สวัสดีค่ะคุณแม่บ้านพ่อบ้านทุกท่าน หลังจากครั้งก่อนที่เราได้แนะนำเมนูอาหารจากหม้อหุงข้าว, เมนูอาหารจากไมโครเวฟ, เมนูจากหม้อทอดไร้น้ำมัน และคุกกี้จากหม้ออบลมร้อนกันไปแล้ว วันนี้คุณแม่มีความภูมิใจและยินดีจะนำเสนอ “เมนูอาหารคาวง่าย ๆ จากเตาอบ” กันบ้างค่ะ หลาย ๆ คนอาจคิดว่าเตาอบเหมาะสำหรับทำเมนูของหวาน อย่างพวก บราวนี่, คุกกี้, ขนมปัง, เค้ก หรือโดนัทอบ เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเตาอบมัลติฟังก์ชันสามารถเนรมิตเมนูอาหารได้มากกว่าขนมเบอเกอรี่ค่ะ แค่มีเตาอบไฟฟ้าหรือเตาอบแก็สสักเครื่องคุณก็สามารถรังสรรค์เมนูได้หลากหลาย แถมยังอร่อยถูกอกถูกใจทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่กันเลยเชียว
ซึ่งเมนูอาหารคาวที่จะนำมาเสนอในวันนี้ อาจจะดูยุ่งยากหลายขั้นตอน แต่จริง ๆ แล้ว กลับทำได้ง่ายมาก ๆ แถมการทำอาหารเอง ยังช่วยให้เราได้เลือกวัตถุดิบที่ดีและมีคุณภาพตรงตามความต้องการของแต่ละครอบครัว อีกทั้งยังเป็นเมนูที่สามารถทำครั้งเดียว แต่รับประทานได้หลายมื้อและหลายคน คุ้มค่าแบบนี้ต้องลองไปแกะสูตรทำกันดูด่วน ๆ เลยจ้า!!
1. เมนูอกไก่อบชีสพาเมซอน
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เน้นโปรตีนกันสุด ๆ แต่ทางสายคลีนอาจจะไม่ใช่แนว แต่ถ้าสายกินล่ะก็ รับรองว่าถูกใจสุด ๆ ด้วยการอบเนื้ออกไก่นุ่ม ๆ สอดไส้ชีสพาเมซอน ที่รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อย หรือจะรับประทานคู่กับสลัดก็เข้ากั้น เข้ากัน หรือใครจะรับประทานคู่กับมันบดหรือมันอบ ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ
วัตถุดิบอกไก่อบชีสพาเมซอน
- เนื้ออกไก่สไลด์
- ชีสพาเมซอน
- เกลือ
- พริกไทย
- ผงกระเทียม
- ผงปาปริกา
วิธีทำอกไก่อบชีสพาเมซอน
- นำอกไก่มาล้างทำความสะอาดและซับให้แห้งด้วยกระดาษอเนกประสงค์
- จากนั้นหมักด้วยเกลือ พริกไทย ผงกระเทียม และ ผงปาปริกา แช่ตู้เย็นพักไว้ 1 ชั่วโมง
- นำชีสพาเมซอนมาม้วนในอกไก่ที่หมักไว้ และใช้ไม้จิ้มฟันกลัดไว้ให้ตรึงเข้าด้วยกัน จากนั้นโรยชีสพาเมซอนบนอกไก่แล้วนำเข้าเตาอบ
- อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที
- นำออกมาตัดเสิร์ฟ ทานคู่กับข้าวสวย ผักสลัด มันอบ หรือ มันบด ก็อร่อยสุด ๆ เลยค่ะ
2. เมนูพิซซ่าดอกกะหล่ำ
เอาใจคนชอบรับประทานพิซซ่า แต่ยังอยากหุ่นดี ด้วยการเปลี่ยนแป้งพิซซ่าที่ทำมาจากแป้งสาลีหรือแป้งขนมปัง มาใช้ดอกกะหล่ำกันค่ะ แอบกระซิบหน่อยว่าสูตรนี้ถูกใจเด็ก ๆ ที่บ้านมาก ๆ หากบ้านไหนมีเด็ก ๆ ที่ไม่ค่อยชอบกินผัก เมนูนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เด็ก ๆ ก็ชอบเลยล่ะค่ะ
วัตถุดิบพิซซ่าดอกกะหล่ำ
- ดอกกะหล่ำ
- ชีสพาเมซอน
- มอซซาเรลล่า ชีส
