สูตรเครื่องจิ้มผลไม้ อร่อยครบรส มีทั้ง น้ำปลาหวาน, น้ำปลาร้าหวาน, พริกเกลือลาว ฯลฯ

นอกจากวัฒนธรรม, สถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ และอาหารอร่อยครบรส อีกหนึ่งสิ่งที่น่าภูมิใจก็คือประเทศของเรามีผลไม้ให้เลือกทานได้อย่างหลากหลายและแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนที่จะมีทั้งทุเรียน, แตงโม และมะม่วงหวานชื่นใจให้ได้ทานคลายร้อน ส่วนหน้าฝนก็จัดมะละกอ, มังคุด, ลำไย และลางสาดทานให้ชุ่มฉ่ำ สำหรับฤดูหนาวก็ไม่น้อยหน้าเพราะเรายังได้ทานทั้งฝรั่ง, ส้ม, ละมุด, ชมพู่ และองุ่นลูกโต

ซึ่งสิ่งที่มักจะมาพร้อมกับผลไม้สด ๆ จากต้นก็คือ “เครื่องจิ้ม” ทีมีให้เลือกมากมายหลายชนิด ทั้งแบบผงแห้ง ๆ อย่างพริกเกลือ, พริกเกลือลาว, พริกเกลือบ๊วย หรือแบบน้ำอย่างน้ำปลาหวานและกะปิหวาน ซึ่งเครื่องจิ้มแต่ละชนิดก็เหมาะกับผลไม้ที่แตกต่างกันไปตามรสชาติและความชอบ วันนี้เราเลยมัดรวมเครื่องจิ้มมาฝากเพื่อน ๆ ถึง 10 ชนิดจุก ๆ ไปเลยเลยค่ะ ใครที่ชื่นชอบผลไม้จะต้องถูกใจบทความนี้แน่นอน

ฤดูร้อน (มีนาคม – พฤษภาคม)

มะขาม องุ่น แตงโม ขนุน มะปราง กล้วย สับปะรด ทุเรียน ระกำ เงาะ ลิ้นจี่ มะม่วง มะปราง

ฤดูฝน (มิถุนายน – ตุลาคม)

มะละกอ ส้มโอ น้อยหน่า ลางสาด มังคุด ส้ม สาเก มะเฟือง ลำไย กระท้อน ฝรั่ง มะกอกน้ำ

ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์)

มะตูม ชมพู่ องุ่น พุทรา มะละกอ แตงโม ละมุด ส้ม ลูกตาล อ้อย ชมพู่มะเหมี่ยว ฝรั่ง มะขามป้อม

และเนื่องจากเรามีผลไม้ให้ทานตลอดทั้งปี ดังนั้นการเลือกซื้อและล้างทำความสะอาดผลไม้จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยการเลือกซื้อผลไม้ให้คุ้มค่าและปลอดภัยมากที่สุดคือการเลือกซื้อผลไม้ตามฤดูกาล เนื่องจากผลไม้ที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลจะเต็มไปด้วยสารอาหารครบถ้วน มีความสดใหม่ ราคาถูก และยังลดความเสี่ยงต่อการบริโภคผลไม้ตัดแต่งพันธุกรรมอีกด้วยค่ะ

นอกจากนี้ก่อนเลือกซื้อผลไม้ควรเลือกเฉพาะลูกที่มีผิวตึง ไม่มีจุดดำ, รอยแหว่ง หรือรอยเน่าเสีย หลังจากซื้อผลไม้มาแล้วแนะนำให้นำมาล้างทำความสะอาดผลไม้แบบเปิดน้ำไหลผ่าน พยายามขัดถูเบา ๆ บริเวณขั้วและซอกต่าง ๆ เพื่อล้างเอายาฆ่าแมลงออกไปให้มากที่สุด จากนั้นใช้น้ำยาล้างผักผลไม้หรือผสมเบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ช้อนชาต่อน้ำ 5 ลิตร แล้วนำผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ 10 นาทีก่อนนำมาล้างน้ำเปล่าอีก 2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยลดยาฆ่าแมลงและสารเคมีที่เกาะอยู่บนเปลือกผลไม้ให้ลดลงได้ค่ะ

