เมนูอาหารง่าย ๆ สำหรับมือใหม่หัดเข้าครัว ทำอาหารกินเองได้

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้กลับมาพบกับบทความแนะนำเมนูอาหารอีกแล้ว คอนเทนต์วันนี้เราทำมาเพื่อเอาใจเหล่าพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่โดยเฉพาะ เพราะสูตรเด็ดเคล็ดลับและเมนูที่เราขนมาฝากนี่บอกเลยว่าทำง่ายม๊ากกก ทำง่ายจนหลายคนต้องคิดว่า เอ๊อออออ รู้แบบนี้ฉันเข้าครัวทำเองตั้งนานแล้ว! แน่นอนค่ะ ยิ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาเมนูง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบน้อย ๆ อยู่นี่ต้องถูกใจเมนูวันนี้ของเราแน่นอนเลย

สำหรับใครที่กำลังรับบทเชฟมือใหม่ กำลังอยากได้เมนูง่าย ๆ มีฝึกลับวิชาสักหน่อย เราแนะนำให้คุณเริ่มต้นจากเมนูง่าย ๆ มีรสชาติเบสิกและใช้เครื่องปรุงน้อยที่สุด เพราะการที่เราทำอาหารครั้งแรกก็เล่นจัดหนักจัดเต็มทำพิซซ่าหรืออาหารยาก ๆ เลยก็อาจจะทำให้เราต้องเสียดายของ แถมบางครั้งอาจจะรู้สึกท้อแท้ได้ค่ะ ดังนั้นการทำอาหารรสชาติเบา ๆ ทำง่าย ๆ ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฝึกฝน เราจะได้ฝึกคอลโทรลเรื่องรสชาติ ฝึกเรียนรู้วิธีควบคุมความเบาความแรงของไฟก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยอัพเลเวลขึ้นมาทีละนิด ๆ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะกลายเป็นสุดยอดเชฟได้แน่นอน และแน่นอนว่าเมนูที่ผ่านการคัดเลือกวันนี้เนี่ยมีขั้นตอนการทำและใช้เครื่องปรุงน้อยมาก นอกจากนี้เรายังได้แถมเคล็ดลับวิธีการทำอาหารให้อร่อยตั้งแต่ครั้งแรกด้วย ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าเราเอาเมนูไหนมาฝากเพื่อน ๆ บ้าง

1. กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา

เมนูนี้ทำง่ายแสนง่ายแถมยังอร่อยอีกด้วย กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาของเราจะมีกลิ่นหอมของน้ำปลาไหม้ ๆ นิดหน่อยและตัวกะหล่ำกรอบนุ่มสุด ๆ เราจะผัดแบบมีซอสเล็กน้อย หอมกระเทียมอ่อน ๆ ซอสหอมหอม ๆ เค็ม ๆ นัว ๆ ส่วนกะหล่ำปลียังมีความหวานอยู่ในเนื้อและสีสวยมากค่ะ ตักราดบนข้าวร้อน ๆ คือฟินมาก ๆ

วัตถุดิบกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา

  • กะหล่ำปลี
  • กระเทียม
  • ซอสหอยนางรม
  • น้ำตาล
  • น้ำปลา
  • น้ำมันพืช

วิธีทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา

ขั้นตอนแรกเราจะทำความสะอาดพระเอกของเราก่อนค่ะ ตอนซื้อกะหล่ำปลีแนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกหัวที่มีน้ำหนักเบาหน่อย เนื้อข้างในจะฟูสวย แต่ถ้าหัวหนักนี่เนื้อแน่น สุกยากกว่า ได้กะหล่ำปลีมาแล้วก็แช่น้ำทิ้งไว้สัก 10 นาทีแล้วเลือกเอาใบเขียว ๆ ช้ำ ๆ ออก เสร็จแล้วจะหั่นเป็นสี่ชิ้นหรือปอกเป็นใบ ๆ ก็ได้ค่ะ ตามชอบเลย พักให้สะเด็ดน้ำแล้วทุบกระเทียมรอไว้

