Archives: Custom Foods

เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมหมูถึงเป็นวัตถุดิบหลักบนโต๊ะอาหารทั้ง ๆ ที่บนโลกใบนี้มีสัตว์อีกตั้งเยอะแยะมากมายให้เราเลือกสรร? ถ้าจะให้อธิบายก็คงต้องย้อนเวลากลับไปสมัยโบราณนู่นเลยค่ะ บรรพบุรุษของเราในสมัยนั้นเริ่มมีการเพิ่มจำนวนประชากรกันมากขึ้น จากที่เคยเข้าป่าล่าสัตว์มาทำอาหารก็ต้องเริ่มหันมาปลูกพืชผักทานกันบ้างแล้วเพราะสัตว์ป่าที่หามาได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เอาง่าย ๆ คือคนเยอะแต่วัตถุดิบมีน้อยนั่นเอง แต่จะให้มาทานผักทานผลไม้กันทุกวันก็เบื่อและได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน บรรพบุรุษของเราเลยต้องหาสัตว์มาเลี้ยงเพิ่มอีกสักหน่อย ว่ากันว่าสัตว์ 3 ชนิดแรกที่ผ่านการคัดเลือกก็คือ วัว แพะ และหมูค่ะ เพราะสัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้เลี้ยงง่าย ตื่นเช้ามาเอาไปปล่อยในทุ่งหญ้าก็หาอาหารทานเองได้สบาย ๆ ได้ต้องเทคแคร์อะไรมากมาย สำหรับวัวและแพะส่วนใหญ่จะเลี้ยงเพื่อรีดเอานม และนี่ก็คือจุดกำเนิดของนม, ชีส และเนย ส่วนหมูจะแตกต่างออกมานิดหน่อยเพราะบรรพบุรุษของเราเลี้ยงเพื่อทานเนื้อโดยเฉพาะเลยค่ะ เพราะหมูโตเร็ว เลี้ยงง่าย แปป ๆ ก็โต แปป ๆ ก็ตั้งท้อง ออกลูกครั้งละหลายตัว ดังนั้นการเลี้ยงหมูจึงมีแต่คุ้มกับคุ้มเพราะสามารถนำมาทานได้ทุกส่วนตั้งแต่หัวยันหาง ซึ่งต่อมาการเลี้ยงสัตว์ก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วแทบจะทุกมุมโลกและเริ่มมีการนำเอาสัตว์ชนิดอื่น ๆ มาเลี้ยงมากขึ้น สำหรับเอเชียประเทศแรกที่มีการเลี้ยงหมูอย่างจริงจังและบริโภคเนื้อหมูมากที่สุดก็คือพี่จีนแผ่นดินใหญ่ค่ะ แล้วก็เป็นชาวจีนเหมือนกันที่เข้ามาทำงานในเมืองไทยและหอบเอาหมูมาเลี้ยงทำให้เราได้รู้จักและลิ้มรสวัตถุดิบอันโอชะ และในเมื่อเรามีวัตถุดิบอันทรงคุณค่าวางอยู่ตรงหน้า เราจึงไม่รอช้ารีบนำเนื้อหมูมาปรุงเป็นอาหารเลิศรสต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นต้ม, ผัด, แกง, ทอด หรือย่าง ส่วนที่เหลือก็นำไปตากแห้ง, รมควัน … Read more

ปัญหาสุดคลาสสิกของการย้ายไปอยู่หอก็คือเรื่องอาหารการกินค่ะ ถึงแม้ว่ารอบ ๆ ตัวหอหรือที่พักจะเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อย ๆ มากมายแต่จะให้ซื้อข้าวทานทุกมื้อก็อาจจะไม่ไหว ต้นเดือนอาจจะยังอู้ฟู่หน่อยเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น แต่เริ่มเข้าสู่ปลายเดือนเมื่อไหร่อาจจะต้องเซฟงบสักหน่อยเดี๋ยวเงินที่มีจะไม่พอสำหรับกิจกรรมสังสรรค์ (อิอิ) แต่เมื่อต้องมาลงมือทำอาหารทานเองหลายคนกลับคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรทานดีนะ ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะวันนี้เราได้รวบรวมเมนูอาหารที่เหมาะกับเด็กหอมาฝากเพื่อน ๆ แล้วค่ะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยจ้า สูตรเมนูอาหารสำหรับเด็กหอ 1. แซนด์วิช เริ่มกันแบบง่าย ๆ ด้วยเมนูแซนด์วิชที่ทั้งง่ายและใช้วัตถุดิบน้อยมาก ๆ เลยค่ะ เพียงแค่เราซื้อขนมปังมาเก็บไว้สักหนึ่งแถว ไข่อีกเล็กน้อย ผักนิดหน่อย และซอสอีกนิดนึง จากนั้นเราแค่ตื่นมาต้มไข่ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ เสร็จแล้วออกมาปอกและหั่นไข่เรียงใส่ขนมปัง โปะผักตามใจชอบ และราดซอสอีกเล็กน้อยจากนั้นก็หยิบไปทานระหว่างเดินทางไปเรียนหรือทำงาน แค่นี้เราก็มีอาหารง่าย ๆ เอาไว้ทานรองท้องแล้วจ้า ยิ่งได้นมหรือกาแฟอีกสักแก้วล่ะแจ่มเลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากเพิ่มรสชาติให้เมนูแซนด์วิชไม่น่าเบื่อ ก็จจะลองใช้เครื่องทำแซนด์วิชหรือเครื่องปิ้งขนมปังเพิ่มเติม เพื่อทำให้แซนด์วิชมีความกรอบและความร้อนน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นก็ได้ค่ะ หรือหากใครเบื่อรสชาติเดิม ๆ แล้ว จะลองใช้เป็นแยมผลไม้อย่างแยมส้มหรือแยมสตรอว์เบอร์รี่ นอกจากนี้เรายังมีเมนูที่เกี่ยวขนมปังแผ่นอีกมากมายที่ไม่ใช่แค่แซนด์วิชด้วยนะคะ 2. ข้าวต้มหมูเด้ง อัพเกรดมื้อเช้าให้ดูดีมีระดับขึ้นมาอีกนิดด้วยการทานข้าวต้มร้อน ๆ ก่อนออกไปเริ่มต้นวันใหม่ที่สดใส หน้าที่ของเราก็คือจะต้องซื้อวัตถุดิบมาเตรียมไว้ให้พร้อมค่ะ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสวย, หมูเด้ง, ซุปก้อน, พริกไทยป่น หรือต้นหอมและขิงพอกรุบกริบ ส่วนวิธีการทำขอบอกว่าง่ายมาก ๆ … Read more

ประวัติของเต้าหู้เริ่มต้นจากประเทศไหน? ย้อนไปใน มลฆลอานฮุย เมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว วันหนึ่ง เจ้าชายหลิวอัน พระราชนัดดาของกษัตริย์พระองค์แรกในราชวงศ์ฮั่น กำลังดูแลพระมารดาที่กำลังประชวรหนักอยู่ได้ทรงรับสั่งให้พ่อครัวนำถั่วเหลืองมาบดแล้วต้มเป็นน้ำซุปให้พระมารดาเสวยแทนพระกระยาหาร แต่เนื่องจากน้ำซุปถั่วเหลืองที่ได้นั้นมีรสชาติจืดชืดไปหน่อยพระองค์จึงได้เพิ่มเกลือเข้าไปด้วยเพื่อหวังให้ซุปถั่วเหลืองมีรสชาติขึ้นมา ขณะที่กำลังต้มเคี่ยวน้ำซุปอยู่นั้นปรากฏว่าน้ำถั่วเหลืองเริ่มจับตัวเป็นก้อนขาวและแยกชั้นกลายเป็นก้อนและน้ำอย่างเห็นได้ชัด เมื่อลองจับดูก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่ม พระองค์จึงลองนำเจ้าก้อนนี้ไปให้พระมารดาเสวย ด้านพระมารดาที่ประชวรหนักจนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงก็รู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากได้เสวยเข้าไปและทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก นับจากนั้นท่านก็ทรงเสวยเจ้าก้อนสีขาวนี้ทุกวันจนอาการประชวรหายดีในที่สุด หลังจากนั้นสูตรการทำก้อนขาวหรือ เต้าหู้ ก็เริ่มแพร่หลายออกไปยังมลฆลใกล้เคียง รวมไปถึงประเทศในกลุ่มเอเชียและแพร่หลายไปทั่วทั้งโลกในที่สุด (1,2) จากวันนั้นจนถึงวันนี้การทำเต้าหู้ได้ถูกพัฒนาเรื่อยมา โดยเฉพาะบ้านเกิดเต้าหู้อย่างมลฆลอานฮุยเองก็มีเต้าหู้หลากหลายรูปแบบให้คุณได้ลิ้มลอง แต่หลัก ๆ แล้วเต้าหู้ที่เราเห็นกันจะมีอยู่ 2 แบบ ดังนี้ค่ะ  เต้าหู้แข็ง เต้าหู้แข็งเป็นการนำน้ำนมถั่วเหลืองมาผสมกับดีเกลือ (แมกนีเซียมซัลเฟต) แล้ววางทิ้งไว้ เมื่อเวลาผ่านไปแมกนีเซียมจะเข้าไปจับตัวกับถั่วเหลืองและตกตะกอน จากนั้นก็จะนำไปกรองด้วยผ้าขาวบางเอาเฉพาะเนื้อเต้าหู้ไว้และขึ้นรูปให้เป็นก้อนเต้าหู้เหมือนที่เราคุ้นเคยกันค่ะ (1,2) สำหรับเต้าหู้แข็งก็จะมีหลายสีและหลายรูปแบบเลยค่ะ แบบอิริจินอลจะเป็นสีขาว ส่วนสีเหลืองจะเป็นการนำขมิ้นมาเคลือบผิวเต้าหู้ไว้ให้เป็นสีเหลือง นอกจากความสวยงามแล้วขมิ้นยังช่วยให้ผิวเต้าหู้แข็งและคงรูปได้ดีกว่าเต้าหู้ขาว ส่วนเต้าหู้พวงจะเป็นการนำเต้าหู้มาทอดจนพองแล้วร้อยเป็นพวงสำหรับทานกับก๋วยจั๊บหรือพะโล้ค่ะ และอีกหนึ่งชนิดที่เราจะเห็นได้บ่อยก็คือเต้าหู้ทอดที่มีผิวด้านนอกกรอบ ๆ และด้านในนุ่มนิ่มอันนี้ก็นับเป็นเต้าหู้แข็งเหมือนกันค่ะ เต้าหู้อ่อน เต้าหู้อ่อนจะมีวิธีการทำที่แตกต่างจากเต้าหู้แข็งเล็กน้อยค่ะ สำหรับเต้าหู้อ่อนจะเป็นการนำน้ำนมถั่วเหลืองมาผสมกับยิปซัม (แคลเซียมซัลเฟต) เมื่อตกตะกอนแล้วเนื้อเต้าหู้ที่ได้ก็จะมีความเนียนละเอียดมากกว่าการใช้แมกนีเซียมซัลเฟตเพราะเนื้อเต้าหู้อุ้มน้ำไว้มาก หลังจากนั้นจึงนำมากรองแล้วขึ้นรูปให้เป็นก้อนเหมือนกับการทำเต้าหู้แข็งค่ะ (1,2) สำหรับเต้าหู้อ่อนก็จะมีหลากหลายชนิด ส่วนเต้าหู้ไข่ที่เรานิยมนำมาใส่ในแกงจืดก็จะมีวิธีการทำเหมือนกันแต่จะเติมไข่ไก่เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความนุ่มและกลิ่นหอมของไข่ค่ะ สูตรเมนูอาหารจากเต้าหู้ แน่นอนว่าเต้าหู้ไม่ได้มีดีแค่สีขาวนวลหรือเนื้อสัมผัสนุ่ม … Read more

ขนมปังเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในยุโรป/อเมริกา หากเปรียบเทียบขนมปังกับอาหารบ้านเราก็คงจะเป็นข้าวหอมมะลิที่ทุกบ้านจะต้องขาดไม่ได้ในแต่ละวัน ซึ่งหากจะให้เท้าความจริง ๆ ขนมปังนั้นมีมานานก่อนคริสต์กาลอีกค่ะ โดยเขาได้ทำอาหารชนิดหนึ่งขึ้นโดยการนำรากไม้อย่างต้นธูปฤาษีหรือเฟิร์นมาบดกับโขดหินแล้วนำน้ำแป้งสีขาว ๆ มาทาลงบนโขดหินที่ถูกเผาจนร้อนจัด เมื่อแป้งจากรากไม้โดนความร้อนก็สุกฟูขึ้นเป็นแผ่นแป้งแบน ๆ และสามารถนำมารับประทานได้ ซึ่งอาหารชนิดนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักล่าสัตว์เนื่องจากปรุงง่ายและหาวัตถุดิบได้ทั่วไปในป่า ขณะเดียวกันชาวอียิปต์ที่กำลังจัดเตรียมอาหารอยู่ได้บังเอิญนำแป้งที่หมักทิ้งไว้ไปผสมกับแป้งใหม่โดยไม่รู้ตัว เมื่ออาหารถูกปรุงสุกแล้วพวกเขาก็ได้ค้นพบเมนูใหม่ที่มีลักษณะเป็นแป้งนุ่มฟู เนื้อสัมผัสบางเบา และเมื่อชิมเข้าไปก็ถึงกับต้องว้าวเพราะเมนูใหม่นี้กลับมีรสชาติดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเมนูนี้ก็กลายมาเป็นเมนูยอดฮิตและเริ่มมีการเผยแพร่ไปทั่วทุกทวีปและดูเหมือนจะได้รบความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายหมื่นปีแล้วก็ตาม และเมนูที่ว่าก็คือ “ขนมปัง” นั่นเองค่ะ วันเวลาผ่านมายาวนานหลายหมื่นปี การทำขนมปังได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดควบคู่ไปกับวิวัฒนาการของมนุษย์ จากโขดหินร้อน ๆ ในวันนั้น การทำขนมปังในปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องง่ายดายและไม่ยากเกินความสามารถเพราะเรามีเตาอบไฟฟ้าหรือเครื่องทำขนมปังที่คุณแค่โยนแป้งและส่วนผสมทุกอย่างลงไป เครื่องก็จะทั้งนวด ทั้งผสม และอบขนมปังให้คุณแบบอัตโนมัติและออกมาสวยงามราวกับเพิ่งซื้อมาจากร้านดัง แหม ง่ายขนาดนี้หลายคนคงจะถูกใจและทำขนมปังกันเพลินเลยทีเดียว แต่ทำออกมาแล้วจะให้ราดนมข้นเฉย ๆ ทาแยมสตรอว์เบอร์รี่, แยมส้ม ก็ดูน่าเบื่อไปหน่อย วันนี้เราเลยมาแชร์สูตรเมนูจากขนมปังแผ่นเพื่อเป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ ลองทำตามดูค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีเมนูอะไรบ้าง สูตรเมนูจากขนมปังแผ่น 1. ขนมปังหน้าหมู ขนมปังหน้าหมูเป็นเมนูของว่างที่อร่อยและทำได้ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ วัตถุดิบหลักจะมีแค่หมูและขนมปังแผ่น เพียงแค่เพื่อน ๆ หมักหมูให้มีรสชาติตามชอบ จากนั้นนำมาแปะลงบนแผ่นขนมปัง ตกแต่งด้วยผักชีและพริกชีฟ้าให้สวยงามอีกนิด จากนั้นนำไปทอดจนทั้งหมูและขนมปังสุกเหลือง … Read more

หมูยอหรือ “หย่อหลัวะ (giò lụa)” เป็นชื่อเรียกของไส้กรอกเวียดนามที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศไทย การทำหมูยอเป็นวิธีการถนอมอาหารของชาวเวียดนามที่นำเนื้อหมูมาปรุงรสด้วยเครื่องเทศแล้วนำมาห่อด้วยใบตอง ก่อนจะนำไปต้มเพื่อยืดอายุให้สามารถเก็บเนื้อหมูไว้ใช้ได้นานมากขึ้น ซึ่งการทำหมูยอจะมีความหลากหลาย ทั้งนำไปห่อใบตองแล้วต้ม, นำไปย่าง, นึ่ง, ทอด หรือขายแบบดิบเป็นหมูยอสดก็มีค่ะ ในส่วนของส่วนประกอบก็สามารถใส่ได้หลากหลาย ทั้งเนื้อหมูล้วน, เนื้อหมูผสมหนังหมู, ผสมเครื่องเทศ, ผสมพริกไทย หรือจะเปลี่ยนมาใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ อย่างเนื้อไก่, เนื้อปลา หรือเนื้อวัวก็ได้ วันนี้เราจึงมาพร้อมกับ 10 เมนูอร่อย ๆ จากหมูยอที่รับรองได้เลยว่าเพื่อน ๆ จะทานได้ไม่มีเบื่อแน่นอนค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าเมนูของเรามีอะไรบ้าง วิธีการทำหมูยอโฮมเมด นอกจากสูตรอาหารจากหมูยอแล้วเรายังมีวิธีการทำหมูยอมาฝากเพื่อน ๆ อีกด้วยค่ะ สำหรับวัตถุดิบที่เพื่อน ๆ จะต้องเตรียมก็จะมี เนื้อหมูส่วนสะโพกบด, แป้งข้าวโพด, กระเทียมสับ, ผงปรุงรส, พริกไทยดำคั่วป่น, เกลือป่น, ผงฟู และน้ำเย็นจัด ขั้นตอนแรกเราก็จะนำวัตถุดิบทั้งหมดยกเว้นเนื้อหมู, พริกไทยดำ และกระเทียมมาผสมรวมกันก่อนค่ะ คนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดีแล้วพักไว้ก่อน หันมาวางหมูลงในภาชนะ ใส่กระเทียมแล้วคลุกเคล้าหมูและกระเทียทให้เข้ากันก่อน ตามด้วยส่วนผสมที่ปรุงไว้ก่อนหน้า จากนั้นนวดจนหมูและส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีและน้ำปรุงซึมเข้าเนื้อหมูเลยค่ะ หลังจากนวดจนเข้ากันดีอล้วเราจะนำเนื้อหมูใส่เครื่องปั่นตามด้วยน้ำแข็งประมาณ … Read more

