สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับบทความรีวิวอาหารกันอีกแล้ว บทความนี้บอกเลยว่าพิเศษมาก ๆ เพราะเมนูที่เราจะนำมาแชร์นั้นคือ “อาหารมังสวิรัติ” ซึ่งมังสวิรัติเป็นแนวทางปฏิบัติที่หลายคนหันมาสนใจกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีแล้วยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดการฆ่าสัตว์มีชีวิตด้วยค่ะ
นอกจากนี้มังสวิรัติยังมีหลายกลุ่ม มีหลายสายให้เลือกทำให้เราสามารถปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตและความสะดวกของแต่ละคน และในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมเมนูมังสวิรัติมาให้คุณเลือกถึง 10 เมนูจุก ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในวันที่เบื่อและไม่รู้จะทานอะไรดีค่ะ เมนูของเราจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่า
มังสวิรัติ ต่างจาก การทานเจอย่างไร ?
บางคนอาจจะรู้สึกสงสัยว่าระหว่างอาหารเจกับมังสวิรัติเนี่ยแตกต่างกันอย่างไร? ในเมื่อเป้าหมายของทั้ง 2 กลุ่มนี้หมือนกันคือ “ละเว้นเนื้อสัตว์” จริง ๆ แล้วทั้ง 2 กลุ่มค่อนข้างที่จะต่างกันเลยค่ะ จะกล่าวง่าย ๆ ว่าจริง ๆ แล้วอาหารเจก็คือหนึ่งในหลักการทานมังสวิรัติ แต่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างจะเคร่งครัด นั่นคือการหลีกเลี่ยงวัตถุดิบที่มีกลิ่นฉุน และจะต้องถือศีลและให้ทานอย่างเคร่งครัด (อ่านเพิ่มเติมที่นี่)
ขณะที่มังสวิรัติจะสามารถแบ่งได้หลายกลุ่มและจะมีข้อจำกัดแตกต่างกันออกไป บางกลุ่มอาจจะเคร่งครัดถึงขั้นหลีกเลี่ยงการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่มาจากสัตว์และทำการทดลองจากสัตว์ค่ะ ส่วนบางกลุ่มไม่ทานสัตว์ใหญ่แต่สามารถทานปลาและอาหารทะเลได้ และบางกลุ่มอาจะทานเฉพาะผักผลไม้ดิบเท่านั้น รวมไปถึงอีกหลาย ๆ กลุ่มที่มีเงื่อนไขเล็ก ๆ น้อย ๆ แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมค่ะ
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเจและมังสวิรัติไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว เนื่องจากเจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลักความเชื่อและเคร่งครัดมากกว่า เพียงแค่มีเป้าหมายเหมือนกันเท่านั้นเองค่ะ
1. ผัดมาม่ามังสวิรัติ
เริ่มต้นด้วยเมนูที่ง่ายแสนง่ายอย่างผัดมาม่า เมนูนี้ถึงจะไม่มีเนื้อสัตว์ก็อร่อยถูกใจได้ง่าย ๆ เราจะลวกเส้นให้นิ่มกำลังดี มีความหนึบ ๆ เล็กน้อย จากนั้นนำมาผัดรวมกับผักที่ชอบ ยิ่งถ้ามีแครอทและกะหล่ำปลีกรุบ ๆ ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ เมนูนี้จะมีรสค่อนเค็มหวานกลมกล่อม เผ็ดนิด ๆ หอมกลิ่นพริกไทยหน่อย ๆ ทานได้บ่อยไม่เบื่อแน่นอน