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เร่งไฟแรงจนน้ำมันร้อนมีไอลอยขึ้น หลังจากนั้นปรับเป็นไฟกลางแล้วนำกระเทียมลงไปเจียวจนหอมค่ะ กระเทียมหอมได้ที่แล้วเร่งไฟกลางค่อนแรงแล้วนำกะหล่ำปลีลงไปผัดได้เลย รีบคลุกด้วยความว่องไวจนกะหล่ำปลีเริ่มสลด ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ผัด ๆ คลุก ๆ อีกนิด เร่งไฟแรงแล้วราดน้ำปลาลงบนขอบกระทะให้ดังฉ่า ๆ เสร็จแล้วผัดอีกรอบ พยายามผัดให้กะหล่ำปลีโดนรอยไหม้น้ำปลาจะหอมมากค่ะ ใส่น้ำตาลตัดรสนิดหน่อย คลุกอีกนิดแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ


2. ข้าวผัดยำปลากระป๋อง

อีกหนึ่งเมนูข้าวผัดที่ทำง่ายและอร่อยสุด เมนูนี้มือใหม่ทำได้สบาย ๆ แน่นอนค่ะ แค่เราเอาปลากระป๋องมายำให้เรียบร้อยแล้วนำมาผัดกับข้าวสวย ใช้เวลาไม่นานข้าวผัดยำปลากระป๋องร้อน ๆ ก็พร้อมเสิร์ฟ จานนี้บอกเลยว่าครบเครื่องทั้งเผ็ด เปรี้ยว และหวาน ใครชอบรสจัดแค่ไหนก็เลือกได้ตามชอบเลยค่ะ

วัตถุดิบข้าวผัดยำปลากระป๋อง

  • ข้าวสวย
  • ปลากระป๋อง
  • หอมแดง
  • พริกขี้หนู
  • มะนาว
  • น้ำตาล
  • น้ำปลา
  • น้ำมันพืช

วิธีทำข้าวผัดยำปลากระป๋อง

ขั้นตอนแรกเราจะยำปลากระป๋องกันก่อน เริ่มจากเทปลาออกมา แยกเนื้อปลาและซอส หลังจากนั้นหันมาซอยพริก, หอมแดง และคั้นน้ำมะนาวแล้วนำไปปรุงรสซอสปลากระป๋อง เพิ่มความอร่อยด้วยน้ำปลาและน้ำตาลอีกหน่อย ชิมให้มีรสชาติตามชอบเลยค่ะ

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช เร่งไฟกลางจนน้ำมันร้อนนำข้าวสวยลงไปผัดเลยค่ะ ผัดจนข้าวร่วนขึ้นและเม็ดดีดดังเป๊าะแป๊ะ ๆ เราก็นำซอสยำปลากระป๋องลงไปผัดกับข้าวเลย ผัด ๆ คลุก ๆ จนซอสเคลือบข้าวดีแล้วก็ตามด้วยเนื้อปลา ยีให้เนื้อแตก ๆ หน่อย ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วตักเสิร์ฟได้เลย


3. ไก่ต้มขมิ้น

เปลี่ยนมาซดน้ำซุปร้อน ๆ ให้อุ่นท้องคล่องคอกันหน่อยดีกว่า ไก่ต้มขมิ้นของเราจะมีสีเหลืองอ่อน ๆ น่ารับประทาน รสชาติจะมีความเค็ม ๆ หวาน ๆ ทานตอนร้อน ๆ อร่อยมาก ส่วนไก่ก็เนื้อแน่นแถมต้มมาจนเปื่อย ไม่ต้องเคี้ยวให้ปวดกรามเลยค่ะ เมนูนี้ทำง่ายและมีส่วนผสมแค่ไม่กี่อย่างเอง

วัตถุดิบไก่ต้มขมิ้น

  • เนื้อไก่
  • ขมิ้น
  • ตะไคร้
  • หอมแดง
  • เกลือ
  • น้ำเปล่า

วิธีทำไก่ต้มขมิ้น

ขยำเนื้อไก่กับเกลือให้สะอาดและหมดกลิ่นคาว หลังจากนั้นล้างทำความสะอาดจนหมดเลือดเลยค่ะ พักให้สะเด็ดน้ำก่อน หันมาทุบขมิ้น, หอมแดง และตะไคร้ให้พอแตก แนะนำให้ใช้ขมิ้นสดนะคะเพราะสีจะไม่เข้มมากและมีกลิ่นหอมของขมิ้นเพิ่มเข้ามาด้วย

