้วนำเข้าอบประมาณ 40 – 45 นาที
  • ขั้นตอนที่ 4 : ครบเวลาแล้วนำเค้กออกจากพิมพ์ ลอกกระดาษออกแล้วพักให้หายร้อน ระหว่างนั้นเราจะตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลทรายจนขึ้นฟูและตั้งยอดกลาง ๆ นำไปพักในตู้เย็นแล้วนำสตรอว์เบอร์รี่ออกมาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเก็บไว้สำหรับตกแต่ง อีกส่วนหั่นเป็นชิ้นเต๋าเล็ก ๆ เตรียมไว้ 
  • ขั้นตอนที่ 5 : แป้งเย็นสนิทแล้วแบ่งครึ่งเป็น 2 แผ่นเพราะเราจะทำเค้ก 2 ชั่นค่ะ วางแผ่นแรกลงไปก่อนแล้วตามด้วยวิปครีมพอประมาณ​ ปาดวิปครีมให้ทั่วแล้วโรยสตรอว์เบอร์รี่เต๋าลงไปจนทั่ว นำเค้กอีกแผ่นมาประกบแล้วตามด้วยวิปครีม ปาดให้เรียบแล้ววางสตรอว์เบอร์รี่อีกส่วนที่แบ่งไว้ตามลงไป นำไปแช่เย็นให้เซตตัวก่อนเสิร์ฟ 

5. คัพเค้กเรดเวลเวท 

เปลี่ยนมาทำเบเกอรี่ง่าย ๆ อย่างคัพเค้กกันบ้าง ที่บอกว่าง่ายเพราะสูตรนี้เราจะทำเค้กเรดเวลเวทด้วยไมโครเวฟค่ะ วิธีการทำก็ง่ายมากเพราะแค่ผสม ๆ แล้วนำเข้าไมโครเวฟ สูตรนี้เราจะทานกับครีมชีสฟรอสติ้ง แต่ใครจะเปลี่ยนเป็นไอศครีมนมหรือวานิลลาก็เข้ากันน๊าาาา 

วัตถุดิบคัพเค้กเรดเวลเวท 

  • ไข่ไก่
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์​
  • ผงโกโก้
  • น้ำตาลทรายป่นละเอียด 
  • สีผสมอาหารสีแดง 
  • นมจืด
  • เนยจืด
  • ครีมชีส
  • น้ำมันพืช

วิธีทำคัพเค้กเรดเวลเวท 

  • ขั้นตอนที่ 1 : ร่อนแป้งสาลีและผงโกโก้ลงในอ่างผสมแล้วตามด้วยไข่ไก่, น้ำตาลทราย, นมจืด, น้ำมันพืช และสีผสมอาหารสีแดง ผสมให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันเลยค่ะ จากนั้นตักใส่แก้วทนความร้อนแล้วนำเข้าไมโครเวฟ ใช้กำลังไฟกลางค่อนแรงเป็นเวลา 3 – 4 นาที 
  • ขั้นตอนที่ 2 : ตีเนยจืด, ครีมชีส และน้ำตาลทรายให้ขึ้นฟูเข้ากันแล้วนำใส่ถุงบีบ เค้กสุกดีแล้วนำออกมาพักจนเริ่มอุ่น ๆ บีบครีมชีสที่เตรียมไว้ลงไปตามชอบ เสิร์ฟได้เลยค่ะ 