- เกลือ
- ซอสมะเขือเทศเข้มข้น หรือ ซอสพิซซ่าสำเร็จรูป
- ท็อปปิ้งด้วยเนื้อสัตว์ที่ชื่นชอบ เช่น ไก่ กุ้ง อาหารทะเล ฯลฯ
- ผักสลัดสำหรับโรยหน้าพิซซ่า (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
- ออริกาโน่
วิธีทำพิซซ่าดอกกะหล่ำ
- นำดอกกะหล่ำไปล้างทำความสะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หลังจากนั้นให้นำไปนึ่งประมาณ 5 นาที และนำไปปั่นในเครื่องปั่นอาหารให้ละเอียด
- เทดอกกะหล่ำที่ปั่นละเอียดมาใส่ผ้าขาวหรือผ้ากรอง เพื่อบีบน้ำจากดอกกะหล่ำให้หมด
- นำไปนวดกับชีสพาเมซอน เติมเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
- นำดอกกะหล่ำที่ได้มานวดเป็นแผ่นวงกลมบนถาดพิซซ่า เพื่อนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 – 20 นาที หรือ จนแป้งพิซซ่าจากดอกกะหล่ำเหลืองสุก
- ขณะรออบแป้งพิซซ่าดอกกะหล่ำ เราก็มาผัดไก่ หรือ เนื้อสัตว์ที่เราชอบ เติมเกลือเล็กน้อย พักรอไว้
- นำซอสมะเขือเทศเข้มข้น หรือ ซอสพิซซ่าสำเร็จรูปมาทาบนแป้งพิซซ่าดอกกะหล่ำ โรยด้วยชีส mozzarella ตามด้วยไก่ที่ผัดไว้ในขั้นตอนที่ 4 และโรยด้วยชีส mozzarealla อีกครั้ง
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที
- โรยหน้าด้วยผักสลัด เพื่อความเฮลท์ตี้ขั้นสุด และกลิ่นหอม ๆ ด้วยออริกาโน่ ตัดพิซซ่า จัดเสิร์ฟเลยค่ะ
3. เมนูลาซานญ่ามะเขือม่วง(Eggplant Lasagna)
หากใครที่ชอบทานลาซานญ่าเนื้อสับ ต้องลองปันใจกับสูตรนี้สักหน่อยแล้วล่ะค่ะ เพราะอร่อยไม่แพ้ลาซานญ่าจากแผ่นแป้งลาซานญ่าเลยค่ะ วิธีทำแทบจะเหมือนกันทุกขั้นตอน เพียงแค่เปลี่ยนจากแผ่นพาสต้าลาซานญ่า มาเป็นมะเขือม่วงฝรั่งแทน ได้อีกหนึ่งเมนูที่ลดแคลอรี่มาได้เยอะ แถมอร่อยสุด ๆ ใเห้ฟีลเหมือนกินลาซานญ่าแบบปกติเลยล่ะค่ะ
วัตถุดิบลาซานญ่ามะเขือม่วง(Eggplant Lasagna)
- มะเขือม่วง
- เนื้อสับ
- ซอสมะเขือเทศเข้มข้น
- หัวหอมใหญ่หั่นเต๋า
- มะเขือเทศหั่นเต๋า
- Sour cream (ซาวครีม/ครีมเปรี้ยว)
- มอซซาเรลล่า ชีส
- เกลือ
- พริกไทย
- น้ำมันมะกอก
- ออริกาโน่
วิธีทำลาซานญ่ามะเขือม่วง(Eggplant Lasagna)
- นำมะเขือม่วงฝรั่งมาสไลด์ให้ความหนาประมาณ ½ เซนติเมตร โรยเกลือและน้ำมันมะกอก นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 45 นาที
- ขณะรอมะเขือม่วงในเตาอบ มาเตรียมส่วนของเนื้อสับกันค่ะ เตรียมกระทะ ใส่น้ำมันมะกอก และตามด้วยหัวหอมใหญ่หั่นเต๋า ผัดให้เหลืองหอม
- ใส่เนื้อสับลงไปผัดกับหอมใหญ่ให้สุก ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย จากนั้นใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น และมะเขือเทศหั่นเต๋าลงไป ตามด้วยออริกาโน่ เพิ่มความหอม
