หลายคนอาจจะเคยได้ได้ยินมาบ้างแล้วว่าการรับประทานอาหารเช้าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย และอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญมากที่สุด เพราะในช่วง 7-10 ชั่วโมงที่คุณนอนหลับ ร่างกายของคุณยังคงเผาผลาญอาหารที่คุณรับประทานเข้าไปช่วงเย็นมาเป็นพลังงานเพื่อช่วยให้หัวใจและระบบต่าง ๆ ยังคงทำงานได้ขณะหลับ และเมื่อตื่นนอนในตอนเช้าภายในกระเพาะอาหารของคุณแทบจะไม่มีอาหารเหลืออยู่แล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะต่ำ แถมตอนเช้ายังเป็นช่วงที่เลือดของคุณมีความเข้มข้นมากเพราะขนาดน้ำเป็นเวลานาน อาจจะทำให้มีความเสี่ยงที่หลอดเลือดจะอุดตันสูงค่ะ ยิ่งถ้าตื่นมาแล้วคุณไม่รับประทานอาหารเช้าอีก เลือดก็ยังไม่ถูกเจือจาง น้ำตาลที่ต่ำอยู่แล้วก็ยิ่งต่ำลงไปอีก น้ำย่อยในกระเพาะที่ถูกปล่อยออกมาแล้วไม่เจออาหารก็ไปกัดผนังกระเพาะอาหารแทนทำให้คุณรู้สึกปวดท้อง และกว่าจะถึงมื้อเที่ยงคุณก็แทบจะไม่มีแรงหลงเหลือแล้ว ในหัวกระวนกระวายคิดถึงแต่อาหารจนไม่มีสมาธิในการเรียนหรือทำงาน เมื่อมื้อเที่ยงมาถึงคุณเลยทานทุกอย่างที่ขวางหน้าเพราะอยากให้อาการเหล่านี้หายไปโดยเร็ว
แต่ปัญหานี้จะหมดไปถ้าคุณตื่นมาแล้วรับประทานอาหารเช้าพร้อมดื่มน้ำอีกหนึ่งแก้วสวย ๆ เมื่อน้ำย่อยถูกปล่อยออกมาแล้วเจออาหารก็จะไม่ทะเลาะกับผนังกระเพาะ อาหารถูกย่อยแล้วระดับน้ำตาลจะกลับมาอยู่ในระดับปกติ น้ำที่ดื่มเข้าไปก็จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและเจือจางให้เลือดไม่ข้นหนืด เลือดก็วิ่งปรู๊ดไปยังสมองได้เร็วและช่วยให้คุณทำงานได้อย่างราบรื่น (1,2)
แต่การจะให้ตื่นมารับแสงแดดและทำอาหารเช้าพร้อมฟังเสียงนกเสียงกาก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากสำหรับวิถีชีวิตของคนในยุคนี้ เพราะเดี๋ยวนี้ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยความเร่งรีบและต้องทำงานแข่งกับเวลา บางคนต้องตื่นแต่เช้าและใช้เวลาวันละหลายชั่วโมงบนถนนจนไม่มีเวลามากพอที่จะรับประทานอาหารเช้า ยิ่งการรับประทานอาหารให้ตรงเวลานี่ลืมไปได้เลย เพราะงานที่รัดตัวจนไม่สามารถปลีกเวลาออกมาได้ เมนูที่ทำง่ายและสามารถทานได้บนโต๊ะทำงานจึงเป็นอาหารที่ตอบโจทย์สำหรับคนกลุ่มนี้ค่ะ และเมนูแรก ๆที่หลายคนคิดออกก็หนีไม่พ้น “แซนด์วิช” เพราะมันทำง่าย มีสารอาหารครบถ้วน ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย แถมยังทานได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวอีกด้วย ด้วยความที่เมนูนี้มันทำง่ายมาก ๆ เราเลยชวนเพื่อน ๆ มาเข้าครัวทำแซนด์วิชไว้รับประทานกันค่ะ
ขนมปัง 101 (ความรู้เกี่ยวกับขนมปัง)
หลายคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าบนโลกของเรามีขนมปังอยู่มากมายหลายชนิด และขนมปังแต่ละชนิดก็มีคุณค่าทางโภชนาการและวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน แต่หนึ่งสิ่งที่เหมือนกันแน่นอนก็คือ ขนมปังประกอบไปด้วยแป้ง, น้ำ, ยีสต์ และเกลือ ทั้ง 4 อย่างนี้ถือเป็นหัวใจหลักของขนมปังเลยค่ะ จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้เลย และที่เพื่อน ๆ เห็นว่ารสชาติและหน้าตาของขนมปังแตกต่างกันก็เพราะพวกมันมีการเติมธัญพืช, ใช้เวลาในการหมัก และใช้วิธีอบที่แตกต่างกัน เนื้อสัมผัสและรสชาติจึงแตกต่างกันตามไปด้วย ซึ่งหลัก ๆ แล้วขนมปังสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้ค่ะ
- ขนมปังขาว แน่นอนว่าคุณต้องรู้จักขนมปังชนิดนี้แน่นอน ขนมปังขาวทำมาจากแป้ง, น้ำ, ยีสต์ และน้ำตาล เมื่อนำมาอบแล้วเนื้อขนมปังก็จะมีสีขาวนวล เนื้อนุ่ม ๆ ฟู ๆ และมีราคาถูกมากที่สุดเพราะไม่ได้มีวิธีการทำที่ซับซ้อนอะไรมากค่ะ สามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลายเลย
- ขนมปังโฮลวีท ขนมปังสำหรับคนรักสุขภาพ ขนมปังโฮลวีทมีส่วนผสมหลักคล้าย ๆ กับขนมปังขาวเลยค่ะ แต่โฮลวีทจะใช้แป้งไม่ขัดสีและอาจจะมีการเพิ่มธัญพืชเข้าไป สีก็จะออกน้ำตาล ๆ เข้ม ๆ หน่อย เนื้อสัมผัสค่อนข้างสากและเนื้อไม่ได้เนียนเท่าขนมปังขาว
- เบเกิล ขนมปังเบเกิลมีลักษณะเหมือนกับโดนัททุกประการแต่สิ่งที่ทำให้ขนมทั้ง 2 ประเภทนี้แตกต่างกันก็คือ เบเกิลจะมีเนื้อสัมผัสเป็นขนมปังทั่วไป ไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนโดนัทและผิวด้านนอกของเบเกิลจะกรอบ ๆ และอาจจะมีการโรยธัญพืชลงไปด้วย มักจะนำมาผ่าครึ่งแล้วทานคู่กับของคาวอย่างแซลมอนและครีมชีส
- บาแก็ต หลายคนเรียกเจ้าขนมปังแท่งยาว ๆ ว่าขนมปังฝรั่งเศสเพราะบ้านเกิดของน้องบาแก็ตอยู่ที่เมืองปารีสนั่นเองค่ะ บาแก็ตเป็นขนมปังหมักที่มีรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ เนื้อด้านนอกแข็งหน่อยแต่ด้านในนุ่มนิ่ม ส่วนใหญ่ก็จะนำมาทำแซนด์วิชหรือจิ้มกับซอสต่าง ๆ ตัดสั่นยาวได้ตามชอบเพราะเขาขายกันเป็นแท่งยาวทั้งแท่งเลยค่ะ
- ครัวซองต์ พี่น้องของบาแก็ตเพราะมาจากฝรั่งเศสเหมือนกัน หลายคนคงจะคุ้นเคยกับขนมปังชนิดนี้ดีอยู่แล้ว ครัวซองต์เป็นขนมปังที่มีการม้วนเป็นชั่น ๆ และรูปร่างคล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว (ครัวซองต์แปลว่าพระจันทร์เสี้ยว) เนื้อสัมผัสก็จะฟู ๆ กรอบ ๆ หน่อยเพราะเป็นการรีดแป้งให้บางแล้วนำมาพับซ้อนสลับกับเนยเป็นร้อยชั้นเลยค่ะ จากนั้นก็ม้วนและอบทำให้หอมเนยมาก ๆ
- ตอร์ติญญ่า ขนมปังทรงแบน ๆ คล้ายโรตีแต่ตอร์ติญญ่าเป็นขนมปังของเม็กซิกันค่ะ มักจะนำมาปิ้งหรืออบให้ร้อน แป้งไม่กรอบมากเท่าไหร่ จากนั้นก็ใส่ไส้ไม่ว่าจะเป็นผักหรือเนื้อได้หมด ยิ่งเป็นเนื้อย่างนี้สุด ๆ เหยาะซอสทาบาสโกอีกนิดคืออร่อยมาก แป้งจะไม่กรอบแต่เหนียว ๆ นุ่ม ๆ ค่ะ
- โรตี ขนมปังจากอินเดียที่ฮิตมาก ๆ ในประเทศไทยเพราะสามารถหาทานได้ทุกตรอกซอกซอย โรตีก็จะทำจากแป้งสาลี จากนั้นนำมาทอดด้วยเนย โรตีแท้ ๆ จะทานคู่กับแกงต่าง ๆ มีแต่ประเทศไทยนี่แหละค่ะที่นำโรตีมาราดนมข้นหวานโรยน้ำตาลหรือแอดแวนซ์ใส่ไส้ต่าง ๆ
- ซาลาเปา เมนูที่รับประทานกันตั้งแต่เด็กจนโต จนหลายคนลืมไปแล้วว่ามันคือขนมปังด้วยหรือนี่ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าซาลาเปาเป็นขนมปังจากจีน สามารถใส่ได้หลากหลาย จะเป็นของคาวหรือของหวานได้หมด ส่วนขนมปังไม่ใส่ไส้เราจะเรียกว่าหมั่นโถวค่ะ
ขนมปังขาว VS ขนมปังโฮลวีท แบบไหนดี?
ในโลกของขนมปัง ขนมปังขาวและขนมปังโฮลวีทถือเป็นขนมปังที่มีความนิยมและถูกผลิตออกมามากที่สุด เนื่องจากขนมปังทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลาย ไม่ว่าจะนำมาทาแยมผลไม้, ทำเป็นขนมหวาน, ทำเป็นแซนด์วิช, ทำเป็นอาหารคาว หรือจะทานเปล่า ๆ ก็อร่อย สมัยแรก ๆ คนก็จะนิยมทานขนมปังขาวกันเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังจากมีขนมปังโฮลวีทเข้ามาแย่งซีนคนก็หันไปรับประทานขนมปังโฮลวีทกันมากขึ้นเพราะมีคำบอกเล่ากันว่าขนมปังชนิดนี้มีสารอาหารและมีประโยชน์มากกว่าขนมปังขาว แล้วผู้บริโภคอย่างเรา ๆ จะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าขนมปังโฮลวีทดีกว่าขนมปังขาว? เรามาการเปรียบเทียบตารางด้านล่างกันให้ชัด ๆ ไปเลยดีกว่าว่าระหว่างขนมปัง 2 ชนิดนี้ใครจะมีดีกว่าใคร (3,4)
| สารอาหารต่อ 1 แผ่น (28 กรัม) | ขนมปังขาว | ขนมปังโฮลวีท |
|---|---|---|
| แคลอรี่ | 75.6 | 66.6 |
| คอลเลสเตอรอล | 1 | 0.60 |
| น้ำตาล | 1.5 | 1.4 |
| โพแทสเซียม | 3.28 | 3.56 |
| คาร์โบไฮเดรต | 13.8 | 12.3 |
| โปรตีน | 2.64 | 2.98 |
| ไฟเบอร์ | 0.64 | 2.58 |
ขนมปังขาว(5)
คือการนำข้าวสาลีมาขัดเอาเปลือกออกแล้วเลือกเอาเฉพาะเนื้อข้าวสีขาวมาทำขนมปัง ผลที่ออกมาก็จะได้ขนมปังเนื้อขาวเนียน สัมผัสนุ่ม อย่างที่ทุกคนเคยรับประทานค่ะ ซึ่งขนมปังขาวหนึ่งแผ่นประกอบไปด้วยไฟเบอร์, วิตามินต่าง ๆ , สารต้านอนุมูลอิสระ และคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ซึ่งเจ้าคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวก็จะทำให้ร่างกายย่อยสลายและเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลได้เร็วค่ะ ที่สำคัญคือขนมปังขาวมีราคาถูกและหาซื้อได้ทั่วไป
ขนมปังโฮลวีท(6)
คือขนมปังที่นำข้าวสาลีไม่ผ่านกระบวนการขัดสี นำมาผสมกับแป้งสาลีธรรมดาอย่างละครึ่ง ๆ เนื้อขนมปังค่อนข้างหยาบหน่อย ๆ และไม่เนียนนุ่ม สีออกน้ำตาลอ่อน ๆ แต่ในความหยาบนี้อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์, วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะขนมปังเหล่านี้ผ่านกระบวนการขัดสีน้อยมาก ๆ จึงมีสารอาหารหลงเหลืออยู่เยอะ และร่างกายก็สามารถย่อยสลายสารอาหารเหล่านี้ได้โดยตรง และขนมปังโฮลวีทมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนทำให้ร่างกายของคุณย่อยสารอาหารได้ช้าลง ดูดซึมน้ำตาลได้ดีขึ้น และทำให้คุณรู้สึกอิ่มนาน ลดการทานจุกจิกลงได้
หลังจากได้อ่านตารางข้างล่างแล้วเพื่อน ๆ ก็คงจะตัดสินใจได้แล้วใช่ไหมคะว่าควรเลือกทานขนมปังชนิดไหน สำหรับเพื่อน ๆ ที่ถูกใจขนมปังโฮลวีทเราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ อ่านฉลากและส่วนประกอบบนถุงให้ละเอียดนิดนึงนะคะ คุณควรเลือกขนมปังที่มีส่วนผสมของโฮลวีทมากกว่าแป้งสาลีจะได้สารอาหารที่เยอะและคุ้มกว่าค่ะ ส่วนสายขนมปังขาวก็มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาหรือแบบ gluten free อีกด้วย
ขอบขนมปัง เศษส่วนที่ไม่ควรตัดทิ้ง
เมื่อซื้อขนมปังมา สิ่งแรกที่หลายคนมักจะทำก็คือการหั่นขอบทิ้ง (ใช้มีดหั่นขนมปัง) เพราะคุณรู้สึกว่าขอบขนมปังมันให้ความรู้สึกหยาบ ๆ กระด้าง และรสชาติไม่อร่อยเท่าเนื้อขนมปังสีขาวนวลด้านใน หรือบางคนก็คิดว่าขอบขนมปังก็คือเนื้อขนมปังที่ไหม้และอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เราขอบอกเลยว่าคุณพลาดแล้วค่ะ เพราะขอบขนมปังสีน้ำตาลนั้นเกิดจากปฏิกิริยามิลลาร์ด (Maliiard reaction) ที่เกิดขึ้นเมื่อกรดอะมิโนแอล – ไลซีน ในขนมปังโดนความร้อนโดยตรงก็จะเปลี่ยนสี และสิ่งที่หลายคนยังไม่ทราบก็คือระหว่างเกิดปฏิกิริยามิลลาร์ดก็มีสารอีกหนึ่งชนิดเกิดขึ้นมาด้วย และมันก็คือสาร โพรนิลไลซีน (pronyl-lysine) ซึ่งเจ้าสารตัวนี้ก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็งได้ และสารตัวนี้ก็พบอยู่ในขอบขนมปังมากกว่าเนื้อสีขาวด้านในถึง 8 เท่า สารโพรนิลไลซีนจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อขนมปังโดนอบและมีสีน้ำตาลเท่านั้น ยิ่งขนมปังก้อนเล็กเท่าไหร่สารชนิดนี้ก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นค่ะ แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ขนมปังโดนอบหรือกลายเป็นสีน้ำตาลมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้สารตัวอื่น ๆ ที่ไม่ทนความร้อนหายไปได้ (7,8)
1. แซนด์วิชโบราณ
ประเดิมเมนูแรกกันด้วยแซนด์วิชโบราณที่ต้องซื้อกินหน้าโรงเรียน เท่าที่จำได้เนี่ยแซนด์วิชตอนนั้นคือทาซอสบาง ๆ ใส่โบโลน่าที่หั่นแล้วหั่นอีก แล้วก็หมูหยองอีกกระจึ๋งนึง เราเลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาทำแซนด์วิชโบราณลบล้างความแค้นในอดีต สูตรของเราทำไม่ยากและใส่ไส้เน้น ๆ แน่นแบบไม่ต้องกลัวขาดทุน ส่วนรสชาติขอรับประกันว่างานเกรด A+ ทั้งรสชาติซอสที่หวาน ๆ มัน ๆ ตัดกับหมูหยองรสหวาน ๆ และโบโลนากลมกล่อมเข้ากันมาก ๆ ทำเองจะใส่กี่ชั้นก็จัดไปอย่าให้เสีย
วัตถุดิบแซนด์วิชโบราณ
- ขนมปัง
- ไข่ไก่
- หมูหยอง
- โบโลน่า
- เกลือ
- พริกไทย
- น้ำตาลทราย
- มายองเนส
- นมข้นหวาน
- น้ำมันพืช
- น้ำส้มสายชู
วิธีทำแซนด์วิชโบราณ