6. สเต๊กแซลมอน

เมื่อพูดถึงอาหารมื้อค่ำในวันวาเลนไทน์ อาหารที่เรียบง่ายและรวดเร็วก็หนีไม่พ้นการใช้เนื้อแซลมอน นั่นเป็นเพราะแซลมอนนั้นสุกเร็ว มีเนื้อที่หอมหวาน อีกทั้งยังมีรสชาติที่อร่อยมาก เมนูที่เราอยากจะแนะนำก็คือ “สเต๊กแซลมอน” สเต๊กแซลมอนมีรสชาติที่กลมกล่อมทำได้ง่ายด้วยกระทะเพียงแค่ใบเดียว ถึงแม้จะทำง่ายแต่สเต๊กแซลมอนก็ต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อไม่ให้เนื้อแซลมอนสุกเกินไปจนเสียความชุ่มฉ่ำละมุนลิ้น โดยคุณสามารถดูกรรมวิธีและวิธีการทำได้ที่ “สเต๊กแซลมอน” แต่ก่อนจะทำหากคุณใช้แซลมอนแช่แข็งเราขอบอกเลยว่าเนื้อแซลมอนเย็น ๆ ที่ดึงตรงจากตู้เย็นไม่เหมาะสำหรับกระทะร้อน ๆ เมื่อใส่ปลาที่มีความเย็นจัดลงในกระทะร้อน ๆ เนื้อปลาจะจับตัวกับก้นกระทะทันทีและมีแนวโน้มที่จะสุกไม่สม่ำเสมอ เราแนะนำให้นำปลาออกจากตู้เย็นประมาณ 15 -20 นาที เพื่อที่จะให้เนื้อแซลมอนอยู่ในอุณหภูมิห้องมากขึ้น ขอบอกเลยว่าหากคุณได้ทำเมนูนี้ความรักของคุณจะชุ่มฉ่ำเหมือนเนื้อแซลมอนอย่างแน่นอน


7. ซี่โครงหมูบาร์บีคิว

“ซี่โครงหมูบาร์บิคิว” เป็นเมนูสุดพิเศษที่จะทำให้คนที่คุณรักรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน เนื่องจากจะต้องใช้เวลานานเพื่อที่จะทำให้ซี่โครงเปื่อยและมีรสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ ซี่โครงย่างบาร์บีคิวแบบดั้งเดิมทำได้ไม่ยากแต่ต้องใช้เวลานานเล็กน้อยเพื่อให้มีรสชาติที่อร่อยและทานได้ง่าย ในการทำเราต้องใช้ไฟอุณหภูมิต่ำจนกว่าเนื้อจะนุ่ม ฉ่ำและละลายในปาก คุณสามารถทำได้ด้วยการใช้เตาอบไฟฟ้าและหม้ออบลมร้อน จุดสำคัญของซี่โครงหมูบาร์บิคิวอยู่ที่ซอสรสเด็ดค่ะ คุณสามารถทำซอสด้วยตัวเองได้หรือจะใช้ซอสบาร์บีคิวสำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน หากคุณต้องการสูตรและวิธีการทำสามารถไปดูได้ที่ “ซี่โครงหมูบาร์บิคิว” เคล็ดลับพิเศษที่เราอยากแนะนำคือต้องปรุงด้วยไฟต่ำจนนุ่ม ใช้ซอสที่รสชาติที่เข้มข้นซึ่งจะช่วยให้คุณได้อาหารมื้อพิเศษที่อร่อยและเข้มข้น ยิ่งได้กินคู่กับเฟรนฟรายทอดกรอบ ๆ และตัดลดเลี่ยนด้วยสลัดผัดสักหน่อย เพิ่มความแซ่บซ่าด้วยเครื่องดื่มมีฟองสักนิด รับรองความอร่อยเลยค่ะ


8. ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง

“ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง” เป็นอีกในเมนูที่ต้องใช้วัตถุดิบหลักอย่างซี่โครงหมู คุณอาจจะเลือกใช้ซี่โครงส่วนหลังก็ไปเพราะเนื้อจะค่อนข้างแน่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้งก็ใช้กรรมวิธีเดียวกับซี่โครงหมูบาร์บิคิวเพียงแต่ว่าวัตถุดิบที่ช่วยชูโรงอาหารชนิดนี้ก็คือซอสที่ทำจากน้ำผึ้ง คุณอาจคิดว่าใช้น้ำตาลแทนได้ไหมแต่เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่าได้แต่อาจจะไม่อร่อยเท่าน้ำผึ้ง เพราะน้ำผึ้งสามารถสร้างเนื้อสัมผัสและให้รสชาติที่ดีกว่าน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม อีกทั้งกลิ่นของน้ำผึ้งยังหอมสร้างความประทับใจให้กับผู้รับประทานได้อย่างมาก เมนูนี้ทำไม่ยากมากค่ะสามารถไปดูกรรมวิธีการทำได้ที่ “ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง” ค่ะ จุดเด่นที่เราอยากจะแนะนำในการทำเมนูคือกรรมวิธีการอบที่ต้องทำให้เนื้อฉ่ำล่อนออกมาจากกระดูก ส่วนรสชาติคุณต้องพิถีพิถันในการเลือกน้ำผึ้ง ขอบอกเลยว่าใช้น้ำผึ้งเดือนห้าจะดีที่สุดเพราะกลิ่นจะมีเอกลักษณ์กว่าน้ำผึ้งทั่วไป รับรองว่าหากทำเมนูนี้ความรักของคุณจะหอมหวานเหมือนน้ำผึ้งเดือนห้าอย่างแน่นอน