เราทุกคนรู้ดีว่าหากอยู่ในช่วงไดเอทควรทานอาหารแบบไหนถึงดีแต่บางครั้งเราก็ไม่สะดวกและไม่มีเวลามากพอจะเตรียมอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้ จึงทำให้การลดน้ำหนักมีอุปสรรคกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นไปอีก หากเราสามารถเลือกทานอาหารคลีนจากใน 7-Eleven ได้มันก็จะทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันทีเลยค่ะ เพราะในสถานการณ์คับขันที่คุณไม่มีทางเลือกมากนักก็ยังมี 7-Eleven แหล่งอาหารสำหรับคนสาย Healthy ไว้อุ่นใจตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำอาหารคลีนที่หาซื้อได้ง่าย ๆ จากใน 7-Eleven กันค่ะ แต่ต้องบอกก่อนว่าอาหารใน 7-Eleven แม้มันจะขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารคลีนแต่ในบางครั้งก็จะมีโซเดียมหรือน้ำตาลในปริมาณที่สูงเกินไป ใครที่กำลังคุมน้ำหนักอยู่จะต้องเลือกซื้อและรู้จักอ่านฉลากโภชนาการของอาหารเป็นให้นะคะ หากเป็นไปได้ก็ไม่แนะนำให้ทานบ่อย ๆ และไม่ควรทานอาหารแปรรูปหรืออาหารสำเร็จรูปเป็นประจำต่อเนื่องกัน ควรกินเป็นครั้งคราวสลับกันกับอาหารสดทำเองไปเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ปริมาณน้ำตาลที่ระบุในฉลาก บางครั้งน้ำตาลที่ระบุตามฉลากก็ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดว่าปริมาณน้ำตาลที่บอกนั้นต้องเป็นสารให้ความหวานอย่างพวกน้ำตาลทรายเสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้วสินค้าบางตัวก็ไม่ได้ใช้สารให้ความหวานเสมอไป อาทิเช่น น้ำตาลที่พบในนมวัว/นมแพะ/นมแกะที่มีรสจืด, ผลิตภัณฑ์ที่มาจากนม, หรือแหล่งคาร์โบไฮเดรตอื่น ๆ เหล่านี้ หากมองแต่ตัวเลขมันก็ดูค่อนข้างสูงจริง ๆ แต่มันไม่ได้อันตรายอย่างคิด เพราะมันเป็นน้ำตาลแลคโตส (Lactose) หรืออาจจะเป็นน้ำตาลตามธรรมชาติอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพหากบริโภคแต่พอดี และโปรดทราบไว้ว่าปริมาณน้ำตาลในฉลากโภชนาการหมายถึงน้ำตาลทุกประเภท ดังนั้นบ้างครั้งมันอาจจะเป็นน้ำตาลธรรมชาติหรืออาจจะเป็นน้ำตาลปรุงแต่งก็ได้ เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยคุณแยกประเภทน้ำตาลในอาหารคือถ้ามีการระบุว่าเป็น “แลคโตสฟรี”, “ปราศจากน้ำตาลแลคโตส”, “สำหรับคนแพ้แลคโตส/แพ้นมวัว” สิ่งเหล่านี้มักจะมาในรูปแบบน้ำตาลธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการย่อยด้วยเอนไซม์แลคเตสแล้ว … Read more

เห็ด นับเป็นราชั้นสูงที่เกิดขึ้นบนโลกนี้มายาวนานหลายพันปีแล้วค่ะ ต้นของเห็ดจะฝังตัวอยู่ภายใต้พื้นดินหรือพื้นผิวต่าง ๆ ที่มีอากาศชื้น ส่วนที่งอกออกมาจะเป็นดอกหรือที่เราเรียกกันว่าเห็ด ซึ่งดอกเห็ดก็มีหน้าที่เหมือนดอกไม้ทั่วไป นั่นก็คือภายในดอกเห็ดจะมีสิ่งที่เรียกว่า “สปอร์” ซ่อนอยู่ภายในร่องครีบใต้หมวกเห็ด เมื่อมีสมพัดผ่านมา ลมเหล่านั้นก็จะพัดเอาสปอร์ลอยไปตามไปตกอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ และเนื่องจากสปอร์มีขนาดล็กจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและมีน้ำหนักเบามาก