วัตถุดิบผัดมาม่ามังสวิรัติ
- เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- พริกชี้ฟ้า
- แครอท
- คะน้า
- กะหล่ำดอก
- ข้าวโพดอ่อน
- น้ำตาล
- เกลือ
- ซอสถั่วเหลือง
- พริกไทยป่น
- น้ำมันพืช
วิธีทำผัดมาม่ามังสวิรัติ
- ขั้นตอนที่ 1: มาเตรียมผักกันก่อนดีกว่าค่ะ สำหรับผักสามารถเปลี่ยนได้ตามความชอบเลยนะคะ ใครจะใส่เห็ดหรือกะหล่ำปลีลงไปด้วยก็ได้ ไม่ว่ากันค่ะ นำผักทั้งหมดมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำเตรียมไว้เลยค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2: ต้มน้ำจนเดือดแล้วนำเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาลวกจนนิ่มพอประมาณค่ะ ไม่ต้องลวกจนสุกมากนะคะเพราะตอนผัดเส้นจะเละและไม่น่าทาน จากนั้นนำขึ้นมาล้างนำเย็นแล้วพักให้สะเด็ดน้ำได้เลยค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3: ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นนำผักทั้งหมดลงผัดจนสลดและเริ่มสุกนิ่ม จากนั้นใส่เส้นตามไปเลยค่ะ ใช้ไฟกลางผัดให้พอเข้ากันแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล, เกลือ, ซอสถั่วเหลือง และเพิ่มความหอมด้วยพริกไทยป่นเล็กน้อย ผัดให้เข้ากันแล้วปรุงรสชาติตามชอบ พอใจแล้วตักใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ
2. สุกี้น้ำ
สุกี้เป็นเมนูยอดฮิตสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักหรือกำลังทานอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากส่วนประกอบหลักของเมนูนี้คือผักนานาชนิดขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน เอาจริง ๆ แล้วเมนูนี้จะใส่อะไรก็อร่อยถูกใจค่ะ สุกี้สูตรนี้จะเหมาะกับสายมังสวิรัติไข่เนื่องจากมีไข่เป็นส่วนประกอบ แต่หากใครเคร่งกว่านี้ก็สามารถตัดไข่ออกไปได้แต่อาจจะไม่ได้ฟีลของความเป็นสุกี้สักเท่าไหร่ค่ะ
วัตถุดิบสุกี้น้ำ
- ไข่ไก่
- ลูกชิ้นเห็ดหอมเจ
- วุ้นเส้น
- กระเทียม
- ผักกาดขาว
- แครอท
- ข้าวโพดอ่อน
- บร็อกโคลี่
- น้ำซุปผัก
- น้ำจิ้มสุกี้สูตรเจ
วิธีทำสุกี้น้ำ
- ขั้นตอนที่ 1: นำผักที่มีมาล้างให้สะอาดก่อนค่ะ ปอกเปลือกแครอทแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดตามชอบ ส่วนผักกาดหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำกระเทียมมาบุบให้พอแตก จากนั้นนำลูกชิ้นเห็ดมาล้างทำความสะอาดเพื่อลดกลิ่นค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2: ต้มน้ำซุปผักจนเดือดแล้วนำกระเทียมลงไปก่อนเลยค่ะ จากนั้นตามด้วยผักเนื้อแข็งอย่างแครอทและข้าวโพดอ่อนรวมถึงลูกชิ้นเห็ด ผักที่ใส่ไปเริ่มนิ่มแล้วเราจะตามด้วยผักทั้งหมดที่เหลือค่ะ ปรุงรสด้วยน้ำจิ้มสุกี้สูตรเจ