9. ขาหมูเยอรมัน

“เกลียดการพนันแต่ก็เคยเป็นเจ้ามือ รำคาญมือถือแต่ฉันก็มี เกลียดจังความอ้วน ใคร ๆ ก็รู้ แต่ยังสั่งขาหมูกินอยู่ดี” ถึงแม้เพลงนี้จะไม่เหมาะกับวันวาเลนไทน์เท่าไหร่นักแต่ก็เข้ากับเมนู “ขาหมูเยอรมัน” ได้เป็นอย่างดี ขาหมูเยอรมันเป็นเมนูที่ล้ำค่ามากเพราะความอร่อยของเมนูถือว่าเป็นเลิศ หากไปร้านอาหารหรือไปทานข้าวนอกบ้าน เมนูนี้ก็เป็นเมนูที่เราจำเป็นต้องสั่งอย่างพลาดไม่ได้ แล้วถ้าเราทำเมนูนี้เซอร์ไพรส์คนรักในวันวาเลนไทน์แล้วล่ะก็แฟนของคุณต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน คุณสามารถทำเมนูได้ง่าย ๆ โดยไปดูวิธีการทำได้ที่ “ขาหมูเยอรมัน” จุดเด่นของเมนูนี้คือคุณต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ขาหมูมีความกรอบนอก นุ่มใน ทานแล้วต้องละลายในปาก อีกทั้งต้องไม่อมน้ำมันด้วย ถึงแม้ขาหมูจะเต็มไปด้วยแคลอรี่ แต่ถ้าน้องมีพี่ชีวิตนี้จะมีแต่ความรักนะจ๊ะ


10. ปีกไก่ยัดไส้

มาถึงเมนูที่ต้องใช้ไก่กันบ้างค่ะ เมนูนี้เรียกว่า “ปีกไก่ยัดไส้” เป็นเมนูที่สามารถทานได้ง่าย อร่อย ช่วยให้ผู้ทานมีความสุข หลายคนอาจจะมองว่าเมนูนี้ทำยากเล็กน้อยเพราะต้องทำการเลาะกระดูกออกจากปีกไก่ก่อนที่จะนำไส้ยัดเข้าไปในไก่ วิธีการทำต้องใช้ความละเมียดละไมเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวไก่แตกออกมา สำหรับคนที่ต้องการทำเมนูนี้ก็สามารถทำได้โดยดูวิธีการทำได้ที่ “ปีกไก่ยัดไส้” จุดเด่นของเมนูนี้คือไส้ต้องอร่อย ดังนั้นก่อนจะทำอย่าลืมสำรวจว่าคนรักของคุณชอบทานไส้อะไรและไม่ชอบแบบไหนเพื่อให้ปีกไก่ยัดไส้ของคุณดูพิเศษและไม่เหมือนใคร แต่เมื่อทอดปีกไก่ยัดไส้แล้วต้องระวังให้ไก่สุกทั่วถึงกัน ห้ามทำให้ตัวไส้สุกก่อนเพราะเนื้อสัมผัสจะกระด้างและไม่อร่อยค่ะ


11. พาสต้าชีส หรือ Mac & Cheese ทำจากไมโคเวฟ

พาสต้าชีส หรือ Mac & Cheese เป็นเมนูสำหรับชายหญิงที่คลั่งไคล้ในรสชาติของชีส เมนูนี้คุณจะได้เห็นชีสเยิ้ม ๆ เมื่อตักออกมาหนึ่งคำชีสก็จะยืดออกมาทำให้รสชาติมีความอร่อยและเข้มข้นมาก เมนูนี้ได้รับความนิยมมากทั้งในและต่างประเทศ หากคุณต้องการสูตรพาสต้าชีสที่เอร็ดอร่อยเราขอแนะนำให้ทุกท่านไปดูได้ที่ “พาสต้าชีส, Mac & Cheese” สูตรนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้คุณสามารถทำมันได้แม้ในคืนที่วาเลนไทน์ที่ยุ่งที่สุดของสัปดาห์ ที่สำคัญเป็นสูตรที่ทำได้จากไมโครเวฟค่ะ มันเป็นอาหารที่ปลอบประโลมจิตใจได้ ในบางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องทำเกล็ดขนมปังแบบโฮมเมด สับหัวหอมให้ละเอียดหรือใส่ไข่ สิ่งที่คุณต้องทำคือต้มบะหมี่ ขูดชีสและทำเบชาเมลแบบง่าย ๆ ก็ได้ นั่นเป็นเพราะสิ่งที่ทำให้เมนูนี้พิเศษมากไม่ใช่วัตถุดิบแต่คือความใส่ใจของผู้ทำนั่นเองค่ะ


