แจกสูตร เมนูจากขิง อร่อยง่าย ๆ ช่วยต้านหวัด

ช่วงนี้กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าหลายพื้นที่ในประเทศไทยกำลังจะเกิดฝนฟ้าคะนองและอุณหภูมิจะลดลง แต่สภาพอากาศตอนนี้คือร้อนตับแทบแตก! อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็พาลจะทำให้ป่วยได้ วันนี้เราเลยอยากจะมาชวนทุกคนดูแลสุขภาพง่าย ๆ ด้วยการทานสมุนไพรที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและมีกลิ่นเฉพาะตัวอย่าง “ขิง” กันค่ะ

ซึ่งขิงเป็นสมุนไพรไทยที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วค่ะ ส่วนใหญ่หลายคนมักจะรู้จักขิงในฐานะของสมุนไพรที่ช่วยดับกลิ่นคาว เนื่องจากขิงมีกลิ่นหอม เมื่อโดนความร้อนก็จะยิ่งทำให้หอมจนกลบกลิ่นเนื้อสัตว์ได้ค่ะ แต่นอกจากจะดับกลิ่นคาวแล้วขิงยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมากเลยค่ะ เด่น ๆ ก็จะเป็นเรื่องของการแก้อาการท้องอืดท้องเฟื้อ ช่วยให้โล่งสบายท้อง ทานแล้วจะรู้สึกอุ่น ๆ โล่ง ๆ บทความนี้เราเลยรวบรวมเอา เมนูจากขิง มาฝากทุกคนค่ะ เราไปดูกันเลยค่ะว่ามีเมนูไหนน่าสนใจบ้าง

สูตรเมนูอาหารจากขิง

1. ไก่ผัดขิง

เริ่มต้นกันด้วยเมนูยอดฮิตอย่างไก่ผัดขิงค่ะ เมนูนี้บอกเลยว่าไม่ควรพลาดมาก ๆ เพราะถึงจะเป็นเมนูผัดขิง แต่กลิ่นขิงก็ไม่ได้แรงหรือฉุนมากค่ะ สูตรนี้เราจะเน้นเนื้อไก่นุ่ม ๆ ฉ่ำ ๆ หน่อย รสชาติเค็มอมหวานและได้รสเผ็ดร้อนอ่อน ๆ จากขิงซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีเลยค่ะ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ เหมาะมาก

วัตถุดิบไก่ผัดขิง

  • เนื้อไก่
  • ขิงอ่อน
  • หอมใหญ่
  • เห็ดหูหนู
  • พริกชี้ฟ้าแดง
  • กระเทียม
  • เต้าเจี้ยว
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำตาล
  • น้ำมันพืช

วิธีทำไก่ผัดขิง

  • ขั้นตอนที่ 1: ล้างทำความสะอาดทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนค่ะ เสร็จแล้วซอยผักเป็นเส้น ๆ ให้หมดเลยค่ะ ยกเว้นเห็ดหูหนูเราจะหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ สับกระเทียมให้ละเอียดพอประมาณ ส่วนขิงจะซอยไม่บางมากแต่ก็ไม่หนาเกินไป จากน้ันหั่นไก่เป็นชิ้นเต๋าขนาดพอดีคำหรือตามชอบเลยค่ะ
  • ขั้นตอนที่ 2: ผัดกระเทียมกับขิงจนหอม จากนั้นตามด้วยเนื้อไก่และหอมใหญ่ ผัดจนทุกอย่างเริ่มสุกแล้วใส่เห็ดหูหนู​คลุก ๆ อีกหน่อยแล้วปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว, น้ำตาล และซีอิ๊วขาวค่ะ ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วปิดท้ายด้วยพริกชี้ฟ้า ผัดอีกหน่อยก็ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย

2. ปลากะพงนึ่งขิง

ใครชอบทานปลาเราขอแนะนำเมนูนี้เลยค่ะ ปลากะพงนึ่งขิงเป็นเมนูที่ทำง่ายและใช้เวลาไม่นาน แถมยังดีต่อสุขภาพเพราะมีทั้งขิงและเนื้อปลาที่ไม่มีไขมันค่ะ เมนูนี้ค่อนข้างจะมีความคลีน เนื้อปลานุ่มฉ่ำ รสชาติเค็มอมหวานอ่อน ๆ หอมกลิ่นขิงนิด ๆ ไม่คาวเลยค่