ตั้งหม้อใส่น้ำ หลังจากน้ำเดือดแล้วใส่ขมิ้น, ตะไคร้ และหอมแดงลงไปต้ม น้ำเดือดอีกครั้งใส่เนื้อไก่ตามลงไปเลยค่ะ ต้มจนน้ำเดือดตักฟองออกให้หมดน้ำซุปจะได้ใสและไม่คาว หลังจากนั้นหรี่ไฟอ่อนต้มไปเรื่อย ๆ จนไก่นิ่มตามชอบ

ไก่เปื่อยนิ่มดีแล้วเราก็ชิมรสก่อนสักหน่อย น้ำซุปก็จะมีความหวานจากเนื้อไก่ เราก็ใส่แค่เกลืออย่างเดียวเลยค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ชอบกลิ่นน้ำปลาหน่อยก็แนะนำให้ใส่ซีอิ๊วขาวแทนเพราะน้ำปลาจะทำให้น้ำซุปของเรามีกลิ่นคาว หลังจากได้รสชาติที่ชอบแล้วก็ปิดเตาแล้วตักใส่ถ้วยพร้อมทานจ้า


4. น้ำพริกหนุ่ม

ทานน้ำพริกเพื่อสุขภาพกันดีกว่าค่ะ น้ำพริกหนุ่มเป็นน้ำพริกที่ทำง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่แถมยังปรุงรสได้ง่ายสุด ๆ จะทานกับข้าวเปล่า ๆ ทานกับผักสดผักลวก หรือจิ้มแคปหมูก็อร่อย ส่วนวิธีทำก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากแถมยังใช้วิธีทำแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

วัตถุดิบน้ำพริกหนุ่ม

  • พริกหนุ่ม
  • หอมแดง
  • กระเทียม
  • เกลือ
  • น้ำปลา

วิธีทำน้ำพริกหนุ่ม

นำพริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียมมาย่างไฟจนพริกสุกและหอมแดงใสค่ะ สามอย่างนี้ย่างแยกกันนะคะ เสร็จแล้วนำพริกมาลอกเปลือกออกให้หมด เหลือไว้แค่เนื้อพริก หั่นท่อนให้เรียบร้อย ส่วนหอมแดงก็เอาส่วนไหม้ออกค่ะ

นำหอมกระเทียมมาตำให้ละเอียด ตามด้วยพริกหนุ่ม ตำให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำปลา คลุกเคล้าอีกหนึ่งรอบและตักใส่ภาชนะ ง่าย ๆ แค่นี้น้ำพริกหนุ่มอร่อย ๆ ก็พร้อมรับประทานแล้ว


5. กุ้งผัดซอสพริก

เมนูนี้เราจะนำกุ้งสดตัวโต ๆ เนื้อแน่น ๆ มาล้างคำความสะอาดแล้วนำไปผัดรวมกับซอสที่มีความเผ็ดเปรี้ยวของซอสพริกและกลิ่นหอมเอกลักษณ์ของพริกไทย เมนูนี้ทำง่าย ๆ และอร่อยสุด ๆ ไปเลยค่ะ ยิ่งผัดให้ซอสข้นเหนียวเคลือบเนื้อกุ้งยิ่งดีงาม กัดเข้าไปแล้วซอสเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ จะตัดกับความหวานของเนื้อกุ้ง ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความอร่อย

วัตถุดิบกุ้งผัดซอสพริก

  • กุ้งสด
  • กระเทียม
  • คึ่นฉ่าย
  • พริกไทยเม็ด
  • เกลือ
  • ซอสพริก
  • ซอสหอยนางรม
  • น้ำตาล
  • น้ำเปล่า
  • น้ำมันพืช

วิธีทำกุ้งผัดซอสพริก

ล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกเว้นหาง ผ่าหลังแล้วดึงเอาเส้นดำกลางหลังออกให้เรียบร้อย เสร็จแล้วนำพริกไทยเม็ดมาคั่วให้ผิวตึงหอมแล้วตำไม่ต้องละเอียดมาก ส่วนกระเทียมก็สับให้ละเอียดรอไว้ได้เลยค่ะ

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอน้ำมันร้อนแล้วนำกระเทียมลงผัดให้หอม ตามด้วยพริกไทยและซอสพริก ใส่พริกไทยไม่ต้องเยอะมากส่วนซอสพริกใส่เยอะนิดนึงนะคะ เติมน้ำเปล่าอีกนิดหน่อยไม่ให้ซอสข้นเกินไป ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล และซอสหอยนางรม ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน ชิมรสให้มีความเผ็ด ๆ เปรี้ยวซอสพริกและหวานปลายลิ้นนิดหน่อย