- ขั้นตอนที่ 3: ผักเริ่มสลบแล้วเราจะปิดท้ายด้วยวุ้นเส้นและไข่ หลังตอกไข่ให้เร่งไฟแรงแล้วคอยคนตลอดเพื่อไม่ให้ไข่จับตัวเป็นก้อน ชิมรสชาติอีกเล็กน้อยก็สามารถตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
3. เต้าหู้อบวุ้นเส้น
เมนูนี้เหมาะกับคนที่ชอบทานสมุนไพรและชื่นชอบรสชาติเผ็ดร้อนค่ะ เพราะเรามีทั้งขิง, พริกไทย และพริกชี้ฟ้ามาเรียกความเผ็ดร้อนในหลากหลายสไตล์ ตัวซอสจะมีรสชาติเค็มหวานเข้มข้นที่ถูกดูดซึมเข้าไปอยู่ในทุกอณูของวุ้นเส้นเหนียวนุ่ม บวกกับเต้าหู้เนื้อเนียนและหอมกลิ่นน้ำมันงาและเห็ดหอมค่ะ เป็นเมนูอบวุ้นเส้นอีกหนึ่งสูตรที่เราอยากให้ลองมาก ๆ
วัตถุดิบเต้าหู้อบวุ้นเส้น
- เต้าหู้เหลืองหรือเต้าหู้กระดาน
- วุ้นเส้น
- เห็ดหอมแห้ง
- ขึ้นฉ่าย
- พริกไทยดำ
- กระเทียม
- ขิง
- พริกชี้ฟ้า
- น้ำตาล
- พริกไทยป่น
- น้ำมันงา
- ซอสปรุงรสเจ
- ซีอิ๊วดำ
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำมันพืช
วิธีทำเต้าหู้อบวุ้นเส้น
- ขั้นตอนที่ 1: นำเห็ดหอมมาล้างเอาฝุ่นออกและแช่น้ำทิ้งไว้ก่อนค่ะ จากนั้นหยิบขึ้นฉ่ายมาล้างทำความสะอาดและหั่นรากมาเก็บไว้สำหรับผสมเครื่องปรุง ส่วนใบและก้านบางส่วนเราจะนำมาตกแต่งจานค่ะ เสร็จแล้วนำขิงมาหั่นและนำกระเทียมและพริกไทยดำเม็ดมาบุบเตรียมไว้
- ขั้นตอนที่ 2: มาเตรียมซอสสำหรับอบวุ้นเส้นกันต่อค่ะ เริ่มจากผสมน้ำตาล, ซีอิ๊วขาว, ซีอิ๊วดำ, ซอสปรุงรส, พริกไทยป่น, พริกไทยเม็ด และน้ำมันงา จากนั้นคนผสมจนน้ำตาลละลาย นำวุ้นเส้นลงมาแช่พักไว้ก่อนค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3: ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ลังจากนั้นมันเริ่มร้อนแล้วนำขิง, รากขึ้นฉ่าย และกระเทียมลงผัดจนสุกหอมก่อนค่ะ จากนั้นนำเห็ดหอมและเต้าหู้ลงทอดจนผิวเหลืองสวยทั้ง 2 ด้าน ปรับเป็นไฟกลางค่อนอ่อนแล้วเทวุ้นเส้นพร้อมน้ำซอสลงไป ปิดฝาอบจนวุ้นเส้นสุกนิ่ม พร้อมเสร์ฟค่ะ
4. สลัดโรล
เมนูนี้ทำง่ายและอร่อยมาก ๆ ค่ะ สลัดโรลเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่สามารถดัดแปลงได้หลากหลาย จะใส่หรือไม่ใส่เนื้อสัตว์ก็ได้ สำหรับเมนูนี้เราแนะนำให้เลือกใช้ผักสดที่มีความกรอบและมีรสชาติอร่อยตามธรรมชาติจะช่วยให้สลัดโรลมีรสชาติอร่อยขึ้นอีกหลายเท่าตัว โดยคุณสามารถดูสูตรและวิธีทำแบบเต็ม ๆ ได้ที่ เมนูผัก: สลัดโรล
5. กะเพราเต้าหู้ไข่ทอด