วัตถุดิบปลากะพงนึ่งขิง

  • ปลากะพง
  • ขิงอ่อน
  • เห็ดหอม
  • ขึ้นช่าย
  • เต้าเจี้ยว
  • น้ำมันงา
  • ซีอิ๊วขาว

วิธีทำปลากะพงนึ่งขิง

  • ขั้นตอนที่ 1: ล้างปลากะพงให้สะอาดแล้วซับน้ำให้แห้ง จากนั้นซอยขิงเป็นเส้นบาง ๆ ส่วนเห็ดหอมจะใส่ทั้งดอกหรือหั่นเป็นแว่นก็ได้ค่ะ เสร็จแล้วหั่นขึ้นช่ายเป็นท่อน ๆ เตรียมไว้
  • ขั้นตอนที่ 2: วางปลาลงบนจานสำหรับนึ่ง หันมาผสมเต้าเจี้ยว, น้ำมันงา และซีอิ๊วขาวให้เข้ากันแล้วราดลงบนตัวปลา วางขิง, เห็ดหอม และขึ้นช่ายลงไป นึ่งประมาณ 15 – 20 นาทีหรือจนกว่าปลาจะสุก ยกลงจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

เมนูปลากะพงนึ่งขิง เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราชอบทำมาก ๆ เพราะว่ามันทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน ยิ่งรสชาติไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ บอกได้คำเดียวว่าฟินสุด ๆ น้ำซอสฉ่ำ ๆ ราดข้าว บวกกับเนื้อปลากระพงหวานๆ หื้มมมม ต้องไปลอง


3. หมูกรอบผัดพริกขิง

มาทำเมนูพริแกงหอม ๆ อย่างหมูกรอบผัดพริกขิงกันค่ะ เมนูนี้เราจะเน้นความหอมของพริกแกงและได้รสเผ็ดหอมอ่อน ๆ จากขิงค่ะ ส่วนหมูนี่ไม่ต้องพูดถึงเพราะกรอบกรุบมากกก ปรุงรสให้ออกเผ็ดเค็มอมหวานหน่อยจะกลมกล่อมค่ะ

วัตถุดิบหมูกรอบผัดพริกขิง

  • หมูกรอบ
  • ถั่วฝักยาว
  • ใบมะกรูด
  • พริกชี้ฟ้า
  • ขิง
  • พริกแกงเผ็ด
  • น้ำตาล
  • น้ำปลา
  • น้ำมันพืช

วิธีทำหมูกรอบผัดพริกขิง

  • ขั้นตอนที่ 1: หั่นหมูกรอบเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ สามารถดูวิธีทำหมูกรอบได้ที่บทความวิธีทำหมูกรอบด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันได้เลยค่ะ จากนั้นหั่นถั่วฝักยาวเป็นชิ้นขนาดตามชอบ แนะนำให้หั่นแฉลบจะออกมาดูสวยน่าทานนะคะ ส่วนใบมะกรูด, พริกชี้ฟ้า และขิงเราจะซอยเป็นเส้นค่ะ
  • ขั้นตอนที่ 2: ผัดพริกแกงกับขิงให้หอมก่อนเลยค่ะ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลา ตามด้วยถั่วฝักยาว ผัดให้เข้ากันอีกหน่อยแล้วนำหมูกรอบลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดท้ายด้วยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้า ผัดอีกหน่อยแล้วตักใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ

4. คุกกี้ขนมปังขิง

มูฟมาที่ขนมตะวันตกประจำเทศกาลคริสต์มาสอย่างคุกกี้ขนมปังขิงกันบ้างค่ะ จริง ๆ แล้วเมนูนี้ทำค่อนข้างง่ายแต่วัตถุดิบจะออกไปทางตะวันตกนิดนึงค่ะ ส่วนรสชาติจะมีความหวานปนเผ็ดนิด ๆ แต่หอมขิงและอบเชยมาก ๆ ค่ะ

วัตถุดิบคุกกี้ขนมปังขิง

  • ไข่ไก่
  • ไข่ขาว
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์
  • เนยจืด
  • ผงขิง
  • ผงอบเชย
  • ผงฟู
  • ครีมออฟทาร์ทาร์
  • เกลือ
  • น้ำตาลไอซิ่ง
  • สีผสมอาหาร