12. พิซซ่า จากหม้อทอดไร้น้ำมัน

ต่อไปถึงคิวอาหารอิตาลีอย่างพิซซ่ากันบ้างค่ะ หากคุณเบื่อที่จะสั่งพิซซ่าทางเดลิเวอรี่แล้วการทำพิซซ่าแบบโฮมเมดเองคงเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยทีเดียว เพื่อฉลองวันวาเลนไทน์อาหารมื้อพิเศษอย่างพิซซ่าโฮมเมดนี้จะเป็นอาหารมื้อพิเศษสำหรับคุณอย่างแน่นอน จุดเด่นของพิซซ่าอยู่ตรงที่แป้งค่ะ แน่นอนว่าคุณสามารถซื้อแป้งพิซซ่าสำเร็จรูปได้ แต่หากทำแป้งพิซซ่าเองก็คงจะดีไม่น้อย หากคุณต้องการทำพิซซ่าเองทั้งแผ่นคุณสามารถไปดูสูตรได้ที่ “พิซซ่า” สูตรนี้ทำได้ง่ายไม่ต้องง้อเตาอบเลยเพียงแค่คุณมีหม้อทอดไร้น้ำมันก็สามารถทำได้แล้วค่ะ ก่อนทำอย่าลืมเลือกหน้าพิซซ่าที่คนที่คุณรักชอบด้วยเพราะจะทำให้การทำและทานพิซซ่านั้นสนุกและอร่อยขึ้น


13. Roast Dinner with Yorkshire Pudding

Roast Dinner with Yorkshire Pudding เป็นอาหารสไตล์บริติช มีทักษะการปรุงอาหารตามแบบฉบับของชาวอังกฤษซึ้งแต่ละครัวเรือนมีสูตรอาหารโปรดของตัวเอง ถึงแม้จะมีชื่อว่ายอร์คเชียร์พุดดิ้งแต่ก็ไม่ใช่ของหวานค่ะ มันเป็นอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อม คุณจะเลือกทำเป็นเนื้อไก่ เนื้อหมูและเนื้อวัวก็ได้ จุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ที่เนื้อที่อบฉ่ำและซอสเกรวี่รสเด็ด หากคุณต้องการทำเมนูนี้แต่ยังขาดสูตรการทำอยู่สามารถไปดูได้ที่ “Roast Dinner with Yorkshire Pudding” รับรองว่าหากคุณทำเมนูนี้แฟนของคุณจะรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน เพราะไม่ใช่ใครก็ทานได้


14. พุดดิ้งคาราเมล จากไมโครเวฟ

วันแห่งความรักทั้งทีจะทานแต่ของคาวได้ไงล่ะคะ ทานคาวแล้วก็ต้องตบท้ายด้วยของหวานกันเล็กน้อยด้วยเมนูอย่าง “พุดดิ้งคาราเมล” กันสักหน่อย หลายคนอาจจะมองว่าพุดดิ้งคาราเมลนั้นทำยากแต่ก็ไม่เลย เพราะเราจะแนะนำสูตร “พุดดิ้งคาราเมลด้วยไมโครเวฟ” ค่ะ ขอรับรองว่าทานง่าย หอม หวานและละมุนลิ้นมากเลยทีเดียว เมื่อทำพุดดิ้งแล้วจุดเด่นที่คุณต้องพิจารณาคือความหอม ละลายในปาก หากพุดดิ้งที่คุณทำออกมาไม่ดึ๋ง ๆ เนื้อแข็งนั่นหมายความว่าพุดดิ้งของคุณผิดสูตรค่ะ ตอนทำอย่าลืมใส่ใจและความละเมียดละไมในการทำ นั่นเป็นเพราะการทำเบเกอรี่นั้นสัดส่วนต้องเป๊ะ วิธีต้องเป๊ะ เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วอย่าลืมเติมความหวานในวันวาเลนไทน์ให้กันนะคะ