- นำมะเขือม่วงฝรั่งที่อบแล้ว มาจัดเรียงบนถาดหรือภาชนะที่ใช้อบ และตักเนื้อสับที่เตรียมไว้แล้วมาเกลี่ยให้เรียบ ท็อปปิ้งด้วย sour cream และ มอซซาเรลล่า ชีส และนำมะเขือม่วงฝรั่งที่อบไว้มาวางเรียง และตามด้วเนื้อสับต่อด้วย sour cream และ มอซซาเรลล่า ชีส อีกครั้ง ทำแบบนี้จนหมด พร้อมนำเข้าอบ
- อบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 – 20 นาที
- ตัดเสิร์ฟ ทานคู่กับ Tortilla chips (แผ่นข้าวโพดกรอบ) หรือ อะโวคาโด้ อร่อยมาก ๆ เลยค่ะ
4. เมนูหอยเชลล์พันเบค่อนอบ
แค่ได้ยินชื่อเมนู ก็น้ำลายไหลแล้วล่ะค่ะ ทำกี่ครั้งก็ไม่เคยหยุดรับประทานได้เลยล่ะค่ะ เป็นเมนูทานเล่นที่อร่อยมาก ๆ แถมยังทำง๊าย ง่าย และใช้วัตถุดิบเพียง 2 อย่างเท่านั้น ก็สามารถรังสรรค์อาหารว่างอย่างหอยเชลล์พันเบค่อนได้แล้วล่ะค่ะ
วัตถุดิบหอยเชลล์พันเบค่อนอบ
- หอยเชลล์
- เบค่อน
วิธีทำหอยเชลล์พันเบค่อนอบ
- นำเบค่อนมาพันหอยเชลล์ และใช้ไม้จิ้มฟันกลัดไว้
- นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 – 15 นาที
- นำออกจากเตา พร้อมเสิร์ฟค่ะ
- แนะนำว่าดิปกับน้ำจิ้มซีฟู้ดอร่อยแซ่บ ๆ สไตล์ไทยแลนด์มาก ๆ เลยล่ะค่ะ
6. เมนูหอมหัวใหญ่อบ Blooming onion
จริง ๆ แล้ว Blooming onion ก็คือ “หัวหอมทอด” แต่ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนจากการทอดมาใช้เตาอบกันบ้าง หากใครเป็นสาวกหอมทอด ต้องไม่พลาดเมนูนี้นะคะ อร่อยแบบหยุดไม่อยู่เลยล่ะค่ะ ทานคู่กับน้ำจิ้มไก่ หรือซอสมะเขือเทศเนี่ย เข้ากั๊น เข้ากันมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ส่วนใหญ่แล้ว หลาย ๆ สูตรอาจใช้วิธีการทอด แต่วันนี้ลองนำสูตรอบมาแบ่งปันกันดูค่ะ อร่อยไม่แพ้กัน คอนเฟิร์ม!!
วัตถุดิบBlooming onion
- หัวหอมใหญ่
- แป้งสาลีอเนกประสงค์
- แป้งข้าวโพด
- เกลือ
- พริกไทย
- ผงกระเทียม
- ปาปริก้า
- เกล็ดขนมปังละเอียดที่ใช้อบ
- ไข่ไก่
- ต้นหอมซอย
วิธีทำBlooming onion
- นำหัวหอมใหญ่ปอกเปลือก และล้างทำความสะอาด จากนั้นมาหั่น โดยตัดส่วนหัวออก แต่จะไม่หั่นจนถึงฐานสุดของหอมใหญ่ แล้วจับกางออก จะมีรูปร่างคล้ายดอกไม้
- ผสมแป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวโพด เกลือ พริกไทย ผงกระเทียม ปาปริก้า พักไว้
- นำหัวหอมใหญ่ที่หั่นไว้ มาชุบกับผงหมักที่เราเตรียมไว้
- นำไปชุบกับไข่ไก่และนำกลับไปชุปกับผงหมักอีกครั้ง ทำแบบนี้ 2 รอบค่ะ
- โคทด้วยเกล็ดขนมปังละเอียดที่ใช้อบ
- นำเข้าเตาอบที่ 220 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที
- นำออกจากเตา โรยด้วยต้นหอมซอย จัดเสิร์ฟค่ะ
7. เมนูมันหวานอบมาร์ชเมลโล่