เครื่องจิ้ม ผลไม้

สุตรเครื่องจิ้มผลไม้

1. น้ำปลาหวาน

น้ำปลาหวาน : น้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา, หอมแดงซอย, กุ้งแห้งคั่วป่น และพริกขี้หนูสดซอย

เริ่มต้นกันที่สูตรเครื่องจิ้มยอดนิยมอย่างน้ำปลาหวานกันก่อนเลยค่ะ ซึ่งน้ำปลาหวานนี่ก็เป็นเครื่องจิ้มที่นิยมมาก ๆ อยู่แล้วแต่ก็ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกหลังจากแม่การะเกดเข้าครัวปรุงน้ำปลาหวานให้พี่หมื่นและท่านขุนทานเองกับมือ สำหรับวัตถุดิบที่เราจะต้องมีก็คือน้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา, หอมแดงซอย, กุ้งแห้งคั่วป่น และพริกขี้หนูสดซอย ส่วนวิธีการทำง่ายมาก ๆ เลยค่ะ เพราะเราแค่ใส่น้ำตาลปี๊บลงในหม้อแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ หลังจากน้ำตาลละลายดีแล้วเราจะใส่น้ำปลา, หอมแดง, กุ้งแห้ง และพริกขี้หนูตามลงไป ใครชอบเครื่องเน้น ๆ หน่อยก็ใส่กุ้งแห้งไปจุก ๆ แบบไม่ต้องกลัวเปลือง จากนั้นคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันและเดือดได้ที่แล้วก็ชิมให้มีรสชาติหวานนำ ตามด้วยเค็มอ่อน ๆ และมีรสเผ็ดเบา ๆ หอมกลิ่นน้ำปลาและพริกสด ถ้าได้รสชาติที่ต้องการแล้วปิดเตาและตักใส่ภาชนะ รอให้หายร้อนก่อนแล้วจัดเสิร์ฟพร้อมมะม่วงเปรี้ยวได้เลยจ้า


2. กะปิหวานแบบน้ำ

กะปิหวานแบบน้ำ 1 : กะปิ, น้ำตาล, หอมแดง และพริกสด

กะปิหวานแบบน้ำ 2 : กะปิ, น้ำตาล และพริกป่น

ถัดมาเป็นสูตรเครื่องจิ้มกะปิหวานที่เหมาะกับผลไม้รสเปรี้ยวเช่นกันค่ะ สูตรนี้จะมีแบบใส่เครื่องเน้น ๆ อย่างหอมแดงและพริกสด หรือจะใช้เป็นพริกป่นเป็นวัตถุดิบหลักก็ได้ค่ะ เริ่มจากย่างกะปิจนส่งกลิ่นหอมกรุ่น จากนั้นนำมาผสมกับน้ำตาลจนเริ่มเหลวข้นจึงจะเติมพริกลงไปจนได้ความเผ็ดตามชอบ ปิดท้ายด้วยการเติมน้ำอุ่นลงไปทีละนิดจนกะปิหวานเหลวขึ้นตามชอบเลยค่ะ สำหรับรสชาติของกะปิหวานจะหวานนำ ตามด้วยเค็ม และมีรสชาติเผ็ดร้อนของพริกป่น มีกลิ่นหอมของกะปิเผาและพริก เข้ากันได้ดีกับผลไม้รสเปรี้ยวอย่างมะม่วงเปรี้ยว, มะขามสด, มะดัน หรือมะยม