ดังนั้นเห็ดจึงสามารถล่องลอยไปตามลมและเจริญงอกงามได้ในพื้นที่ห่างใกลเกินกว่าที่เราจะคาดถึง แต่สภาพแวดล้อมที่จะทำให้เห็ดเจริญเติบโตได้ดีที่สุดคือพื้นที่ชื้น มืด และมีอุณหภูมิต่ำ อากาศชื้น ตั้งแต่ป่าดงดิบบนเทือกเขาสูงไปจนถึงมุมอับเล็ก ๆ ภายในบ้านของคุณ เราสามารถแบ่งเห็ดได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ นั่นก็คือเห็ดชนิดที่สามารถรับประทานได้และเห็ดชนิดที่มีพิษไม่สามารถนำมารับประทานได้ หากมองแค่ลักษณะภายนอกจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเห็ดชนิดใดบ้างที่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ ดังนั้นคุณควรเลือกซื้อเห็ดจากแห่งที่สามารถเชื่อถือได้อย่างตลาดหรือห้างสรรพสินค้า ไม่ควรเก็บเห็ดที่ไม่รู้จักมาทานเองเด็ดขาดเพราะเห็ดบางชนิดมีพิษร้ายแรงถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะเห็ดที่มีสีฉูดฉาดและมีลักษณะสวยงาม เห็ดที่สามารถทานได้อย่างปลอดภัยที่เรารู้จักจะมีเห็ดนางฟ้า, เห็ดฟาง, เห็ดออรินจิ, เห็ดเข็มทอง, เห็ดชิเมจิ, เห็ดไมตาเกะ, เห็ดมัตสึตาเกะ, เห็ดกระดุม หรือเห็ดทรัฟเฟิล ซึ่งเห็ดถือว่าเป็นเพื่อนซี้สำหรับคนที่ลดน้ำหนักเพราะเห็ดเต็มไปด้วยโปรตีนและเมือกลื่นที่จะช่วยเคลือบกระเพาะอาหารและช่วยให้ขับถ่ายสะดวกมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเห็ดมีไขมัน 0% ไม่มีคอเลสเตอรอล แถมเห็ดหลาย ๆ ชนิดยังมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกายอีกด้วยค่ะ รู้อย่างนี้แล้วหลาย ๆ คนคงรู้สึกอยากทานเห็ดขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะคะ อย่ารอช้า เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเห็ดสามารถนำมาประกอบเป็นเมนูอะไรได้บ้าง สูตรเมนูอาหารจากเห็ด 1. ซุปเห็ด … Read more

“ข้าวต้ม” เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทานได้แทบตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าหรือตอนเย็นรวมไปถึงช่วงดึก จริง ๆ แล้วข้าวต้มแทบจะไม่แตกต่างจากข้าวสวยที่เราทานกันเป็นประจำทุกวันเลยค่ะ เพียงแต่ข้าวต้มจะมีน้ำเยอะ เมล็ดข้าวสุกนิ่มกว่า ระยะเวลาในการทำนานกว่าข้าวธรรมดานิดหน่อย แต่ถ้าต้มนานจนเกินไปข้าวต้มก็จะเละกลายเป็นโจ๊ก ซึ่งทั้งข้าวสวย ข้าวต้ม และโจ๊กเป็นอาหารประเภทเดียวกัน แค่ต่างกันตรงเทกซ์เจอร์และลักษณะภายนอกนั่นเอง โดยจุดกำเนิดของข้าวต้มน่าจะมาจากประเทศจีน เพราะคนจีนนิยมทานข้าวต้มเป็นอาหารเช้ากันอย่างแพร่หลาย และข้าวต้มสูตรแรก ๆ ที่คนไทยรู้จักก็น่าจะเป็นข้าวต้มขาวหรือข้าวต้มกุ๊ยที่เป็นที่นิยมในหมู่แรงงานชาวจีนที่เข้ามาทำงานในไทยเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว หลังจากนั้นการทานข้าวต้มก็เป็นที่นิยมมาเรื่อย ๆ ซึ่งปัจจุบันเรามีข้าวต้มอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ คือข้าวต้มขาว/ข้าวต้มกุ๊ยที่มักทานคู่กับกับข้าวแยกอีกจาน และข้าวต้มเครื่อง/ข้าวต้มที่ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผสมด้วยอย่างที่เราทานกันบ่อย