เมนูนี้จะถือเป็นอาหารคาวก็ดี อาหารหวานก็ได้ ด้วยรสชาติของมันหวานอบ ปรุงรสด้วยผงอบเชยและเกลือชมพู บอกเลยว่าอร่อยสุด ๆ ยิ่งเสิร์ฟคู่กับไก่งวงอบในวันขอบคุณพระเจ้าของฝรั่งล่ะก็ โอโห้ อร่อยสุดล้ำจริง ๆ ค่ะ
วัตถุดิบมันหวานอบมาร์ชเมลโล่
- มันหวาน
- มาร์ชเมลโล่
- เกลือชมพู
- ผงอบเชย
วิธีทำมันหวานอบมาร์ชเมลโล่
- นำมันหวานมาล้างทำความสะอาด ห่อฟอยล์อะลูมิเนียม เตรียมเข้าอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ½ ชั่วโมง
- นำมันหวานที่ได้ออกมาบดให้ละเอียด เติมเกลือชมพูและผงอบเชย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะที่ใช้สำหรับอบ
- นำมาร์ชเมลโล่มาเรียงบนมันหวานและเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาที
- จัดเสิร์ฟเลยจ้า
8. เมนูหมูแดงอบน้ำผึ้ง
มาถึงเมนูไทย ๆ ที่หลายคนโปรดปราน รวมถึงดิฉันด้วยค่ะ หมูแดงอบน้ำผึ้งฉ่ำ ๆ ที่จะนำมารับประทานเป็นข้าวหมูแดงก็อร่อย หรือ จะเป็นบะหมี่หมูแดงก็เลิศ เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งเมนูเลยล่ะค่ะ
วัตถุดิบหมูแดงอบน้ำผึ้ง
- สันคอหมู
- กระเทียม
- พริกไทยป่น
- รากผักชี
- เกลือป่น
- ผงพะโล้สำเร็จรูป
- น้ำตาลทราย
- ซีอิ๊วขาว
- ซีอิ๊วดำ
- น้ำมันงา
- น้ำปลา
- น้ำผึ้ง
- สีผสมอาหารสีแดง
วิธีทำหมูแดงอบน้ำผึ้ง
- โขลกสามเกลอ กระเทียม รากผักชี พริกไทยป่นเข้าด้วยกันในครก
- นำสันคอหมูไปล้างความสะอาด หมักด้วยสามเกลอ, เกลือ, ซีอิ๊วขาว, น้ำตาลทราย, ซีอิ๊วดำ, นำมันงา, น้ำปลา, น้ำผึ้ง และ ผงพะโล้สำเร็จรูป หยอดสีผสมอาหารสีแดงเล็กน้อยเพิ่มสีสัน
- นวดส่วนผสมให้เข้ากับสันคอหมู และนำเข้าตู้เย็นพักไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือข้ามคืนยิ่งอร่อยค่ะ
- นำหมูแดงที่หมักไว้ เข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 40-45 นาที
- หั่นเป็นชิ้นตามชอบ จัดเสิร์ฟค่ะ
9. เมนูซี่โครงหมูอบบาร์บีคิว
เมนูนี้เป็นสูตรที่ทำง่าย ซึ่โครงหมูนุ่มละมุนลิ้นสุด ๆ จะทานคู่กับเฟรนฟรายด์ มันอบ หรือ ทานคู่กับส้มตำของไทยก็อร่อยสุด ๆ ไปเลยค่ะ ลองไปเตรียมวัตถุดิบและดูวิธีทำกันเลยดีกว่าค่ะ
วัตถุดิบซี่โครงหมูอบบาร์บีคิว
- ซี่โครงหมู
- น้ำตาลปี๊บ หรือ น้ำตาลทรายแดง
- เกลือ
- ผงปาปริก้า
- พริกไทยขาวป่น
- ผงกระเทียม
- ลูกผักชี
- น้ำสับปะรด
- ซอสบาร์บีคิวสำเร็จรูป
- น้ำผึ้ง
วิธีทำซี่โครงหมูอบบาร์บีคิว
- นำซี่โครงหมุมาล้างให้สะอาด เพื่อทำการหมัก
- นำส่วนผสมของซอสหมัก ได้แก่ น้ำตาลปี๊บ, เกลือ, ผงปาปริก้า, พริกไทยขาวป่น, ผงกระเทียม, ลูกผักชี, น้ำสับปะรด และซอสบาร์บีคิวสำเร็จรูปมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- นำไปหมักกับซี่โครงหมูอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