วิธีทำคุกกี้ขนมปังขิง

  • ขั้นตอนที่ 1: ผสมแป้งสาลี, ผงขิง, ผงอบเชย, ผงฟู และเกลือให้เข้ากันก่อนค่ะ จากนั้นตามด้วยเนยและไข่ไก่แล้วตีให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำออกมานวดจนได้เนื้อเนียน ใช้ไม้รีดแป้งรีดแป้งให้แบนเท่า ๆ กันแล้วใช้พิมพ์รูปทรงที่ชอบกดให้เป็นรูปสวย เรียงลงบนถาดรองอบ
  • ขั้นตอนที่ 2: วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส จากนั้นนำคุกกี้เข้าอบเป็นเวลา 10 – 15 นาที ครบเวลาแล้วนำถาดออกมาพัก ช่วงแรกคุกกี้จะยังนิ่ม ๆ อยู่นะคะ แต่พอหายร้อนแล้วจะแข็งขึ้นค่ะ ตอนนั้นค่อยแซะออกมาจากถาดแล้วผึ่งให้เย็นสนิทบนตะแกรง
  • ขั้นตอนที่ 3: ระหว่างรอเราจะตีไข่ขาวจนขึ้นฟองหยาบ ปาดครีมออฟทาร์ทาร์ลงไปแล้วตีต่อจนฟองละเอียดขึ้น ทะยอยใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไปทีละน้อยแล้วตีต่อจนเนื้อละเอียดและขึ้นเงา ตักใส่ภาชนะแล้วหยอดสีผสมอาหารแบบเจลลงไปค่ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาบีบตกแต่งบนคุกกี้ วางทิ้งไว้สักครู่ให้เซตตัวก็ทานได้แล้วค่ะ

5. มันต้มขิง

ทำเมนูไทยร้อน ๆ ทานกันบ้างดีกว่าค่ะ มันต้มขิงเป็นเมนูที่เหมาะกับช่วงฝนตกหรือตอนที่อากาศหนาวเย็นมาก ๆ เพราะน้ำขิงจะมีความหวานปนเผ็ดนิด ๆ ทานแล้วรู้สึกสดชื่นสบายท้อง ส่วนมันแนะนำให้ต้มจนนิ่มแต่ไม่เละเกินไปจะหวานฉ่ำมาค่ะ

วัตถุดิบมันต้มขิง

  • มันเทศ
  • ขิงแก่
  • น้ำตาลทรายแดง
  • น้ำเปล่า

วิธีทำมันต้มขิง

  • ขั้นตอนที่ 1: ล้างมันและขิงให้สะอาดเลยค่ะ จากนั้นปอกเอาเปลือกออกให้หมด ฝานขิงเป็นแว่น ส่วนมันจะหั่นเป็นชิ้นใหญ่หรือชิ้นพอดีคำก็ได้ค่ะ เลือกได้ตามชอบเลย เสร็จแล้วต้มน้ำให้เดือด นำขิงลงต้มจนสุกหอมแล้วตามด้วยมัน มันใกล้สุกแล้วใส่น้ำตาลทรายแดงความหวานตามชอบ ต้มจนสุกดีแล้วตักใส่ถ้วยเสิร์ฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

6. บัวลอยน้ำขิง

บัวลอยน้ำขิงเป็นเมนูยอดฮิตที่ใครหลายคนชอบทานค่ะ สูตรนี้จะเป็นบัวลอยไส้งาดำ แป้งนุ่ม เหนียว บางกำลังดี งาดำด้านในรสชาติหวานมัน หอมกลิ่นน้ำตาลมะพร้าวอ่อน ๆ ส่วนน้ำขิงจะมีความเผ็ดหวาน ทานพร้อมกันลงตัวมาก ๆ ค่ะ ใครยังไม่เคยทานต้องลองทำสูตรนี้ดูน้าาา

วัตถุดิบบัวลอย

  • แป้งข้าวเหนียว
  • งาดำบด
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • เกลือ
  • น้ำเปล่า