3. กะปิหวานแบบแห้ง

กะปิหวานแบบแห้ง : กะปิย่าง, น้ำตาล และพริกป่น

กะปิหวานแบบแห้งมีวัตถุดิบและวิธีการทำเหมือนกับกะปิหวานแบบน้ำเลยค่ะ นั่นก็คือกะปิย่าง, น้ำตาล และพริกป่น สำหรับสูตรนี้จะทำง่าย ทานง่าย และเก็บไว้ได้นานกว่าเพราะเราแค่นำวัตถุดิบทั้ง 3 อย่างมาผสมกันก็สามารถรับประทานได้แล้วค่ะ ลักษณะของกะปิหวานสูตรนี้จะแห้ง ๆ เหมาะกับการนำไปทานนอกสถานที่เพราะไม่หกเลอะเทอะ เหมาะกับการจิ้มของเปรี้ยวอย่างมะขามดอง, ตะลิงปลิง, มะดัน, มะเฟืองดิบ หรือมะกอกเพราะรสเปรี้ยวและความฉ่ำน้ำเบา ๆ ของผลไม้เหล่านี้จะเข้ากับรสชาติหวาน, เค็ม และเผ็ดอ่อน ๆ ของกะปิหวานได้เป็นอย่างดีค่ะ


4. พริกสดน้ำตาลปี๊บ

พริกสดน้ำตาลปี๊บ : น้ำตาลปี๊บ, เกลือป่น และพริกขี้หนูสด

เครื่องจิ้มรสชาติหวาน ๆ และมีรสเผ็ดเบา ๆ เหมาะกับผลไม้ที่มีรสชาติไม่จัดจ้านมากนักอย่างมะม่วงและฝรั่งค่ะ สำหรับวัตถุดิบที่ต้องเตรียมก็จะมีแค่น้ำตาลปี๊บ, เกลือป่น และพริกขี้หนูสด ขั้นตอนแรกเราจะนำน้ำตาลปี๊บขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ แล้วเคี่ยวจนน้ำตาลเริ่มเหลวก็ปิดเตาแล้วยกลงได้เลยค่ะ จากนั้นเราจะตำพริกให้แหลกแล้วนำลงไปผสมกับน้ำตาลปี๊บ ตามด้วยเกลือเพื่อตัดรสอีกนิดหน่อย คนให้เข้ากัน พริกสดน้ำตาลปี๊บจะมีรสชาติหวานนำและตามด้วยรสเผ็ดอ่อน ๆ ไม่จัดจ้านมากนักทำให้ทานง่าย เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่พอจะทานเผ็ดได้ค่ะ


5. พริกเกลือ

พริกเกลือ : พริกขี้หนูแดง, เกลือ และน้ำตาลทราย

สำหรับพริกเกลือจัดว่าเป็นสูตรเครื่องจิ้มที่ทำง่ายและรวดเร็วมากที่สุดเลยค่ะ เพราะสิ่งที่เพื่อน ๆ ต้องเตรียมก็มีแค่พริกขี้หนูแดง, เกลือ และน้ำตาลทราย ส่วนขั้นตอนการทำเราจะนำพริกมาโขลกให้แหลกละเอียดก่อน จากนั้นตำใส่ภาชนะแล้วนำน้ำตาลมาผสมกัน ตามด้วยเกลือในปริมาณที่เกือบจะเท่า ๆ กัน หลังจากคลุกเคล้าจนเข้ากันดีแล้วเราจะชิมรสชาติก่อนสักหน่อย พริกเกลือจะต้องมีรสเค็ม, หวาน และเผ็ดไม่มาก ส่วนใครชอบรสไหนเป็นพิเศษก็สามารถเติมได้ตามความชอบแต่ไม่ควรใส่พริกมากจนเกินไปเพราะกลิ่นฉุนของพริกอาจจะกลบกลิ่นผลไม้จนหมดค่ะ ส่วนผลไม้ที่เหมาะกับเครื่องจิ้มสูตรนี้จะมีชมพู่, ฝรั่ง, ส้ม, กระท้อน, เสาวรส, สับปะรด หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวไม่มาก