ขั้นตอนแรกตั้งหม้อใส่น้ำก่อนค่ะ ใช้ไฟกลางปล่อยให้น้ำเดือด ระหว่างรอเราก็หยิบภาชนะทนความร้อนที่สามารถวางบนหม้อได้ออกมา จากนั้นตอกไข่ใส่ภาชนะ ตามด้วยน้ำตาลทราย, เกลือ, มายองเนส, นมข้นหวาน และน้ำส้มสายชู ตีให้ส่วนผสมเข้ากันดี หลงจากน้ำในหม้อเดือดได้ที่แล้วก็เอาภาชนะวางบนหม้อ ตีไปเรื่อย ๆ ส่วนผสมก็จะกลายเป็นเนื้อครีม ตีจนซอสข้นตามชอบ
ซอสข้นดีแล้วก็ยกลงจากเตาค่ะ เติมน้ำมันพืช, เกลือ และพริกไทย คนให้เข้ากัน คนเรื่อย ๆ ให้ซอสคายความร้อนออกมาก่อน เมื่อซอสหายร้อนแล้วก็หยิบขนมปังออกมา ปาดซอสลงไป วางโบโลน่า หยิบขนมปังมาทาซอสแล้ววางทับโลโลน่า โปะด้วยหมูหยอง หยิบขนมปังทาซอสแล้วปิดลงไปด้านบน หั่นครึ่งตามแนวทแยง แค่นี้แซนด์วิชโบราณก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
2. คลับแซนด์วิช
ตามมาติด ๆ กับคลับแซนด์วิชที่เป็นที่นิยมมาก ๆ ในต่างประเทศ เพราะคลับแซนด์วิชจะมีชิ้นค่อนข้างใหญ่ มี ขนมปัง 3 ชั้น และมีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ซึ่งเพื่อน ๆ ก็สามารถดัดแปลงใส่นู่นลดนี่ได้ตามชอบเลยนะคะ แต่สิ่งสำคัญที่ควรจะมีก็คือขนมปังขาว, มายองเนส และมะเขือเทศ เมื่อทั้ง 3 อย่างนี้มารวมกันก็จะได้รสชาติที่อร่อยลงตัว ยิ่งเพิ่มโปรตีนจากเนื้อสัตว์และเบคอนกรุกรอบเข้าไปอีกทำให้เมนูนี้ยิ่งอร่อยสุด ๆ ไปเลยค่ะ
วัตถุดิบคลับแซนด์วิช
- ขนมปังขาว
- อกไก่
- เบค่อน
- มะเขือเทศ
- มายองเนส
- ผักกาดแก้วหรือผักสลัด
- เกลือ
- พริกไทย
- น้ำเปล่า
วิธีทำคลับแซนด์วิช
ขั้นตอนแรกก็มาจัดการเจ้าเบค่อนกันก่อนเลย ตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟกลางค่อนอ่อน จากนั้นวางเรียงเบค่อนลงไป ขั้นตอนนี้ใจเย็น ๆ ปล่อยให้เบค่อนโดนความร้อนแล้วค่อย ๆ คายน้ำมันออกมาค่ะ ระหว่างรอก็หันไปล้างทำความสะอาดผักและผึ่งให้สะเด็ดน้ำเตรียมไว้เลย
จากเบคอนหนา ๆ ตอนนี้ชิ้นก็บางลงแล้ว เมื่อเบค่อนสุกดีแล้วเพื่อน ๆ ก็ตักขึ้นมาพักให้หายร้อนได้เลยค่ะ ตอนแรกอาจจะยังดูนิ่ม ๆ อยู่แต่เบค่อนจะกรอบหลังจากเย็นตัวแล้ว จากนั้นก็ปรุงรสไก่ด้วยเกลือและพริกไทย นวด ๆ ให้เข้าเนื้อสักหน่อย
ใช้กระทะใบเดิมและน้ำมันเบค่อนในการทอดไก่ เปิดไฟกลาง เมื่อน้ำมันร้อนแล้วก็เอาไก่ลงไปทอดเลยค่ะ ทอดไปเรื่อย ๆ จนเนื้อไก่สุกและผิวติดเกรียมนิด ๆ ทั้ง 2 ด้าน จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไปสักครึ่งแก้วแล้วปิดฝา ปล่อยให้ไอน้ำเป็นตัวทำให้ไก่สุกทั่วทั้งชิ้น ปล่อยทิ้งไว้จนน้ำแห้งแล้วตักออกมาพักไว้
คราวนี้ก็มาถึงขนมปังแล้ว คลับแซนด์วิชเขาจะใช้ขนมปังขาวนะคะ แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เพื่อน ๆ จะนำขนมปังไปอบหรือจี่บนกระทะก็ได้ให้ขนมปังกรอบ จากนั้นหั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นบาง ๆ ตามด้วยสไลซ์มะเขือเทศเป็นชิ้นบางเช่นกัน
ขนมปังได้ที่แล้วก็นำออกมา ทามายองเนสลงบนขนมปังด้านหนึ่ง ตามด้วยมะเขือเทศและเบค่อน หยิบขนมปังอีกหนึ่งแผ่นมาทามายองเนส วางผักและเนื้อไก่ลงไป นำสองชิ้นมาซ้อนกัน ปิดท้ายด้วยทามายองเนสบาง ๆ บนขนมปังอีกหนึ่งชิ้นแล้วพลิกกลับด้าน นำมาประกบกัน กดให้ชิ้นแซนด์วิชแบนติดกันเล็กน้อย เพื่อน ๆ จะห่อกระดาษ, ห่อฟิล์มถนอมอาหาร หรือใช้ไม้จิ้มฟันเสียบให้แซนด์วิชติดกันก็ได้นะคะ ทิ้งไว้สักพักให้แซนด์วิชอยู่ตัวแล้วค่อยหั่นครึ่งตามแนวทแยง เสิร์ฟได้เลยค่า
3. แซนด์วิชทูน่าอะโวคาโด
เปลี่ยนมาเอาใจสายเฮลตี้กันบ้างกับเมนูแซนด์วิชทูน่าอะโวคาโด เมนูนี้จัดเต็มทั้งอะโวคาโดเนื้อเนียนนุ่มรสชาติมัน ๆ เกินห้ามใจ บวกกับความแน่น ความฉ่ำของทูน่าในน้ำเกลือที่อัดแน่นไปด้วยสารพัดประโยชน์ ยังไม่พอ! เสริมทัพด้วยผักคอสกรุบกรอบเพิ่มเท็กซ์เจอร์และความสุข ทานกับขนมปังโฮลวีตที่ปิ้งมาหอม ๆ เนื้อกรอบนิด ๆ อัดแน่นไปด้วยสารอาหารเพื่อสุขภาพ ในส่วนของรสชาติก็จะมัน ๆ เค็มนิด ๆ มีรสเปรี้ยวเบา ๆ ของมะเขือเทศและน้ำมะนาวเข้ามาตัดเลี่ยน สดชื่นและอร่อยกลมกล่อมค่ะ