วัตถุดิบน้ำขิง

  • ขิงแก่
  • น้ำตาลทรายแดง
  • น้ำเปล่า

วิธีทำบัวลอยน้ำขิง

  • ขั้นตอนที่ 1: เริ่มจากทำบัวไส้บัวลอยกันก่อนค่ะ ผัดน้ำตาลมะพร้าวให้ละลายและหอม จากนั้นนำงาบดลงผัดรวมกัน ใส่เกลือตัดรสเล็กน้อย ผัดต่อจนแห้งและมีความหนืดขึ้น ยกลงมาพักให้หายร้อนแล้วปั้นเป็นก้อนขนาดตามต้องการพักไว้
  • ขั้นตอนที่ 2: ทำแป้งบัวลอยกันต่อเลยค่ะ ผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเปล่าแล้วนวดให้เนื้อเนียนเลยค่ะ จากนั้นปั้นเป็นก้อน กดให้แบนแล้วนำไส้ที่เตรียมไว้วางลงไป ห่อไส้ให้มิด พยายามอย่าให้มีรอยแตกหรือแป้งบางเกินไปนะคะ ทำต่อจนหมดแล้วใช้ผ้าขาวบางเปียกหมาดคลุมไว้ค่ะ
  • ขั้นตอนที่ 3: ต้มน้ำให้เดือดแล้วหั่นขิงเป็นแว่น นำลงต้มจนหอมแล้วใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปความหวานตามชอบ ขณะเดียวกันก็ต้มน้ำในหม้ออีกใบให้เดือดแล้วนำบัวลอยลงต้มจนสุกและแป้งใสขึ้น ตักน้ำขิงใส่ถ้วยแล้วตามด้วยบัวลอย เสิร์ฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

7. เต้าฮวยน้ำขิง

ไหน ๆ ก็ทำน้ำขิงแล้ว ถ้าไม่ชอบบัวลอยลองทำเต้าฮวยทานดูค่ะ สูตรนี้เป็นสูตรโฮมเมด ทำจากถั่วเหลืองแท้ ๆ ทำเองเนื้ออาจจะไม่ได้เนียนมากแต่ทานกับน้ำขิงแล้วนุ่มอร่อยเข้ากันแน่นอนค่ะ

วัตถุดิบเต้าฮวย

  • ถั่วเหลืองซีก
  • แป้งมัน
  • ผงเจี๊ยะกอ
  • น้ำเปล่า

วัตถุดิบน้ำขิง

  • ขิงแก่
  • น้ำตาลทรายแดง
  • น้ำเปล่า

วิธีทำเต้าฮวยน้ำขิง

  • ขั้นตอนที่ 1: เราจะเริ่มจากทำเต้าฮวยกันก่อนค่ะ ล้างถั่วเหลืองให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ให้พองขึ้นอย่างน้อย 5 ชั่วโมงค่ะ จากนั้นนำถั่วเหลืองไปปั่นจนได้เนื้อเนียนละเอียดแล้วกรองเอาแต่น้ำ ทำซ้ำ 2 – 3 ครั้ง เลยค่ะ จากนั้นนำน้ำเต้าหู้ไปต้มไฟอ่อน ๆ คอยคนตลอดเวลาอย่าให้น้ำเต้าหู้ไหม้ก้นหม้อ
  • ขั้นตอนที่ 2: ระหว่างต้มน้ำเต้าหู้ เราจะผสมผงเจี๊ยะกอกับแป้งมันแล้วละลายให้เข้ากัน น้ำเต้าหู้เดือดและสุกดีแล้วให้ยกลงจากเตาแล้วเทแป้งมันลงไป เทสูง ๆ เลยนะคะแต่ระวังน้ำเต้าหู้กระเด็นนิดนึง จากนั้นพักทิ้งไว้ให้เซตตัวก่อนค่ะ
  • ขั้นตอนที่ 3: ต้มน้ำให้เดือดแล้วฝานขิงลงต้ม รอจนเดือดแล้วใส่น้ำตาลทรายแดง คนให้ละลายเข้ากันดีแล้วลองชิมรสชาติดูก่อนค่ะ ถ้ารสชาติโอเคแล้วตักน้ำขิงใส่ถ้วย จากนั้นใช้ทัพพีแบน ๆ ตักเต้าฮวยเป็นแผ่นใส่ลงไป เสิร์ฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

8. น้ำขิงเสาวรส

เปลี่ยนมาทำม็อกเทลที่ทั้งสดชื่นและดีต่อสุขภาพอย่างน้ำขิงเสาวรสทานกันบ้างค่ะ เมนูนี้จะมีรสชาติเปรี้ยวปนเผ็ดนิด ๆ ทานแล้วรู้สึกสดชื่น สบายท้อง และช่วยคลายร้อนได้ดีเลยค่ะ สูตรนี้เราจะใช้ขิงผงเพื่อความสะดวกและไม่ต้องเสียเวลาคั้นน้ำ มีเนื้อเสาวรสให้เคี้ยวกรุบ ๆ เพลินมาก