หลังจากได้ซอสแล้วเราก็ใส่กุ้งต่อเลยค่ะ อย่าเพิ่งผัดนะคะ ปล่อยให้กุ้งสุกแล้วค่อยกลับด้าน หลังจากสุกดีทั้งสองด้านแล้วค่อยผัดให้ซอสเคลือบเนื้อกุ้ง ทิ้งให้ซอสงวดอีกหน่อยก็ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย


6. ต้มจับฉ่าย

ตามมาติด ๆ กับเมนูต้มที่ทำครั้งเดียวทานได้หลายมื้ออย่างต้มจับฉ่าย เป็นที่รู้กันดูว่าเมนูนี้เป็นเมนูเพื่อสุขภาพสุด ๆ เพราะเต็มไปด้วยผักแน่น มีเนื้อสัตว์ให้ได้เคี้ยวอีกหน่อย เราจะตุ๋นผักไว้จนเปื่อยและน้ำซุปมีรสหวานกลมกล่อม มีกลิ่นหอมของน้ำซุปอ่อน ๆ และรสหวานเค็มกลมกล่อม อร่อยสุด ๆ ยิ่งเคี่ยว ยิ่งอุ่นก็ยิ่งอร่อยมาก ๆ

วัตถุดิบต้มจับฉ่าย

  • กระดูกหมูหรือซี่โครง
  • เห็ดหอมแห้ง
  • แครอท
  • ผักโขมจีน
  • ผักกวางตุ้ง
  • กะหล่ำปลี
  • ผักกาดขาว
  • คึ่นฉ่าย
  • หัวไชเท้า
  • พริกไทยขาวเม็ด
  • กระเทียม
  • ซีอิ๊วขาว
  • ซอสหอยนางรม
  • เกลือ
  • น้ำตาล
  • น้ำเปล่า
  • น้ำมันพืช

วิธีทำต้มจับฉ่าย

เราจะเริ่มต้นด้วยการล้างผักก่อนค่ะ ผักเนี่ยเพื่อน ๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเลยนะ แต่แนะนำให้มีหัวไชเท้าและแครอทสักหน่อยเพื่อเพิ่มความหวานให้กับน้ำซุป ล้างผักเสร็จแล้วก็ปอกเปลือกหัวไชเท้าและแครอท หั่นชิ้นให้เรียบร้อย ส่วนผักอื่น ๆ ก็หั่นท่อนขนาดตามความชอบได้เลย ส่วนเห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่มแล้วหั่นท่อน

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เร่งไฟกลางค่อนแรงแล้วนำกระเทียมทั้งกลีบและพริกไทยขาวลงไปผัดให้หอมและกระเทียมเริ่มกรอบตักใส่หม้อที่เราจะต้มจับฉ่ายได้เลยค่ะ เสร็จแล้วนำหมูมาผัดต่อจนสุกและใส่หม้อเช่นกัน ปิดท้ายด้วยผักทั้งหมดที่เรามี รวมถึงเห็ดหอม นำไปผัดต่อจนผักสลด เทใส่หม้อต้มเลยค่ะ

นำหม้อต้มตั้งไฟกลาง ใส่น้ำลงไปให้พอท่วมผัก ปิดฝาทิ้งไว้จนน้ำเดือดแล้วปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว, ซอสหอยนางรม, เกลือ และน้ำตาล ชิมรสชาติไม่ให้เค็มจนเกินไป ปรับเป็นไฟอ่อนแล้วปิดฝาแบบไม่ต้องสนิทนะคะ ให้มีไอน้ำลอยออกมาอีกหน่อย ต้มทิ้งไว้เลย ขณะต้มก็คอยช้อนน้ำมันลอยหน้าออกด้วยนะ

หลังจากต้มจับฉ่ายของเราเปื่อยแล้วก็ชิมรสชาติอีกสักหน่อย เช็กให้หัวไชเท้าสุกใสดี ถ้าเพื่อน ๆ อยากให้สีของน้ำเข้มขึ้นก็สามารถเติมซีอิ๊วดำหวานลงไปได้นะคะ ใส่ทีละน้อย ๆ จนได้สีเข้มตามต้องการ ปล่อยให้เดือดอีกครั้งแล้วตักใส่ถ้วยทานได้เลย ส่วนที่เหลือเก็บไว้อุ่นครั้งต่อไปค่ะ