มาเปลี่ยนกะเพราเดิม ๆ ให้ดัต่อสุขภาพและถูกหลักมังสวิรัติด้วยกะเพราเต้าหู้ไข่ทอดค่ะ ถึงจะไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์แต่เราก็ได้โปรตีนเน้น ๆ จากเต้าหู้ไข่มาแทนที่ ในส่วนของเราชาติเราจะปรุงให้ค่อนข้างที่จะเข้มข้นทั้งเค็ม หวาน และเผ็ด พร้อมชิ้นเต้าหู้นุ่มหนึบ รับรองว่าคุณจะต้องถูกใจแน่นอนค่ะ
วัตถุดิบกะเพราเต้าหู้ไข่ทอด
- เต้าหู้ไข่
- ใบกะเพรา
- พริกขี้หนู
- กระเทียม
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาล
- น้ำปลาเจ
- ซอสเห็ดหอม
- น้ำมันพืช
วิธีทำกะเพราเต้าหู้ไข่ทอด
- ขั้นตอนที่ 1: เราจะเตรียมเต้าหู้ไข่กันก่อนค่ะ เนื่องจากส่วนนี้จะต้องใช้เวลานานมากที่สุด โดยเราจะหั่นเต้าหู้ไข่เป็นชิ้นขนาดพอดี จากนั้นนำมาทอดน้ำมันท่วมจนผิวด้านนอกเหลืองกรอบเป็นอันใช้ได้ ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันเตรียมไว้
- ขั้นตอนที่ 2: นำกระเทียมมาสับหยับเตรียมไว้ ส่วนพริกขี้หนูเราจะบุบให้พอแตก หรือใครจะใช่พริกจินดาก็ได้ ไม่ว่ากันค่ะ เสร็จแล้วหันมาเด็ดและล้างใบกะเพราให้สะอาด
- ขั้นตอนที่ 3: ตั้งกระทะใส่น้ำมันแล้วรอจนร้อนได้ที่ นำกระเทียมและพริกลงผัดก่อนค่ะ ตรงนี้จะมีกลิ่นฉุนค่อนข้างรุนแรงต้องทนหน่อยนะคะ จากนั้นปรับเป็นไฟกลางค่อนอ่อนแล้วใส่เต้าหู้ไข่ตามลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว, น้ำตาล, น้ำปลาเจ และซอสเห็ดหอม ปิดท้ายด้วยใบกะเพรา คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติตามชอบ ปิดเตาตักใส่จานได้เลยค่ะ
6. เกี๊ยวซ่าไส้ผัก
พักเบรกด้วยอาหารว่างอย่างเกี๊ยวซ่าไส้ผัก ขนมกรอบนุ่มที่หลายคนชื่นชอบ สำหรับไส้เราจะเลือกใช้กะหล่ำปลี, แครอท และเห็ดหอมค่ะ นำมาเพิ่มความนุ่มหนึบด้วยวุ้นเส้น สำหรับเกี๊ยวซ่าสูตรของเราจะมีทั้งผัสกรอบและนุ่ม กัดลงไปจะเจอกับกล่นหอมของน้ำมันงาลอยออกมาเตะจมูก
วัตถุดิบเกี๊ยวซ่าไส้ผัก
- แผ่นแป้งเกี๊ยว
- วุ้นเส้น
- กะหล่ำปลี
- แครอท
- เห็ดหอม
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำมันงา
- น้ำมันพืช
วิธีทำเกี๊ยวซ่าไส้ผัก
- ขั้นตอนที่ 1: เรานำผักมาหั่นกันก่อนดีกว่าค่ะ สำหรับผักทั้งหมดเราจะหั่นป็นเต๋าเล็ก ๆ เลยนะคะ จากนั้นนำมาผัดรวมกับวุ้นเส้นที่หั่นท่อนสั้น ๆ เตรียมไว้แล้ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำมันงา นำมาพักไว้ก่อน
- ขั้นตอนที่ 2: นำไส้มาห่อในแป้งเกี๊ยวค่ะ พยายามจับจีบให้สวยและประกบกันแน่น ส่วนไส้ไม่ต้องใส่มากจนเกินไปนะคะเพราะตอนเกี๊ยวสุกจะทำให้แป้งแตกได้
- ขั้นตอนที่ 3: ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นทิดเกี๋ยวจนเหลืองกรอบก่อน 1 ด้าน เติมน้ำลงไเล็กน้อยแล้วปิดฝาเพื่อใช้ไอน้ำอบแป้งเกี๊ยวให้สุก รอจนน้ำงวดแห้งและแผ่นเกี๊ยวหลุดร่อนจากกระทะก็แปลว่าใช้ได้แล้วค่ะ จัดจานเสิร์ฟได้เลย