วัตถุดิบน้ำขิงเสาวรส

  • ผลเสาวรส
  • น้ำเชื่อมเสาวรส
  • ขิงผง
  • น้ำแข็ง
  • น้ำเปล่า

วิธีทำน้ำขิงเสาวรส

  • ขั้นตอนที่ 1: ผสมผงขิงกับน้ำร้อนให้ละลาย ตามด้วยน้ำเชื่อมเสาวรส ผสมให้เข้ากันแล้วพักทิ้งไว้ให้หายร้อนนิดนึงค่ะ จากนั้นตักเนื้อเสาวรสใส่แก้ว ตามด้วยน้ำแข็งและน้ำขิงที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ หรือใครจะเพิ่มความสดชื่นด้วยโซดาก็ได้นะคะ

9. ชาขิง

ช่วงไหนอากาศหนาวหรือรู้สึกแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย เราแนะนำให้ลองทานชาขิงดูค่ะเพราะทำง่ายมากแค่มีขิงติดบ้านไว้เท่านั้น สูตรนี้เราจะไม่ปรุงให้หวานมาก ออกไปทางเผ็ด ๆ นิดหน่อย ดื่มร้อน ๆ จะรู้สึกอุ่นสบายท้องและช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้นค่ะ

วัตถุดิบชาขิง

  • ขิงแก่
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำผึ้ง
  • เกลือ
  • น้ำเปล่า

วิธีทำชาขิง

  • ขั้นตอนที่ 1: ล้างและปอกเปลือกขิงออกให้หมด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นหนาแล้วบุบให้พอแหลกเพื่อดึงกลิ่นรสออกมา เสร็จแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดจนมีกลิ่นหอมและสีของน้ำเข้มขึ้น ปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย คนให้ละลายแล้วปิดเตา ตักใส่แก้ว เทน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อยแล้วคนให้ละลายก่อนเสิร์ฟ

10. ขิงดอง

ปิดท้ายด้วยการนำขิงมายืดอายุด้วยการถนอมอาหารค่ะ ขิงดองเป็นเมนูที่ใช้ทานเพื่อตัดเลี่ยนอาหาร ส่วนมากนิยมทานคู่กับไส้กรอกอีสานเพื่อเพิ่มรสชาติ ขิงดองทำเองอาจจะไม่ได้ชมพูสวยเหมือนขิงซื้อ แต่เราก็เลือกความอ่อนและบางเองได้ แถมยังสะอาดปลอดภัยอีกด้วยค่ะ

วัตถุดิบขิงดอง

  • ขิงอ่อน
  • น้ำตาลทราย
  • เกลือ
  • น้ำมะนาว
  • น้ำส้มสายชู

วิธีทำขิงดอง

  • ขั้นตอนที่ 1 : ล้างขิงให้สะอาดแล้วปอกเปลือกออกให้หมดเลยค่ะ จากนั้นหั่นขิงเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วแช่น้ำเกลือทิ้งไว้ ระหว่างนั้นเราจะต้มน้ำเปล่า, น้ำส้มสายชู, น้ำตาล และเกลือให้เดือด เสร็จแล้วยกลงจากเตาแล้วรอจนหายร้อนสนิท คั้นน้ำออกจากขิงแล้วนำมาแช่ในน้ำที่ต้มไว้ เติมน้ำมะนาวลงไปเพื่อให้เป็นสีชมพู ดองทิ้งไว้ย่างน้อย 1 คืนก่อนนำมาทานค่ะ

ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 เมนูอาหารจากขิงค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ เพื่อน ๆ ถูกใจกันบ้างมั้ยเอ่ย? บทวามนี้ก็มีมาให้ทั้งเมนูของคาว, ของหวาน, เครื่องดื่ม และเครื่องเคียงเลยค่ะ ใครชอบเมนูไหนก็อย่าลืมไปลองทานกันดูน้าาาา เพราะนอกจากจะมีรสเผ็ดร้อนและช่วยดับกลิ่นคาวแล้ว ขิงยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายด้านด้วยค่ะ ใครที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อบ่อย ๆ ควรมีขิงติดบ้านไว้น้าาาา