- นำซี่โครงหมูหมักที่ได้ มาใส่ภาชนะสำหรับอบและปิดด้วยฟอล์ยอะลูมิเนียม เข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
- นำซี่โครงหมูออกจากเตาอบ ทาด้วยซอสบาร์บีคิวผสมน้ำผึ้งทาบนซี่โครงหมู และนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที
- นำออกจากเตา จัดเสิร์ฟ
9. เมนูปลาแซลมอนอบเกลือเลม่อน
หากเบื่อปลาแซลมอนดิบ ลองมาอบปลาแซลมอนให้หอมฟุ้ง รับประทานกับข้าวญี่ปุ่น อร่อยสุด ๆ ไปเลยล่ะค่ะ เนื้อปลาแซลมอนที่ละมุนลิ้น บวกกับกลิ่นเลม่อนหอม ๆ เย้ายวน ชวนให้เติมข้าวกันไปหลายรอบเลยทีเดียวค่ะ
วัตถุดิบปลาแซลม่อนอบเกลือเลม่อน
- ปลาแซลม่อน
- เกลือ
- พริกไทย
- เลม่อนหั่นสไลด์
วิธีทำปลาแซลม่อนอบเกลือเลม่อน
- นำปลาแซลม่อนมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย หมักเกลือและพริกไทย วางเลม่อนหั่นสไลด์ไว้ในช่วงราวท้อง ด้านบน และด้านล่างของปลาแซลม่อน พักไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- นำปลาแซลม่อนเข้าอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 40 – 45 นาที
- นำออกจากเตา ตัดเสิร์ฟ หอมกลิ่นเลม่อนสุด ๆ เลยค่ะ
10. เมนูกุ้งลอปสเตอร์อบเนยกระเทียม
ไม่ได้ตั้งใจยั่วให้น้ำลายไหลเลยค่ะ แต่เมนูนี้มันช่างดีงามพระรามสี่จริง ๆ ค่ะ ทั้งหอมเนย ทั้งหอมกระเทียม เรียกว่าหอมฟุ้งไปสามบ้านเจ็ดบ้าน ที่สำคัญทำง่ายสุด ๆ เลยค่ะ ใช้เวลาไม่นาน ก็ได้กินอาหารหรูที่ทำได้เองที่บ้านแล้วล่ะค่ะ และอยากกระซิบบอกว่า รับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด แซ่บเว่อร์เลยค่ะ
วัตถุดิบกุ้งลอปสเตอร์อบเนยกระเทียม
- กุ้งลอปสเตอร์
- เนยจืด
- กระเทียมสับ
- เกลือป่น
วิธีทำกุ้งลอปสเตอร์อบเนยกระเทียม
- นำกุ้งลอปสเตอร์มาทำความสะอาด แล้วผ่าหลังกุ้ง ตัดจนไปถึงหางกุ้งลอปสเตอร์ และดันเนื้อลอปสเตอร์ขึ้นมา เพื่อจะให้สุกง่ายขึ้นเมื่อเข้าอบ
- นำเนยจืดมาละลาย เพิ่มรสชาติด้วยเกลือเล็กน้อย และใส่กระเทียมสับลงไป ผสมให้เข้ากัน
- นำมาราดบนตัวกุ้งลอปสเตอร์ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1
- นำเข้าเตาอบ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที
- จัดเสิร์ฟเลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ เมนูอาหารง่าย ๆ จากเตาอบ ที่ไม่ว่าจะคุณจะอยากได้แนวไทย แนวฝรั่ง ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณเอง ที่สำคัญคุณจะได้มีเวลารับประทานอาหารอร่อย ๆ ฝีมือคุณเองอีกด้วย ก็อย่าลืมนำสูตรอาหารจากเตาอบที่ได้มาแชร์และแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปฝึกทำดู แล้วอย่าลืมมาอวดหน้าตาอาหารจากเตาอบให้ดูกันด้วยนะคะ หรือใครมีสูตรอาหารจากเตาอบเด็ด ๆ ที่อยากแบ่งปัน ก็อย่าลืมมากระซิบบอกกันบ้างนะจ๊ะ นะจ๊ะ…..