วัตถุดิบแซนด์วิชทูน่าอะโวคาโด
- ขนมปังโฮลวีท
- อะโวคาโด
- ทูน่าในน้ำเกลือ
- ผักคอสหรือผักกาดแก้ว หรือถ้าไม่มีก็ใช้เป็นแตงอย่างในรูปก็ได้ค่ะ
- มะเขือเทศ (ใส่ไม่ใส่ก็ได้)
- มะนาว
- พริกไทย
วิธีทำแซนด์วิชทูน่าอะโวคาโด
ตักเอาเนื้อทูน่าใส่ชามผสม ยีให้เนื้อแตกและฟูขึ้น จากนั้นปรุงรสด้วยพริกไทยและน้ำมะนาวนิดหน่อยค่ะ พักไว้ก่อน หันมาผ่าครึ่งอะโวคาโดแล้วตักเอาเนื้อออกมา สไลซ์อะโวคาโดเป็นชิ้นหนาหรือบางตามความชอบเลยค่ะ เสร็จแล้วสไลซ์มะเขือเทศบาง ๆ แล้วซอยผักคอสเตรียมไว้ จากนั้นหยิบขนมปังลงย่างในกระทะหรือเครื่องปิ้งขนมปัง เอาแค่ให้ขอบขนมปังพอสุกเกรียม ๆ ก็พอค่ะ จากนั้นวางบนจน ตักทูน่าวางบนขนมปังแล้วเกลี่ยให้ทั่ว เรียงอะโวคะโด, มะเขือเทศ และผักคอสลงไปเป็นชั้นตามลำดับ นำขนมปังอีกแผ่นปิดทับด้านบน หั่นครึ่ง พร้อมเสิร์ฟ
4. แซนด์วิชสโม้คแซลมอน
มาต่อกันที่เมนูแซนด์วิชที่หน้าตาคล้ายโดนัทไส้ทะลักเพราะขนมปังเบเกิลมีลักษณะคล้ายโดนัทมาก ๆ แต่เนื้อสัมผัสของเบเกิลจะกรอบนอกนุ่มใน ตรงกลางมีครีมชีสเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ และสโม้คเบคอนเนื้อนุ่มรสเค็มอ่อน ๆ เมื่อนำมารวมกันแล้วเป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ กัดลงไปคำแรกคุณจะได้ยินเสียงกร๊อบแกร๊บของหน้าขนมปัง ต่อมาก็จะเป็นความนุ่ม และรสชาติของครีมชีสและแซลม่อนจะตามมาติด ๆ ยิ่งเคี้ยวไปเรื่อย ๆ ก็จะได้กลิ่นดิลล์หรือผักชีลาวเบา ๆ ช่วยให้รสชาติลงตัวค่ะ
วัตถุดิบแซนด์วิชสโม้คแซลม่อน
- ขนมปัง
- แซลม่อนรมควัน
- ผักโขม
- ผักชีลาว
- เลมอน
- หอมแขก
วิธีทำแซนด์วิชสโม้คแซลม่อน
ขั้นตอนแรกเราจะผ่าครึ่งขนมปังเบเกิลก่อนนะคะ จากนั้นเอาไปเตาอบไฟฟ้าให้ขนมปังกรอบและเนื้อด้านในนุ่มขึ้น ระหว่างรอก็มาซอยหอมแดงบาง ๆ และซอยผักชีลาวให้ละเอียด ส่วนมะนาวก็ผ่าซีกรอไว้ก่อนค่ะ จากนั้นบีบน้ำเลมอนลงในครีมชีส ตามด้วยผักชีลาว น้ำเลมอนบีบเยอะ ๆ ได้เลยนะคะ เพราะครีมชีสมีรสเค็มและแซลมอนก็ค่อนข้างเค็มอยู่แล้ว หากคุณไม่ถนัดจะใช้เป็นที่คั้นมะนาวมาช่วยก็ได้ จากนั้นคนให้ส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
ขนมปังได้ที่แล้วก็นำออกจากเตาค่ะ จากนั้นปาดครีมชีสลงไปให้ทั่วเลย โปะผักโขมลงไปอีกนิด อันนี้ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่นะคะ ไม่เป็นไรค่ะ จากนั้นวางแซลมอนลงไปเลยค่ะ อย่าใส่เยอะเกินไปนะคะเพราะมันจะเค็มมาก ๆ วางหอมแขกลงบนแซลมอน เด็ดผักชีลาวเพิ่มลงไปอีกนิด นำขนมปังครึ่งที่เหลือมาวางประกบ ทานได้เลยค่ะ สำหรับใครที่มีแซลมอนเหลือสามารถเข้าไปอ่านเมนูจากปลาแซลมอนที่เราเขียนไว้แล้วได้นะคะ
5. แซนด์วิชทูน่าคอร์นสลัด
อากาศร้อน ๆ หรือตอนเช้า ๆ ก็อาจจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกง่วง มาเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายด้วยแซนด์วิชทูน่าคอร์นสลัดกันหน่อยดีกว่าค่ะ เราจะนำขนมปังโฮลวีทมากริลจนหอมและกรอบขึ้น จากนั้นก็มาทำทูน่าคอร์นสลัดกันต่อ สลัดของเรานอกจากรสชาติอร่อยกลมกล่อมแล้วยังมีสีสันสวยงามทั้งแครอท, ข้าวโพด ถั่วลันเตา และสับปะรด ได้เนื้อแน่น ๆ ของทูน่า มีความกรุบกรอบของผักกาดแก้ว ส่วนรสชาติก็เปรี้ยวหวานสดชื่นมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากทำเป็นสเปรดแซนด์วิชแล้วคอร์นสลัดที่เหลือยังแช่เย็นเก็บไว้ทานได้อีกด้วย
วัตถุดิบแซนด์วิชทูน่าคอร์นสลัด
- ขนมปังโฮลวีท
- ทูน่าในน้ำแร่
- ข้าวโพด
- ถั่วลันเตา
- แครอท
- สับปะรด
- ผักกาดแก้ว
- ครีมสลัด
- มายองเนส
วิธีทำแซนด์วิชทูน่าคอร์นสลัด