ๆ ค่ะ การทานข้าวต้มช่วงเช้าและช่วงดึกนั้นมีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดมาก ๆ คือ ข้าวต้มที่ทานกันในช่วงเช้า มักจะเป็นข้าวต้มที่ปรุงรสชาติมาอย่างดีพร้อมกับใส่เครื่องเคียงต่าง ๆ มาครบในหนึ่งถ้วย ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มหมู, ข้าวต้มไก่, ข้าวต้มทะเล ถ้าจะเพิ่มไข่เค็ม, ไข่ลวก หรือไข่เยี่ยวม้าก็จะใส่มาในถ้วยข้าวต้มเลย เวลาทานก็ผสมคลุกเคล้าทุกอย่างในถ้วยให้เข้ากันแล้วตักทาน อาจจะมีการเพิ่มพริกน้ำส้มหรือพริกป่นเข้าไปอีกเล็กน้อยเพื่อรสชาติ แต่ส่วนใหญ่แล้วข้าวต้มตอนเช้าก็มักจะมีรสชาติเบา ๆ อ่อน ๆ ทานเข้าไปแล้วอุ่นท้อง ข้าวต้มรอบดึก มักจะเป็นข้าวต้มเกลือหรือข้าวต้มกุ๊ย เสิร์ฟมาในถ้วยเล็ก ๆ ราคา 5-10 … Read more

โรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบการเผาผลาญของร่างกาย สาเหตุหลักของโรคเกิดจากการที่ตับอ่อนที่มีหน้าที่ผลิตอินซูลินออกมาน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือเซลล์บางส่วนของร่างกายไม่ตอบสนองหรือไม่เปิดรับอินซูลิน ทำให้อินซูลินที่ถูกผลิตออกมาทำงานได้ไม่เต็มที่ หน้าที่ของอินซูลินคือเข้าไปในกระแสเลือดแล้วเปลี่ยนน้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดให้เปลี่ยนเป็นพลังงาน แต่เมื่ออินซูลินทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่เต็มที่ น้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดจึงยังอยู่ที่เดิม ไม่ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน มิหนำซ้ำน้ำตาลเหล่านั้นยังมีระดับที่เพิ่มมากขึ้นจากการทานอาหารต่าง ๆ เข้าไป ส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ, หลอดเลือดสมอง, โรคเกี่ยวกับตา, ไตวาย หรืออาจจะส่งผลถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและทันท่วงที (1,2,3) อินซูลิน คือฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ถูกผลิตและส่งออกโดยตับอ่อน อินซูลินรับหน้าที่เป็นหัวหน้าในการควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต เมื่อคุณทานอาหารเข้าไป อาหารเหล่านั้นจะถูกย่อยและแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือกากอาหารและสารอาหารคล้ายกับการทำงานของเครื่องคั้นน้ำผลไม้แบบแยกกาก ในขั้นตอนแรกทั้งสารอาหารและใยอาหารจะถูกย่อยรวมกันในกระเพาะอาหาร หลังจากนั้นจึงถูกส่งต่อไปยังลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ตามลำดับ ระหว่างการเดินทางเซลล์ในลำไส้จะดูดซึมเอาสารอาหารต่าง ๆ ออกไปเรื่อย ๆ เหลือไว้เฉพาะกากอาหาร สารอาหารที่ถูกดูดซึมออกไปจะกระจายตัวอยู่ในกระแสเลือดของเรา หนึ่งในนั้นก็คือคาร์โบไฮเดรตที่ถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคส หลังจากในกระแสเลือดมีน้ำตาลอยู่มากจนเกินไปอินซูลินจะออกมาทำหน้าที่เป็นตัวแทนจากบริษัททัวร์ พาน้ำตาลเดินทางผ่านเซลล์เพื่อไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายในรูปของพลังงาน ทำให้ในเลือดมีน้ำตาลอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่แออัดมากจนเกินไปและทำให้ส่วนอื่นของ ๆ ร่างกายทำงานได้สมดุลมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นการที่ตับอ่อนสร้างอินซูลินได้น้อยหรือเซลล์ต่อต้านการทำงานของอินซูลินจึงส่งผลให้เกิดการแออัดของน้ำตาลในเลือดหรือโรคเบาหวานนั่นเองค่ะ (4,5) เบาหวานมีกี่ชนิด? แต่ละชนิดมีอาการอย่างไรบ้าง? โรคเบาหวานชนิดที่ 1  เบาหวานชนิดนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะพบในเด็กและวัยรุ่นมากกว่า ซึ่งเบาหวานชนิดนี้จะเกิดจากการที่ตับอ่อนของคุณผลิตอินซูลินออกมาได้น้อยหรืออาจจะหยุดผลิตอินซูลินไปเลยก็ได้ค่ะ … Read more

อาหารไทยเป็นอาหารที่มีความโดดเด่นในเรื่องของรสชาติที่จัดจ้านและกลิ่นของเครื่องเทศค่อนข้างจะโดดเด่นเฉพาะตัวเลยแหละ และเครื่องเทศหลัก ๆ ที่เราใช้กันอย่างแพร่หลายก็จะมีข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม, พริก และใบมะกรูด ถ้าสังเกตคืออาหารไทยแทบจะทุกชนิดจะมีสมุนไพรเหล่านี้ผสมอยู่อย่างน้อยหนึ่งชนิดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด รวมถึงน้ำจิ้มและน้ำพริกต่าง ๆ นานา และ “ต้มยำ” ก็เป็นหนึ่งในอาหารที่มีการผสมผสานสมุนไพรหลากหลายชนิดเข้าด้วยกันและมีทั้งกลิ่นและรสชาติที่เป็นลักษณ์จนเรียกได้ว่าเจ้าต้มยำนี่แหละคืออาหารที่สะท้อนถึงความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี และเป็นอาหารที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สำหรับคำว่าต้มยำเนี่ยเป็นคำประสมที่มาจากคำว่า “ต้ม”  ที่เป็นกิริยาหมายถึงการนำของเหลวต่าง ๆ มาใส่ลงในภาชนะแล้วนำไปทำให้ของเหลวเหล่านั้นสุกด้วยความร้อน ส่วนคำว่า “ยำ” มีความหมายแปลว่าการคลุกเคล้าหรือการนำผักและเนื้อสัตว์มาผสมรวมกัน (1) เมื่อนำมารวมกันก็จะหมายความว่า ต้มยำคือแกงชนิดหนึ่งที่นำเสื้อสัตว์และผักมาต้มรวมเข้าด้วยกันนั่นเองค่ะ สูตรเมนูต้มยำ โดยทั่วไปอาหารประเภทยำจะมีรสชาติเปรี้ยวและเผ็ดโดดเด่น ดังนั้นต้มยำจึงมีรสชาติเผ็ดเปรี้ยวเหมือนกับยำนั่นเองค่ะ ซึ่งต้มยำเองก็สามารถแบ่งได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้มยำน้ำใส ต้มยำน้ำข้น โป๊ะแตก หรือต้มโคล้งก็เป็นต้มยำอีกหนึ่งชนิดเหมือนกันค่ะ ดังนันวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าต้มยำแต่ละชนิดจะใช้วัตถุดิบและมีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 1. ต้มยำกุ้งน้ำใส พูดถึงต้มยำ เมนูแรกของเราก็ต้องเป็นอาหารไทยที่ครองใจคนทั้งโลกอย่างต้มยำกุ้งใช่ไหมคะ แหม ถ้าไม่พูดถึงเมนูนี้ก็คงจะเกินไปหน่อย สำหรับเมนูนี้หลายคนคงจะเคยทานกันมาบ้างแล้วและก็คงจะทราบกันดีว่าความเผ็ดร้อนและรสชาติเปรี้ยว ๆ ของต้มยำกุ้งทำให้เรารู้สึกสดชื่นและตื่นตัวมากแค่ไหน สำหรับวันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาเข้าครัวทำต้มยำกุ้งน้ำใสทานกันที่บ้านค่ะ น้ำต้มยำร้อน … Read more