15. คัพเค้กวานิลลา จากไมโครเวฟ

มาถึงเมนูของหวานกันอีกหนึ่งเมนูค่ะ ของหวานเมนูนี้มีชื่อเรียกว่า “คัพเค้กวานิลลา” รสชาติของคัพเค้กวานิลลานั้นจะมีความหอม มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม เมื่อทานลงไปแล้วเต็มปากเต็มคำอย่างแน่นอน คัพเค้กวานิลลาทำได้ไม่ยากค่ะส่วนใหญ่หลายคนมักจะใช้เตาอบหรือหม้ออบลมร้อนกัน แต่วันนี้เราจะขอแหวกแนวหน่อยด้วยการแนะนำสูตร “คัพเค้กวานิลลาจากไมโครเวฟ” ขอบอกเลยสูตรนี้ทำไม่ยาก แต่อย่าลืมใส่ท็อปปิ้งด้านบนด้วยเพื่อให้รสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น โดยอาจจะเป็นช็อกโกแลตชิพหรือสตรอว์เบอรี่ก็ได้ นอกจากนี้หากคุณอยากเซอร์ไพรส์แฟนหรือเป่าเค้กกันในวันวาเลนไทน์ คุณก็สามารถนำคัพเค้กมาเรียงกันในกล่องเค้กและตกแต่งให้สวยงามได้ ขอบอกเลยว่าเมนูนี้จะพิเศษเป็นอย่างมากเหมาะสำหรับใช้เติมความหวานในวาเลนไทน์


16. ขนมปังกระเทียม จากหม้อทอดไร้น้ำมัน

ต่อไปเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราอยากจะแนะนำนั่นก็คือ “ขนมปังกระเทียม” เมนูขนมปังกระเทียมเป็นเมนูอาหารออเดิร์ฟที่สามารถใช้เรียกน้ำย่อยของผู้ทานได้เป็นอย่างดี คุณสามารถปรุงขนมปังกระเทียมเพื่อสร้างความอร่อยก่อนจะเข้าสู่อาหารเมนคอร์สหรืออาหารหวานได้ เมนูขนมปังนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้สูตรจากเราซึ่งเป็นสูตร “ขนมปังกระเทียมจากหม้อไร้น้ำมัน” สูตรนี้ใช้เวลาน้อยมากไม่ถึง 10 นาทีก็ทำได้แล้วค่ะ ขอบอกเลยว่ากรอบและอร่อยเหาะไปเลย หากอยากมัดใจแฟนให้อยู่หมัดเราขอแนะนำให้เสิร์ฟขนมปังกระเทียมเป็นออเดิร์ฟค่ะ


17. โดนัท จากหม้อทอดไร้น้ำมัน

อีกเมนูหนึ่งที่เราไม่แนะนำไม่ได้ค่ะนั่นก็คือเมนูอย่าง “โดนัท” ค่ะ โดนัทนั้นถือว่าเป็นของหวานอย่างหนึ่งแต่สามารถทานเป็นอาหารว่างหรือออเดิร์ฟก็ได้ เมนูโดนัทนั้นจะต้องทำการทอดค่ะ แต่หากทอดด้วยน้ำมันก็คงไม่ดีนัก เราเลยอยากแนะนำสูตร “โดนัทจากหม้อทอดไร้น้ำมัน” สูตรนี้ใช้ส่วนผสมไม่กี่อย่างค่ะ แต่สิ่งต้องมีคือยีสต์ค่ะเพราะมันจะทำให้เนื้อโดนัทนุ่ม ทานได้ง่ายและละมุนลิ้น เมื่อใช้หม้อไร้น้ำมันจะช่วยลดเวลาและช่วยในเรื่องสุขภาพได้เยอะมาก คุณสามารถมอบความพิเศษให้คนที่รักได้ด้วยการแต่งหน้าให้โดนัท อาจจะเป็นวิปครีมหรือเป็นช็อกโกแลตก็ได้ค่ะ แค่นี้ก็สามารถเพิ่มความหวานให้กับวาเลนไทน์ได้แล้ว

Happy Valentine’s Day – ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันวาเลนไทน์นะคะ