เริ่มทำคอร์นสลัดกันก่อนดีกว่าค่ะ ปอกเปลือกแครอทแล้วหั่นเป็นเต๋าเล็ก ๆ ส่วนถั่วลันเตาก็นำไปลวกให้หายเย็น ฝานข้าวโพดเป็ดเมล็ด ๆ แล้วก็หั่นสับปะรดเป็นชิ้นเล็กแต่ไม่ถึงกับเละค่ะ จากนั้นก็นำส่วนประกอบทั้งหมดมาใส่รวมกันในอ่างผสม ตักเอาเนื้อทูน่าออกมา ยีให้เนื้อแตก ใส่สลัดครีมและมายองเนส คนให้เข้ากัน จากนั้นนำขนมปังมาจี่บนกระทะจนขอบทั้งสองด้านกรอบ นำออกมาแล้ววางผักกาดแก้วรองสักหน่อย วางคอร์นสลัดลงไปด้านบน ผักกาดแก้วอีกหนึ่งชั้น เอาขนมปังอีกหนึ่งแผ่นมาวางประกบ หั่นครึ่งแล้วเสิร์ฟได้เลยจ้า ง่ายสุด ๆ
6. พิซซ่าแซนด์วิช
ต่อมาเป็นแซนด์วิชพิซซ่าเอาใจเด็กน้อยค่ะ เด็ก ๆ เนี่ยชอบทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ยิ่งอาหารที่มีซอส มีชีสเยิ้ม ๆ นี่ยิ่งชอบเลยค่ะ ดังนั้นรสชาติแซนด์วิชพิซซ่าของเราก็จะมีรสชาติเปรี้ยวนิด หวานหน่อยเอาใจเด็ก เพิ่มความหอมด้วยออริกาโน ใส่แฮมใส่ปูอัดล้น ๆ ทำไส้แน่น ๆ แค่นั้นยังไม่พอเพราะเรายังใส่ชีสให้แบบเยิ้ม ๆ ยืด ๆ แล้วยังแอบเพิ่มผักสามสีน่ารัก ๆ ลงไปด้วย หลังจากประกอบแซนด์วิชเสร็จแล้วก็นำไปกริลล์บนเนยจนหอมกรอบ หั่นทานตอนร้อน ๆ อร่อยฟินสุด ๆ ไปเลยค่ะ
วัตถุดิบพิซซ่าแซนด์วิช
- ขนมปัง
- แฮม
- ปูอัด
- ผักกาดแก้ว
- ผักสามสี (ข้าวโพด, แครอท, ถั่วลันเตา)
- ซอสมะเขือเทศ
- ซอสพริก
- มายองเนส
- มอสซาเรลลาชีส
- ออริกาโน
- เนยสด
วิธีทำพิซซ่าแซนด์วิช
เรามาเริ่มต้นทำซอสกันเลยค่ะ ผสมซอสมะเขือเทศ, ซอสพริก และออริกาโนลงในชามผสม ผสมให้เข้ากัน พักไว้ก่อน จากนั้นหันมาลวกแฮม, ปูอัด และผักสามสีให้สุกต่อค่ะ ลวกจนสุกดีแล้วก็นำแฮมออกมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่วนปูอัดก็ฉีกเป็นเส้น ๆ เตรียมไว้
หยิบขนมปังขึ้นมาค่ะ นำซอสพิซซ่าทาบนหน้าขนมปังให้ทั่ว จากนั้นวางแฮม, ปูอัด และผักสามสีเรียงลงไป โปะชีสเยอะ ๆ จากนั้นราดมายองเนสเพิ่มอีกนิดหน่อย วางผักกาดแก้วลงไปด้านบน หยิบขนมปังอีกหนึ่งแผ่นมาทาซอสแซนด์วิชให้ทั่ว พลิกด้านที่มีซอสประกบลงไปค่ะ
คราวนี้ก็มาถึงวิธีทำชีสเยิ้ม ๆ แล้ว ตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟกลางแล้วก็ใส่เนยลงไปละลาย ไม่ต้องใส่เยอะนะคะ เนยละลายดีแล้วก็นำแซนด์วิชลงไปย่างบนเนยให้หอม หลังจากแน่ใจว่าเกรียมดีแล้วก็พลิกอีกด้านหนึ่งลงย่างต่อให้สุกเกรียมเช่นเดียวกันค่ะ เหลืองดีแล้วก็ตักขึ้นมาหั่นตอนร้อน ๆ พร้อมทานค่ะ
7. แซนด์วิชแฮมชีส
ตามมาติด ๆ กับแซนด์วิชแบบเร่งด่วนอย่างเมนูแซนด์วิชแฮมชีส ขอรับรองเลยว่าเมนูนี้ทำง่าย ใช้วัตถุดิบน้อยมาก ๆ และใช้เวลาทำแค่แปปเดียวก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ แซนด์วิชของเราก็จะมีกลิ่นหอมเนย เนื้อขนมปังกรอบนอกนุ่มใน กัดลงไปเจอชีสมัน ๆ นัว ๆ และความหอมอร่อยของแฮม เมนูนี้แนะนำให้ทำตอนเช้า ทำเสร็จใหม่ ๆ ทานตอนร้อน ๆ อร่อยที่สุดเพราะชีสยังละลายเยิ้ม ๆ และเนยก็หอมกรุ่นอีกด้วย
วิธีทำแซนด์วิชแฮมชีส
- ขนมปัง
- แฮม
- เชดด้าชีส
- เนย
วัตถุดิบแซนด์วิชแฮมชีส
หยิบขนมปังขึ้นมาหนึ่งแผ่นค่ะ จากนั้นวางเชดด้าชีสลงไป ถ้าเพื่อน ๆ ใช้แบบแผ่นก็จะทำง่ายหน่อยนะคะ วางชีสแล้วก็ตามด้วยแฮม ปิดทับด้วยชีสอีกหนึ่งชั้น แล้วก็ขนมปังอีกหนึ่งแผ่น จากนั้นให้เพื่อน ๆ ทาเนยที่ด้านบนของขนมปังแบบบาง ๆ ให้ทั่วพลิกกลับอีกด้านทำเช่นเดียวกันค่ะ เสร็จแล้วก็นำไปย่างบนกระทะหรือเข้าเตาอบให้เนยละลาย นำออกมาแบ่งครึ่งตามแนวทแยงรับประทานได้เลยจ้า
8. แซนด์วิชทงคัตสึ
เปลี่ยนมาทำเมนูแซนด์วิชฉบับญี่ปุ่นกันบ้างดีกว่า แซนด์วิชทงคัตสึเป็นเมนูที่ฮิตมาก ๆ ในญี่ปุ่นเพราะทำง่าย มีรสชาติอร่อย และอิ่มท้อง เราจะนำเนื้อหมูส่วนสันในมาทอดให้เหลืองกรอบและนุ่มใน จากนั้นนำมารวมร่างกับขนมปัง เพิ่มผักลงไปอีกนิด ราดซอสทงคัตสึลงไปอีกหน่อย เสร็จแล้วก็ห่อไปกินระหว่างทางได้ฟีลสาวญี่ปุ่นสุด ๆ ในส่วนของรสชาติ แน่นอนว่าต้องได้กลิ่นหอมของหมูทอดและซอสทงคัตสึเค็ม ๆ หวานๆ ผักจะมีความสดและกรอบ ส่วนขนมปังหอมมาก!