7. สุกี้โรล

เบื่อข้าวแล้ว หันมาทานสุกี้อร่อย ๆ กันบ้างดีกว่า แต่สุกี้ของเราไม่ธรรมดาแน่นอนเพราะแทนที่จะนำทุกอย่างใส่หม้อต้มเราจะเอามาห่อผักกาดให้สวยงามแล้วจิ้มน้ำจิ้มสุกี้เผ็ด ๆ เปรี้ยว ๆ แทน ถึงจะเปลี่ยนรูปลักษณ์แต่ขอรับรองว่าความอร่อยจัดเต็ม เนื้อหมูหมักจะหอมนุ่ม เพิ่มความหวานด้วยเนื้อกุ้งเด้ง ๆ ฉ่ำ ๆ และข้าวโพดอ่อน ส่วนผักกาดขาวก็ลวกมาอย่างดี เนื้อหวานนุ่มสุด ๆ ไปเลย

วัตถุดิบสุกี้โรล

  • กุ้งสด
  • หมูสับ
  • วุ้นเส้นสด
  • ผักกาดขาว
  • แครอท
  • ข้าวโพดอ่อน
  • ต้นหอม
  • เกลือ
  • ซีอิ๊วขาว
  • ซอสหอยนางรม
  • น้ำตาล
  • น้ำจิ้มสุกี้
  • น้ำเปล่า

วิธีทำสุกี้โรล

ขั้นตอนการทำง่ายมากเลยค่ะ เราจะนำผักกาดขาวมาแยกออกเป็นใบ ๆ ตัดก้านแข็ง ๆ ออก ล้างทำความสะอาดรอไว้ ตามด้วยล้างข้าวโพดอ่อนและต้นหอม ปอกเปลือกแครอท ส่วนกุ้งก็ปอกเปลือกเอาแต่เนื้อ ดึงเส้นดำออกแล้วบั้งบริเวณด้านล่างไม่ให้กุ้งงอ

ตั้งหม้อใส่น้ำ ใส่เกลือนิดหน่อยแล้วหาภาชนะใส่น้ำและน้ำแข็งมารอไว้ น้ำเริ่มเดือดแล้วน้ำผักกาดขาวลงไปลวกจนนุ่มแต่ไม่ต้องถึงกับสุกมาก ตักขึ้นน็อกน้ำเย็นทันที ส่วนต้นหอมก็ทำแบบเดียวกันเลยค่ะ

นำวุ้นเส้นมาตัดให้เป็นท่อนสั้น ๆ หมักรวมกับหมู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว, ซอสหอยนางรม และน้ำตาลนิดหน่อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ ระหว่างนั้นก็หันมาหั่นแครอทเป็นแท่งและผ่าครึ่งข้าวโพดอ่อน

แผ่ผักกาดขาว วางหมูหมักลงไป ตามด้วยข้าวโพดอ่อน แครอท และปิดท้ายด้วยเนื้อกุ้ง ม้วนผักห่อไส้ให้แน่นแต่ระวังผักขาดนะคะ ปิดไส้ให้มิดแล้วนำต้นหอมมามัดให้แน่นเพื่อความสวยงาม หลังจากทำครบจนหมดแล้วนำสุกี้โรลไปนึ่งด้วยลังถึงหรือหม้อนึ่งไฟฟ้าประมาณ 10 – 15 นาที ยกออกมาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสุกี้ค่ะ


8. บลูเบอร์รี่ชีสพาย

พูดถึงขนมมหวานพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่ต้องคิดว่ามันทำยากแน่ ๆ บอกเลยว่าคิดผิดค่ะ มีขนมหวานมากมายเลยที่มีขั้นตอนและวิธีทำง่ายมาก ๆ และเหมาะสำหรับมือใหม่ โดยเฉพาะบลูเบอร์รีชีสพายแสนอร่อยที่มีความเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ทำเองก็จะได้ซอสบลูเบอร์รีเน้น ๆ ชั้นครีมชีสกะแน่นหน่อย ออกรสเปรี้ยวนิด ๆ เข้ากันได้ดีกับฐานพายเค็ม ๆ ค่ะ