7. ห่อหมกเห็ด
สำหรับหรับสายมังสวิรัติหรือเจจะรู้กันดีว่าเห้นเป็นแหล่งโปรตีนและสารอาหารที่มีคุณภาพพอ ๆ กับการทานเนื้อสัตว์ แต่ปัญหาใหญ่ของเห็ดคือกลิ่นและรสชาติที่ไม่ค่อยจะชวยรับประทานสักเท่าไหร่ ดังนั้นหากนำเห็ดมาปรุงให้มีรสชาติจัดจ้านและใส่พริกแกงลงไปดับกลิ่นเหมือนเมนูห่อหมกเห็ดก็จะช่วยให้สามารถทานเห็ดได้ง่ายขึ้น หากคุณสนใจสามารถอ่านวิธีการทำฉบับเต็มได้ที่ เมนูเห็ด: ห่อหมกเห็ด
8. ผัดพริกแกงโปรตีนเกษตร
ผัดพริกแกงเป็นแมนูแซ่บที่จะทานเล่นก็ได้ทานเป็นกับข้าวก็ดี เราจะทอดโปรตีนเกษตรชิ้นพอดีคำจนเหลืองกรอบ นำมาคลุกเคล้ากับพริกแกงรสชาติเผ็ดร้อนถึงใจ เพิ่มความหอมด้วยงาและใบมะกรูดหั่นฝอย เมนูนี้จะมีรสชาติเผ็ด เค็ม และหวานเบา ๆ ปิดท้ายค่ะ
วัตถุดิบผัดพริกแกง
- โปรตีนเกษตร
- ใบมะกรูด
- งาขาว
- พริกแกงเผ็ดเจ
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาล
- น้ำมันพืช
วิธีทำผัดพริกแกง
- ขั้นตอนที่ 1: นำโปรตีนเกษตรมาแช่น้ำจนนิ่มและล้างน้ำหลาย ๆ ครั้งจนกลิ่นถั่วหายไปให้มากที่สุด จากนั้นพักให้แห้งแล้วนำมาทอดจนเหลืองกรอบ พักให้สะเด็ดน้ำมัน หันมาซอยมะกรูดสำหรับโรยหน้าเตรียมไว้
- ขั้นตอนที่ 2: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอประมาณ รอจนน้ำมันเริ่มร้อนแล้วนำพริกแกงลงผัดให้หอมเลยค่ะ ไม่ต้องเยอะนะคะให้พอเคลือบโปรตีนเษตรก็พอแล้วค่ะ จากนั้นปรุงรสชาติด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาล ชิมรสชาติตามชอบ นำโปรตีนเกษตรที่ทอดไว้ลงคลุกเคล้าให้ทั่ว เสร็จแล้วตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบมะกรูดและงาขาวก่อนเสิร์ฟค่ะ
9. ซุปเต้าหู้หม่าล่า
มาที่อาหารมังสวิรัติรสชาติเผ็ดร้อนอย่างซุปเต้าหู้หม่าล่า สำหรับเมนูนี้จะได้กลิ่นหอมของหม่าล่าและน้ำมันงาค่อนข้างโดดเด่น แต่เราจะปรุงไม่ให้มีรสชาติเผ็ดชาลิ้นมากจนเกินไป น้ำซุปจะมีลักษณะข้น ๆ เข้ากับความเนียนนุ่มของเต้าหู้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
วัตถุดิบซุปเต้าหู้หม่าล่า
- เต้าหู้อ่อน
- เห็ดตามชอบ
- หน่อไม้ต้มสุก
- กระเจี๊ยบเขียว
- ใบกระวาน
- ลูกจันท์เทศ
- โปยกั๊ก
- อบเชย
- ผงขิง
- ผงหม่าล่า
- พริกป่น
- แป้งข้าวโพด
- น้ำซุปผัก
- น้ำมันพืช
- ซีอิ๊วขาว
- ซอสปรุงรส
- น้ำมันงา
วิธีทำซุปเต้าหู้หม่าล่า
- ขั้นตอนที่ 1: มาเตรียมผักกันก่อน เราจะนำผักทั้งหมดมาล้างทำความสะอาดและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำเตรียมไว้ค่ะ จากนั้นนำเต้าหู้มาหั่นเป็นเต๋าพอดีคำ ระวังไม่ให้ชิ้นเล็กมากจนเกินไปนะคะเพราะเต้าหู้อ่อนจะเละง่าย