6. พริกเกลือกะปิ

พริกเกลือกะปิ : กะปิเผา, เกลือ, น้ำตาลทราย และพริกป่น

ถัดมาเป็นพริกเกลือกะปิหอม ๆ ยั่ว ๆ สำหรับสูตรนี้เราจะนำกะปิเผา, เกลือ, น้ำตาลทราย และพริกป่นมาผสมให้เข้ากัน พริกเกลือที่ได้จะมีลักษณะเหนียว ๆ แห้ง ๆ คล้ายกับน้ำปลาหวานแบบแห้งค่ะ ในส่วนของรสชาติจะหวาน, เผ็ด และเค็ม เข้ากันได้ดีกับม่วงสามรสหรือมะม่วงมัน เช่นมะม่วงปากตะกร้อดิบ, มะม่วงน้ำดอกไม้ดิบ หรือมะม่วงแรด หรือจะนำมาทานคู่กับผลไม้ชนิดอื่นก็ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นลูกหม่อน, กระท้อน, สับปะรด, มะขาม, มะกอก หรือมะขามป้อมก็แซ่บจ้า


7. พริกเกลือลาว

พริกเกลือลาว : เกลือ, น้ำตาลทราย, พริกป่น และผงชูรส

ตามมาติด ๆ กับพริกเกลือลาว เครื่องจิ้มที่ได้รับความนิยมพอ ๆ กับน้ำปลาหวานเพราะความจัดจ้านที่ไม่เคยเป็นสองรองใคร วัตถุดิบสำหรับพริกเกลือลาวจะมีกลือ, น้ำตาลทราย, พริกป่น และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือผงชูรสค่ะ เพียงแค่นำวัตถุดิบทั้งหมดมาผสมกันแต่ลดน้ำตาลให้น้อยลงหน่อย เน้นพริกป่นและผงชูรสนิดนึง รสชาติจะเค็มและเผ็ดนำ ตามด้วยรสหวานนิด ๆ เหมาะกับผลไม้รสเปรี้ยวจัดอย่างมะม่วงเบา, ตะลิงปลิง, มะดัน, มะม่วงหาวมะนาวโห่ หรือมะนาว ยิ่งได้นำมาคลุกเคล้ากับผลไม้แล้วทิ้งไว้จนละลายนี่บอกเลยว่าสุดจะฟิน


8. พริกเกลือบ๊วย

พริกเกลือบ๊วย : ผงบ๊วย, น้ำตาลทราย และเกลือ

สายฝอต้องถูกใจแน่นอนเพราะนี่คือเรื่องจิ้มฝรั่ง! (คนละฝรั่งกันหรือเปล่า) สำหรับพริกเกลือบ๊วยขอบอกว่าทำง่ายกว่าที่คิดค่ะ เพียงแค่เรานำผงบ๊วย, น้ำตาลทราย และเกลือมาผสมในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน ส่วนผงบ๊วยสามารถสั่งซื้อได้ทางออนไลน์หรือจะนำบ๊วยแห้งมาแกะเอาเฉพาะเนื้อแล้วปั่นให้เป็นผงละเอียดก็สามารถทำได้เหมือนกันค่ะ และแน่นอนว่าผลไม้ที่เหมาะกับการนำมาจิ้มพริกเกลือบ๊วยมากที่สุดก็คือฝรั่งเพราะรสชาติหวานนิด ๆ ของเนื้อฝรั่งเข้ากันได้ดีกับพริกเกลือบ๊วยรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นอกจากนี้ผลไม้แปรรูปอย่างมะม่วงและฝรั่งแช่บ๊วยก็สามารถนำมาทานคู่กันได้นะคะ รับรองว่าทานแล้วสดชื่นแน่นอน