วัตถุดิบบลูเบอร์รี่ชีสพาย

  • บิสกิตหรือแครกเกอร์
  • เนยจืด
  • เกลือ
  • ครีมชีส
  • นมข้นหวาน
  • วิปครีม
  • มะนาว
  • ซอสบลูเบอร์รีกระป๋อง

วิธีทำบลูเบอร์รี่ชีสพาย

ขั้นตอนแรกเราจะทำฐานพายกันก่อนค่ะ เราจะนำแครกเกอร์มาบดให้ละเอียด อาจจะใช้เครื่องปั่นอาหารหรือใช้สากทุบก็ได้นะคะ ก่อนบดก็ชิมนิดนึงว่าแครกเกอร์ที่ซื้อมาเป็นแบบเค็มหรือเปล่า ถ้าเค็ม ๆ อยู่แล้วก็บดได้เลย แต่ถ้าจืดหรือหวานเราจะใส่เกลือเพิ่มลงไปเพราะฐานพายจะต้องมีรสเค็มอ่อน ๆ ค่ะ

แครกเกอร์ละเอียดดีแล้วเราจะละลายเนยจืดแล้วนำมาผสมกับแครกเกอร์จนเป็นเนื้อเดียวกัน เน้นว่าต้องเป็นเนยนะคะไม่ใช่มาการีน ค่อย ๆ ใส่ทีละนิด ผสมไปเรื่อย ๆ จนฐานเนี่ยสามารถปั้นเป็นก้อนได้ ไม่ร่วนหรือเหลวจนเกินไป เสร็จแล้วก็นำมาบุลงในพิมพ์สำหรับทำพายหรือกรุใส่ถ้วยแก้วใส ๆ ก็ได้ค่ะ กดให้แน่นแล้วนำเข้าตู้เย็นจนเซตตัว

ระหว่างรอเรามาทำครีมกันค่ะ เราจะใช้ครีมชีสเป็นหลัก เพิ่มความหวานด้วยนมข้นหวาน เพิ่มสัมผัสเนียนนุ่มด้วยวิปครีม และเพิ่มรสเปรี้ยวหน่อยด้วยน้ำมะนาว หลังจากนั้นใช้ตะกร้อมือหรือเครื่องผสมอาหารปั่นจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกันและฟูขึ้น ถ้าใช้ตะกร้อมืออาจจะมีกล้ามขึ้นนิดหน่อย ถือว่าได้ออกกำลังกายไปในตัวเนอะ

กลับมาดูฐานพายกันบ้าง หลังจากฐานของเราแข็งแรงดีแล้วเราจะเอาออกจากตู้เย็นแล้วก็โปะครีมชีสลงไปเลยค่ะ อยากได้ชั้นครีมหนาแค่ไหนก็เลือกได้ตามชอบเลย เสร็จแล้วก็เอาเข้าตู้เย็นอีกครั้งให้ครีมเย็นขึ้นและเซ็ตตัวอีกหน่อย เสร็จแล้วเอาออกมาท็อปด้วยซอสบลูเบอร์รี่ให้สวยงาม ตัดแบ่งหรือรับประทานได้เลยค่ะ


9. คัสตาร์ตคาราเมล

สำหรับเชฟมือใหม่แล้ว แค่มีหม้อนึ่งเครื่องเดียวก็สามารถทำขนมหวานได้หลากหลาย และเมนูที่เราจะแนะนำวันนี้ก็คือคัสตาร์ตคาราเมลหอมนุ่มชื่นใจ เราจะเริ่มจากการนำน้ำตาลไปเคี่ยวจนได้ซอสคาราเมลหอม ๆ ติดกลิ่นไหม้เล็กน้อยแล้วนำเข้าตู้เย็นให้แข็งตัว หลังจากนั้นผสมไข่ไก่และนมสด ตีให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาวางบนซอสคาราเมล นำไปนึ่งให้คัสตาร์ตสุกหอมได้ที่ หลังจากเอาออกมาแล้วพลิกกลับด้านก็จะเห็นซอสคาราเมลไหลเยิ้ม ๆ เนื้อคัสตาร์ตก็จะเนียนนุ่มน่าสัมผัส รสชาติจะมัน ๆ หวาน ๆ อบอวลอยู่ในปาก กำกระดาษปากกาให้แน่นแล้วตามไปจดสูตรได้ที่ เมนูคัสตาร์ตคาราเมล ได้เลยค่ะ