- ขั้นตอนที่ 2: นำหม้อขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันเล็กน้อยแล้วนำใบกระวาน, ลูกจันท์เทศ, โปยกั๊ก และอบเชยมาผัดจนส่งกลิ่นหอม จากนั้นเติมน้ำซุปและรอให้เดือด
- ขั้นตอนที่ 3: นำผักทั้งหมดใส่ลงไปได้เลยค่ะ จากนั้นตามด้วยผงขิง, ซีอิ๊วขาว, ซอสปรุงรส, ผงหม่าล่า และพริกป่น คนให้เข้ากันแล้วต้มจนผักสุก ระหว่างนั้นหันมาผสมแป้งข้าวโพดละน้ำซุปในอัตราส่วนที่เท่ากันเตรียมไว้
- ขั้นตอนที่ 4: ผักสุกแล้วเราจะค่อย ๆ เทน้ำแป้งข้าวโพดลงไป ขณะเทต้องคอยคนตลอดเวลาเลยนะคะเพื่อป้องกันไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน คนจนแป้งเหนียวตามชอบแล้วเราจะปิดท้ายด้วยเต้าหู้ คนเบา ๆ ให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติ ปิดท้ายจริง ๆ ด้วยน้ำมันงาเล็กน้อย ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลยจ้า
10. เทมเป้อบกรอบ
ปิดท้ายด้วยเมนูทานเล่นเพื่อสุขภาพอย่างเทมเป้อบกรอบ ซึ่งเทมเป้เป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศอินโดนีเซียค่ะ เป็นถั่วที่นำมาหมักด้วยเชื้อราคล้าย ๆ กับนัตโตะของประเทศญี่ปุ่น แต่เทมเป้จะมีลักษณะแห้ง จับตัวเป็นก้อน และมีกลิ่นไม่แรงเท่านัตโตะ เมนูนี้เราจะนำเทมเป้มาอบด้วยหม้อทอดไรน้ำมันจนกรอบ นำมาทานเล่นเพลิน ๆ ค่ะ
วัตถุดิบเทมเป้อบกรอบ
- เทมเป้
- ผงปรุงรส (ตามชอบ)
- เกลือ (ตามชอบ)
วิธีทำเทมเป้อบกรอบ
- ขั้นตอนที่ 1: เราจะนำเทมเป้มาหั่นเป็นชิ้นก่อนค่ะ คุณสามารถเลือกรุปแบบได้ตามต้องการเลยไม่ว่าจะหั่นเป็นแผ่นหนา, แผ่นบาง หรือหั่นเป็นทรงเฟรนช์ฟรายก็ได้ตามชอบ ไม่ว่ากันค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2: เรียงเทมเป้ลงในตะกร้าหม้อทอดไร้น้ำมัน พยายามเรียงให้มีช่องว่างและไม่ซ้อนทับกันมากจนเกินไปนะคะ จากนั้นอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 12 – 15 นาทีขึ้นอยู่ดับปริมาณและขนาดของเทมเป้ ระหว่างนั้นเปิดออกมากลับด้านบ้างนะคะ ครบเวลาแล้วเทมเป้จะออกมากรอบและมีรสชาติอร่อยมากขึ้นค่ะ สามารถนำมาคลุกผงปรุงรสหรือเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติได้ตามต้องการ
มังสวิรัติมีกี่ประเภท
1. มังสวิรัติบริสุทธิ์ (Vegan)
สำหรับมังสวิรัติแบบเคร่งครัดจะเรียกกันว่าวีแกน คนกลุ่มนี้จะเน้นทานอาหารที่มีส่วนประกอบของผักผลไม้และไม่ทานเนื้อสัตว์รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่มาจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นนม, ไข่, ชีส, น้ำผึ้ง, เสื้อผ้า, เครื่องแต่งกาย หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือผิวกายที่มีส่วนผสมและการทดลองด้วยสัตว์(1)
2. มังสวิรัติพืชสด (Raw Vegan)