วัตถุดิบแซนด์วิชทงคัตสึ
- ขนมปัง
- หมูสันนอก
- ไข่ไก่
- แป้งทอดกรอบ
- เกล็ดขนมปัง
- ผักกาดแก้ว
- เกลือ
- พริกไทยป่น
- เนยจืด
- มายองเนส
- ซอสทงคัตสึสำเร็จรูป
- น้ำมันพืช
วิธีทำแซนด์วิชทงคัตสึ
ก่อนอื่นเราต้องทำหมูทอดกันก่อนค่ะ เริ่มจากหยิบหมูขึ้นมาแล้วหั่นให้เป็นชิ้นบาง ๆ แต่ถ้าหมูบางอยู่แล้วก็ไม่ต้องนะคะ เสร็จแล้วใช้สันมีดหรือค้อนสำหรับทุบเนื้อทุบ ๆ ๆ ให้เนื้อนุ่มลงก่อน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยป่นสักนิดเพิ่มความอร่อย พักไว้ก่อน จากนั้นหันมาตอกไข่ใส่จานแล้วตีให้เข้ากัน เทแป้งทอดกรอบใส่จานอีกหนึ่งใบ ส่วนอีกจานก็ใส่เกล็ดขนมปัง เกลี่ยให้ทั่ว คราวนรี้เราก็หยิบเนื้อหมูขึ้นมาคลุกแป้งทอดกรอบให้ทั่ว เคาะแป้งส่วนเกินออก นำไปคลุกไข่ไก่ต่อ แล้วก็ปิดท้ายด้วยเกล็ดขนมปัง คลุกให้ทั่ว กดให้แน่นเเลยนะคะ
ตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันเยอะหน่อย เปิดไฟกลาง รอจนแน่ใจว่าน้ำมันร้อนได้ที่แล้วนำหมูลงทอดเลยค่ะ ทอดไปเรื่อย ๆ จนเกล็ดขนมปังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง พลิกด้านแล้วทอดต่อ เมื่อหมูเป็นสีเหลืองทองทั้งชิ้นแล้วตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน ระหว่างรอหมูหันมาเตรียมส่วนต่อไปเลยดีกว่า นำขนมปังมาทาเนยให้ทั่วทั้ง 2 ด้าน 2 ชิ้นแล้วนำเข้าเตาอบให้เหลืองกรอบ จากนั้นซอยผักกาดแก้วบาง ๆ คลุกกับมายองเนส เสร็จแล้วหยิบขนมปัง 1 ชิ้นออกมา ชั้นที่หนึ่งวางผักกาด ตามด้วยหมู ราดซอสทงคัตสึให้มั่วชิ้นหมูแบบพอประมาณ วางผักกาดตามลงไปอีกหนึ่งชั้น ปิดท้ายด้วยขนมปังอีกหนึ่งแผ่น หั่นครึ่งแล้วห่อให้เรียบร้อย พร้อมรับประทานแล้วค่ะ
9. แซนด์วิชนูเทลล่า
เบื่อแซนด์วิสที่เป็นของคาวแล้วเปลี่ยนมาทำของหวานบ้างดีกว่า สำหรับเด็ก ๆ แล้วนูเทลล่าเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ ด้วยรสสัมผัสหวาน ๆ มีรสช็อกโกแลต และกลิ่นหอมเตะจมูก เมื่อนำมารวมกับกล้วยที่มีกลิ่นหอมและรสชาติดีมากขึ้น ยิ่งได้ทาลงบนขนมปังที่กริลมาแบบกรอบ ๆ กัดลงไปเสียงดังกร๊อบแกร๊บและความหวานก็จะเริ่มกระจายในปาก ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งฟินจนหยุดไม่ได้
วัตถุดิบแซนด์วิชนูเทลล่า
- ขนมปัง
- กล้วย
- นูเทลลา
วิธีทำแซนด์วิชนูเทลล่า
วิธีการทำก็ง่ายสุด ๆ เลยค่ะ เพื่อน ๆ สามารถนำขนมปังไปย่างบนกระทะหรือนำเข้าเตาอบก็ได้ค่ะ กะให้ขนมปังมีสีเหลืองกรอบทั้ง 2 ด้าน จากนั้นพักให้หายร้อนก่อน ระหว่างรอก็ปอกกล้วยและหั่นเป็นแว่นบาง ๆ เตรียมไว้ค่ะ ขนมปังหายร้อนดีแล้วก็นำนูเทลลามาทาหน้าขนมปัง ตามด้วยวางกล้วยลงไปให้สวยงาม เพื่อน ๆ จะใส่เยอะหรือน้อยตามความชอบได้เลย ส่วนขนมปังอีกหนึ่งแผ่นก็นำมาทานูเทลลาให้ทั่ว จากนั้นวางประกบลงไปบนกล้วย แบ่งครึ่งพร้อมรับประทานได้เลยค่ะ เมนูนี้คุณสามารถเปลี่ยนเป็นเนยถั่วก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ
10. แซนด์วิชครีมสด
ปิดท้ายกันด้วยเมนูหวาน ๆ เอาใจสาว ๆ กันหน่อย เราคิดว่าหลาย ๆ คนคงจะเคยได้ลองลิ้มชิมรสเมนูกันแล้วและคงจะรู้ดีกว่าครีมนุ่ม ๆ มัน ๆ ที่สอดแทรกด้วยผลไม้รสเปรี้ยว ๆ หวานนี่ทำให้เรารู้สึกฟินและสดชื่นได้มากแค่ไหน แต่ราคาของแซนด์วิชครีมสดก็ไม่ใช่น้อย ๆ จะให้ซื้อทานทุกวันก็คงะไม่ไหว ลองเปลี่ยนมาทำแซนด์วิชครีมสดทานเองกันบ้างดีกว่าค่ะ บอกเลยว่าเพื่อน ๆ ต้องคิดไม่ถึงแน่นอนว่าเมนูนี้มันจะทำง่ายแสนง่ายและสามารถทานได้บ่อย ๆ ไม่มีเบื่อ
วัตถุดิบแซนด์วิชครีมสด
- ขนมปังขาว
- ผลไม้ที่ชอบ
- วิปปิ้งครีม
- นมข้นหวาน
วิธีทำแซนด์วิชครีมสด