10. ฮันนี่โทสต์

ใครมีหม้อทอดไร้น้ำมันหรือไมโครเวฟต้องถูกใจเมนูนี้แน่นอนค่ะ ฮันนี่โทสต์ของเราบอกเลยว่าขนมปังจะแน่น ๆ หน่อยเพราะเลือกขนาดได้เอง ราดเนยหอม ๆ อบใหม่ร้อน ๆ แล้วร้านน้ำผึ้งให้ฉ่ำ ท็อปด้วยวิปครีมจุก ๆ ไอศครีมเย็นชื่นใจและผลไม้เปรี้ยวหวานตัดเลี่ยน อย่ารอช้าเลือกซื้อวัตถุดิบแล้วไปรับบทเชฟกันเลย

วัตถุดิบฮันนี่โทสต์

  • ขนมปังปอนด์
  • เนยเค็ม
  • น้ำผึ้ง
  • วิปครีม
  • ไอศครีม
  • ผลไม้

วิธีทำฮันนี่โทสต์

เราจะเริ่มจากโทสต์กันก่อนค่ะ เราจะใช้ขนมปังปปอนด์ก้อนใหญ่ ๆ เลย ตัดแบ่งความหนาตามชอบ เสร็จแล้วหั่นให้เป็นแท่งแต่ไม่ต้องให้ขาดนะคะ ทำเหมือนที่เคยทานที่คาเฟ่เลย เคล็ดลับก็คือเราจะเริ่มหั่นจากตรงกลางก่อน แล้วก็หั่นซ้ายขวา หมุนอีกฝั่งแล้วทำตามวิธีเดิม

ละลายเนยเค็มด้วยไมโครเวฟแล้วนำมาราดลงในรอยแยกให้ฉ่ำเลยค่ะ เพื่อน ๆ จะหั่นเนยเป็นแผ่น ๆ แล้วใส่ลงในช่องว่างก็ได้ค่ะ เอาตามสะดวกเลยเนอะ หลังจากนั้นเอาเข้าหม้อทอดไร้น้ำมันหรือเตาอบจนขอบของโทสต์กรอบและเนื้อขนมปังนุ่ม

หลังจากโทสต์กรอบดีแล้วเราก็เอาออกจากเตาเลยค่ะ ขั้นตอนนี้แหละเราจะรีบราดน้ำผึ้งลงไปตอนร้อน ๆ เลย ความหวานฉ่ำจะซึมเข้าเนื้อได้ง่ายขึ้น เสร็จแล้วบีบวิปครีมลงไปจุก โปะไอศครีมอีก1 ปิดท้ายด้วยผลไม้จัดเต็ม ฮันนี่โทสต์พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า


และนี่ก็คือ 10 เมนูง่าย ๆ สำหรับเชฟมือใหม่ที่เรานำมาฝากวันนี้ เป็นอย่างไรบ้างคะ มีครบทั้งของคาวของหวานกันเลย แต่ละเมนูนี่ทำง่ายและใช้เวลาไม่นานแน่นอนค่ะ บางครั้งตอนทำอาหารครั้งแรกมันอาจจะไม่อร่อยอย่างที่เราคาดหวังหรืออาจจะพังไม่เป็นท่า แต่ขอแค่เราตั้งใจฝึกฝนไปเรื่อย ๆ ปรับนู่นนิด ปรับนี่หน่อย อย่าเพิ่งท้อแท้ สุดท้ายแล้วเพื่อน ๆ อาจจะได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารไปเลยก็ได้นะ ดีไม่ดีระหว่างทางเราอาจจะค้นพบเมนูใหม่ ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเราเองอีกด้วย หลังจากฝึกจนชำนาญแล้วเราก็ยังมีสูตรอาหารเด็ด ๆ รอเพื่อน ๆ มาทดลองทำอีกเพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เมนูจากปลา, เมนูจากกุ้ง, เมนูจากปูม้า, เมนูจากอกไก่, คุกกี้ต่าง ๆ รวมไปถึงไอเดียข้าวกล่องและเมนูอาหารตามสั่งด้วยนะ นอกจากอาหารแล้วเรายังมีบทความแนะนำเครื่องครัวสำหรับเชฟมือใหม่ด้วยนะ ลองเข้าไปอ่านดูนะคะ