กลุ่มนี้จะไม่ทานเนื้อและผลิตถัณฑ์จากสัตว์ เน้นทานเฉพาะผัก, ผลไม้, ถั่ว และเม็ดพืชดิบหรือผ่านการปรุงด้วยอุณหภูมิไม่เกิน 48 องศาเซลเซียสเท่านั้นค่ะ ส่วนใหญ่แล้วกลุ่มนี้จะปรุงอาหารด้วยเครื่องไล่ความชื้นด้วยอุณหภูมิต่ำหรือผักผลไม้อบแห้ง (2)
3. มังสวิรัติแมคโครไบโอติก (Macrobiotic diet)
กลุ่มนี้จะยึดหลักการทานตามแบบฉบับนิกายเซน นั่นคือเลือกทานอาหารที่จะช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกาย งดทานเนื้อสัตว์และหันมาทานพืชผักที่ปลูกเองในท้องถื่น รวมถึงเลือกทานอาหารตามฤดูกาลในปริมาณที่พอดี ทานแต่พออิ่มค่ะ(3)
4. มังสวิรัติผลไม้ (Fruitarianism)
อาหารหลักคนคนกลุ่มนี้ทานจะเป็นผลไม้ซะเป็นส่วนใหญ่และละเว้นเนื้อสัตว์เหมือนเดิมค่ะ นอกจากผลไม้แล้วสิ่งที่สามารถทานได้จะเป็นผัก, ถั่ว และเมล็ดพืชต่าง ๆ บางคนอาจจะเคร่งครัดถึงขั้นเลือกทานเฉพาะผลไม้ที่สุกหล่นจากต้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสะดวกค่ะ(4)
5. มังสวิรัตินม (Lacto-vegetarian)
กลุ่มนี้งดทานเนื้อสัตว์และไข่เหมือนเดิมค่ะ แต่จะเพิ่มเติมเข้ามานิดหน่อยคือสามารถทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์อย่างชีส, นม, เนย, ครีม, โยเกิร์ต หรือคีเฟอร์ได้ จัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่เคร่งครัดมากนัก (5)
6. มังสวิรัติไข่ (Ovo Vegetarian)
กลุ่มนี้จะไม่ทานเนื้อสัตว์แต่สามารถทานไข่ได้ ขณะเดียวกันก็มีการละเว้นอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ทุกชนิดเหมือนวีแกนหรือมังสวิรัติประเภทอื่น ๆ ค่ะ โดยสามารถนำไข่ไปผสมในอาหารได้ทุกชนิดโดยไม่ผิดหลักของกลุ่มนี้ (6)
7. มังสวิรัตินม-ไข่ (Lacto-ovo vegetarianism)
กลุ่มนี้ค่อนข้างจะมีความยืดหยุ่น เพราะสามารถทานอาหารได้แทบจะทุกชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของสัตว์ นั่นแปลว่าคุณสามารถทานไข่และนมได้ตามชอบเลยค่ะ โดยกลุ่มนี้จะมีความยืดหยุ่นมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทานมังสวิรัติค่ะ (7)
และนี่ก็คือ 10 เมนูมังสวิรัติที่เรานำมาแชร์ในบทความนี้ค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ จริง ๆ แล้วทานผักหรือมังสวิรัติก็สามารถทานเมนูแซ่บ ๆ ได้ อย่างซุปเต้าหู้หม่าล่านี่เป็นเมนูเผ็ดร้อนที่ช่วยแก้อาหารเบื่ออาหารได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ยิ่งถ้านำเทมเป้อบกรอบมาหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโรยหน้าก่อนรับประทานนี่บอกเลยว่าอร่อยถูกใจแน่นอนค่ะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีค่ะ
References :