ขั้นตอนแรกให้เพื่อน ๆ นำวิปครีมแบบกล่องไปแช่เย็นก่อนนะคะ จากนั้นกลับมาเตรียมผลไม้กันต่อเลย เพื่อน ๆ เลือกผลไม้ที่ชอบได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกีวี่, กล้วย, สตรอว์เบอร์รี, ส้ม หรือองุ่น แนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ๆ หน่อยนะ แต่ถ้าเป็นมะม่วงเบาอันนี้ก็ไม่น่าจะได้ เก็บไว้จิ้มพริกเกลือแทนดีกว่าเนอะ ได้ผลไม้มาแล้วก็จัดการปอกเปลือกและหั่นชิ้นให้เรียบร้อยเลย
ต่อมาก็หยิบวิปครีมออกมาใส่ชามผสมค่ะ เพิ่มความหวานด้วยนมข้นหวาน ใส่ได้ตามชอบเลยค่ะ จากนั้นใช้ตะกร้อมือหรือตะกร้อไฟฟ้าตีให้วิปครีมขึ้นฟูเลยค่ะ ขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลานิดนึงนะคะ วิปครีมยิ่งเย็นก็จะขึ้นฟูเร็วขึ้นนะคะ หลังจากวิปครีมขึ้นฟูเรียบร้อยแล้วก็มาประกอบร่างแซนด์วิชกันต่อเลย
นำแผ่นฟิล์มห่ออาหารมาวางรองก่อน จากนั้นวางขนมปังลงไป ขนมปังนี่ให้เพื่อน ๆ เลือกแบบตัดขอบนะคะ วางขนมปังแล้วก็ตามด้วยวิปครีมและผลไม้ค่ะ จากนั้นโปธวิปครีมลงไปอีกหนึ่งชั้น สามารถใช้ได้เยอะตามชอบเลยนะ ปิดท้ายด้วยขนมปังอีกแผ่นแล้วใช้ฟิล์มห่ออาหารห่อให้แน่นเพื่อให้แซนด์วิชของเราอยู่ตัว พักไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเพื่อกันไม่ให้วิปครีมเหลวและช่วยให้แซนด์วิชอร่อยขึ้นค่ะ จากนั้นก็นำมาหั่นครึ่งแบบไม่ต้องเอาฟิล์มออกแซนด์วิชจะได้ไม่เละ ก่อนรับประทานก็เอาฟิล์มออกก่อนนะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับสูตรแซนด์วิชทั้ง 10 สูตรที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ เรารวบรวมมาให้ครบทั้งแบบคาวและหวานเลยค่ะ เพื่อน ๆ จะได้มีตัวเลือกเยอะและทานได้ไม่จำเจ นอกจากนี้บางสูตรยังเหมาะสำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักอีกด้วย สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการทานขนมปังเพื่อลดน้ำหนักนี่เราขอบอกก่อนเลยนะคะว่าจริง ๆ แล้วปัจจัยที่ทำให้น้ำหนักของคุณลดหรือเพิ่มไม่ได้อยู่ที่ขนมปังเท่านั้น แต่มันรวมถึงแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ของเพื่อน ๆ ด้วยว่าจุลินทรีย์เหล่านั้นสามารถรับสารอาหารที่อยู่ในขนมปังที่คุณรับประทานเข้าไปได้หรือเปล่า ถ้ารับได้ก็จะช่วยให้ระบบการเผาผลาญของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ อย่างไรก็อย่าลืมทำแซนด์วิชรับประทานเป็นอาหารเช้ากันนะคะ นอกจากแซนด์วิชแล้วถ้าเพื่อน ๆ มีเวลามากพอ การทำข้าวกล่องไปทานที่โรงเรียนหรือที่ทำงานก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจและได้คัดเลือกวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพด้วยตัวของคุณเองด้วยค่ะ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอ ลองดูลิสต์เมนูอาหารตามสั่งที่เรารวมมาฝากเพื่อน ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจดูก็ดีนะคะ เพื่อน ๆ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่ามื้อต่อไปจะทานอะไรดีและไม่มำให้ต้องเสียเวลาด้วยค่ะ มีเมนูยอดฮิตอย่างข้าวผัดและผัดกะเพราสูตรต่าง ๆ ให้เพื่อน ๆ เลือกดูเยอะแยะเลยค่ะ
References
- ‘อาหารเช้า’ สำคัญไฉน– สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
- อาหารเช้ามื้อสำคัญ ไม่ควรมองข้าม– คลังความรู้สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
- ขนมปังขาว – วิกิพีเดีย
- ขนมปังโฮลวีท – วิกิพีเดีย
- White bread– วิกิพีเดีย
- Whole wheat bread – วิกิพีเดีย
- Inhibitory effect of bread crust antioxidant pronyl-lysine on two different categories of colonic premalignant lesions induced by 1,2-dimethylhydrazine – National Library of Medicine
- Pronyl-Lysin – วิกิพีเดีย