9. แจ่วปลาร้า

แจ่วปลาร้า :หอมแดงซอย,น้ำปลาร้า, พริกป่น, น้ำตาล ,ผงชูรส และข้าวคั่ว

เปลี่ยนมาทำเครื่องจิ้มแซ่บนัวเอาใจคอปลาร้ากันสักหน่อย สำหรับแจ่วปลาร้าเป็นเครื่องจิ้มที่เข้ากับผลไม้รสเปรี้ยวอย่างมะหลอด, มะม่วงหาวมะนาวโห่, มะม่วงเบา, ตะคร้อ, มะไฟ หรือตะลิงปลิง สำหรับวัตถุดิบที่เราจะต้องเตรียมก็จะมีหอมแดงซอย, น้ำปลาร้า, พริกป่น, น้ำตาล ,ผงชูรส และข้าวคั่ว หลังจากนำทุกอย่างมาผสมรวมกันเราก็จะได้แจ่วปลาร้าหอม ๆ นัว ๆ ทั้งกลิ่นปลาร้าและข้าวคั่วตลบอบอวลชวนน้ำลายสอ ยิ่งนำผลไม้เปรี้ยวจี๊ดมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้วตักเข้าปาก ตอนกัดลงไปจนเนื้อผลไม้แตกส่งรสชาติเปรี้ยวจัดออกมาคลุกเคล้ากับรสชาติเค็ม ๆ เผ็ด ๆ ของแจ่วยิ่งฟิน แค่คิดก็เปรี้ยวปากแล้วค่ะ


10. น้ำปลาร้าหวาน

น้ำปลาร้าหวาน : น้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา, หอมแดงซอย, พริกขี้หนู, กุ้งแห้ง และน้ำปลาร้า

ปิดท้ายด้วยน้ำปลาร้าหวานนัวกรุบกริบ เครื่องจิ้มผลไม้รสเปรี้ยวที่แค่เห็นก็รู้สึกได้ถึงความอร่อย สำหรับน้ำปลาร้าหวานจะใช้วัตถุดิบไม่ต่างกับน้ำปลาหวานเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา, หอมแดงซอย, พริกขี้หนู หรือกุ้งแห้ง แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือน้ำปลาร้า ส่วนรสชาติก็จะหวานนำ ตามด้วยเค็ม และเผ็ดนิด ๆ พร้อมหอมกลิ่นน้ำปลาร้าเบา ๆ เข้ากันได้ดีกับมะม่วงเบา, มะดัน, มะยม, ตะคร้อ, มะขามอ่อน, มะไฟ หรือจะนำองุ่นเปรี้ยวมาจิ้มก็แซ่บอีหลีค่ะ


และนี่ก็คือ 10 สูตรเครื่องจิ้มผลไม้ที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ เป็นอย่างไรบ้างคะ แต่ละสูตรนี่แค่อ่านก็รู้สึกเปรี้ยวปากอยากลุกไปสอยมะม่วงแล้ว โดยเฉพาะน้ำปลาหวานนี่เป็นเครื่องจิ้มที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะนอกจากจะเข้ากับผลไม้หลากหลายประเภทแล้ววยังเก็บไว้ได้นานอีกด้วย

นอกจากจะทำไว้ทานเองที่บ้านแล้วเพื่อน ๆ ยังสามารถทำเครื่องจิ้มขายเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วยนะคะ ช่วงไหนที่มีผลไม้เยอะ ๆ เพื่อน ๆ ลองทำเครื่องจิ้มมาทานคู่กับผลไม้สด ๆ ดูนะคะ รับรองว่าอร่อยฟินทุกสูตรแน่นอนจ้า

นอกจากสูตรเครื่องจิ้มแล้วเรายังมีบทความแนะนำสูตรเมนูอาหารอีกมากมายเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารเช้า, เมนูต้มยำ, เมนูยำ, หมูทอด, เมนูเด็กหอ, เมนูกับแกล้ม, เมนูนึ่งมะนาว, เมนูเต้าหู้, เมนูข้าวต้ม, เมนูจากเห็ด, เมนูสำหรับคนเป็นเบาหวาน, เมนูสำหรับผู้สูงอายุ, เมนูอาหารใต้, อาหารเหนือ, อาหารอีสาน, อาหารญี่ปุ่น, สูตรหมักหมูกะทะ, สูตรน้ำจิ้ม, สูตรน้ำสลัด, สปาเก็ตตี้, แซนด์วิช หรือจะเป็นบทความแนะนำอาหารจากร้านสะดวกซื้อก็มีค่ะ มีทั้งข้าวกล่อง, ของทานเล่น, อาหารเช้า, อาหารช่วยขับถ่าย รวมไปถึงอาหารคลีนและอาหารคีโตก็มีนะจ๊ะ